- ทัวร์ช่วงเดือน ก.ย. - ต.ค. 2566
- ทัวร์ยุโรป เที่ยวยุโรป ทัวร์ต่างประเทศ แพคเกจทัวร์ยุโรป โปรแกรมทัวร์ยุโรป
- ทัวร์สแกนดิเนเวีย ทัวร์ล่าแสงเหนือ
- ทัวร์ไอซ์แลนด์
ทัวร์ยุโรป : SIX NATURE ICELAND สายการบินไทย 14 วัน (TG/FI) **SPECIAL**
กำหนดการเดินทาง : 12 – 25 สิงหาคม 2566
ประเทศ : ICELAND
สายการบิน : การบินไทย TG
ราคา : 299,800 บาท
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพฯ – โคเปนเฮเก้น
22.00.น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 2 แถว B เคาน์เตอร์สายการบินไทย (TG) เจ้าหน้าที่จะคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
วันที่สองของการเดินทาง
โคเปนเฮเก้น – เรคยาวิก – ชมเมือง – บอร์การ์เนส
07.40 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง เดินทางถึง สนามบินกรุงโคเปนเฮเกน (COPENHAGEN) ประเทศเดนมาร์ก *** อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ภายในบริเวณเล้าจ์ของสนามบิน ซึ่งมีสิ่งอำนวย ความสะดวกคอยบริการ อาทิ อาหารว่าง และเครื่องดื่มหลากหลาย, ห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมบริการ ฟรีอินเตอร์เน็ต เพลิดเพลินกับหนังสือพิมพ์ และนิตยสารชั้นนำที่มีไว้คอยบริการ ได้เวลาอันสมควร ***
เที่ยง *** อิสระอาหารกลางวันภายในภัตตาคารบริเวณสนามบิน ***
14.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเรคยาวิก โดย สายการบิน ICELAND AIR เที่ยวบินที่ FI 205
15.25 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองเคฟลาวิก (KEFLAVIK INTL AIRPORT) เพื่อนำท่านสู่ เมืองเรคยาวิก (REYKJAVIK) เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เรียบร้อยแล้ว
*** เวลาที่เมืองเรคยาวิกช้ากว่าโคเปนเฮเก้น 2 ชั่วโมง ***
เรคยาวิก (REYKJAVIK)
เมืองเรคยาวิก (REYKJAVIK) เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ในภาษาไอซ์แลนดิกแปลว่า “The bay of smoke” และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั่วโลกเหนือมากที่สุด ชาวนอร์ดิค เป็นผู้อพยพคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เมืองเรคยาวิกในปี พ.ศ. 1413 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 2329 และเนื่องด้วยความร้อนจากภายใต้พื้นโลกนั้นแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจนที่นี่ในรูปแบบของบ่อน้ำร้อน ทำให้เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและไอน้ำจากความร้อนใต้พื้นดิน ทำให้ประเทศไอซ์แลนด์นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังจากธรรมชาติที่ยังคงถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) เพื่อนำท่านสู่ เมืองบอร์การ์เนส (BORGARNES) (75 กิโลเมตร) จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม B59 หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
วันที่สามของการเดินทาง
บอร์การ์เนส – สติกกิชฮอลเมอร์ – ภูเขาคีร์กจูเฟล – บอร์การ์เนส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสติกกิชฮอลเมอร์ (STYKKISHOLMUR) (100 กิโลเมตร) เป็นเมืองเล็กๆที่มีสีสัน และกลิ่นอายแบบเดนิช ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของไอซ์แลนด์ในภาคเหนือของคาบสมุทร Saefellsnes
VIKING SUSHI ADVENTURE
จากนั้นนำท่าน ทำกิจกรรม VIKING SUSHI ADVENTURE เป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยการนำท่านล่องเรือสู่ท้องทะเล สัมผัสชีวิตสัตว์น้ำ และวิถีชีวิตการตกปลาแบบคนในท้องถิ่นตามแบบฉบับ Traditional Icelandic อันเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ท่านจะได้ลิ้มลองความสดใหม่ของสัตว์น้ำที่
นำขึ้นมาจากท้องทะเล อาทิ หอยเชลส์ และหอยเม่นทางฝั่งไอซ์แลนดิคที่น้อยคนนักจะได้ลิ้มลอง พร้อมเพลิดเพลินกับทัศนียภาพทางธรรมชาติตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน ชื่นชมกับความสวยงามของ ภูเขาคีร์กจูเฟล (KIRKJUFELL) (45 กิโลเมตร)
ภูเขาคีร์กจูเฟล (KIRKJUFELL)
ภูเขาคีร์กจูเฟล (KIRKJUFELL) ภูเขาที่เสมือนเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประเทศไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักท่องเที่ยว เพื่อให้ท่านได้ถ่ายภาพความงดงามของที่นี่กลับไปเป็นที่ระลึกเป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร ล้อมรอบไปด้วยวิวทิวทัศน์สุดอัศจรรย์ ทั้งหาดทราย ชายทะเล และน้ำตก ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี ถ่ายภาพบรรยากาศโดยรอบตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เส้นทางแหลมสแนเฟลล์เนส (Snaefellsness peninsular) (25 กิโลเมตร)มรดกทางธรรมชาติของยุคน้ำแข็ง ที่นี่เป็นที่เลื่องลือมานานถึงความลึกลับจน จูลส์ เวิร์น เลือกให้เป็นฉากของนิยายอมตะของเขา “Journey to the Center of the Earth”
เส้นทางแหลมสแนเฟลล์เนส
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโอลาฟส์วิค (OLAFSVIK)
เป็นหมู่บ้านชาวประมงบรรยากาศน่ารักที่ท่านสามารถแวะถ่ายภาพบรรยากาศโดยรอบ และน้ำตก Bæjarfoss ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านเดินทางต่อ ผ่านทิวทัศน์สองข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งหินลาวาสีเขียวตัดกับหิมะสีขาวดูสะอาดเพื่อนำท่านสู่ หมู่บ้านชาวประมง Anastarpi แวะถ่ายรูปบริเวณกับหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะตามธรรมชาติจนรังสรรค์ออกมาเป็นความงดงามที่ไม่ควรมองผ่านไป จากนั้นนำท่าน ผ่านชมหมู่บ้าน Hellissandur เป็นหมู่บ้านชาวประมงอันเก่าแก่ตั้งอยู่ที่ด้านตะวันตกของไอซ์แลนด์ เป็นแหล่งรวมของพิพิธภัณฑ์ทางทะเลและพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่สำคัญของไอซ์แลนด์ และเดินเล่นบริเวณชายหาดสีดำที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงตามอัธยาศัย กระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่ที่พักโรงแรม B59 หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม B59 หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง
บอร์การ์เนส – บ่อน้ำร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ – น้ำตกเฮินฟอซซ่า – อาคูเรย์รี่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver Thermal Spring) (40 กิโลเมตร)
บ่อน้ำร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์
บ่อน้ำร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver Thermal Spring) มีอุณหภูมิน้ำสูงที่สุดถึง 97 องศาเซลเซียส เป็น
บ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และไหลเร็วที่สุดในยุโรป
จากนั้นนำท่าน ชมความสวยงามของน้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfalls) (25 กิโลเมตร)
น้ำตกเฮินฟอซซ่า
น้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfalls) เป็นน้ำตกสาขาหนึ่งของน้ำตกใหญ่ที่ก่อกำเนิดจากแหล่งลำธาร และแม่น้ำสายต่างๆเป็นระยะทางกว่า 900 ม. ของทุ่งลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟที่อยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งแลงค์โจคูล “Langjokull” จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) (340 กิโลเมตร)
อาคูเรย์รี่ (Akureyri)
อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาอาคูเรย์รี่ “Akureyri Hill” มีแม่น้ำโครสซาเนสบอร์เกียร์ “Krossanesborgir River” เป็นแม่น้ำสำคัญของเมืองไหลผ่าน เนื่องจากเป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่น ถึงแม้จะอยู่ห่างจากเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล “Arctic Circle” เพียง 60 ไมล์ เท่านั้น ผ่านชมบ้านเรือนที่จัดแผนผังเมืองอย่างเป็นระเบียบสวยงาม จนกระทั่งถึง เมืองอาคูเรย์รี่
จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองที่มีสัสันอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นสวยงามด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีสีสันเลาะเลียบไปตามไหล่เขาที่รังสรรค์โดยธรรมชาติไว้อย่างงดงาม เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่น่าสนใจ และให้ท่านได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง อันเป็นความแปลกใหม่ทีน้อยคนนักจะได้สัมผัส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม EDDA AKUREYRI หรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง
อาคูเรย์รี่ – ฮูซาวิค – ล่องเรือชมปลาวาฬ – อาคูเรย์รี่ – ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮูซาวิค (Husavik) (80 กิโลเมตร)
ฮูซาวิค / ล่องเรือชมปลาวาฬ
หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านเรือนน่ารักเหมือนฉากละคร ลักษณะบ้านเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็ก มีชั้นเดียว รูปแบบบ้านจะแตกต่างกันตามสไตล์ และมีลักษณะเด่น คือ หลังคาสารพัดสีและอีกหนึ่งกิจกรรมของ เมืองฮูซาวิค คือ ในอดีตเป็นแหล่งประมงขนาดใหญ่ กระทั่งถูกดัดแปลงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการล่องเรือชมปลาวาฬกลางทะเล ซึ่งท่านมีโอกาสเห็นวาฬมิงค์ สูงถึง 98.2% จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
*** ทั้งนี้การล่องเรือชมปลาวาฬนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันเป็นหลัก ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยจะหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่น่าสนใจมาทดแทนให้ท่าน ***
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri)
อาคูเรย์รี่ / ชมเมือง / ช้อปปิ้ง
จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับโบสถ์อาคูเรย์รี่ “Akureyri Church” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นโบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน ออกแบบโดยสถาปนิก Gudjon Samuelsson สร้างในปี 1940 อิสระให้ท่าน เดินเล่นบนถนนคนเดินเกเรอโตรกาตา “Gerartogata Street” ถนนสายช้อปปิ้งของเมืองซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมท้องถิ่นมากมายให้เลือกสรร จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองที่มีสัสันอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นสวยงามด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีสีสันเลาะเลียบไปตามไหล่เขาที่รังสรรค์โดยธรรมชาติไว้อย่างงดงาม เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง ที่น่าสนใจ และให้ท่านได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง อันเป็นความแปลกใหม่ทีน้อยคนนักจะได้สัมผัส
วันที่หกของการเดินทาง
อาคูเรย์รี่ – น้ำตกโกด้า – อาบน้ำแร่ในเขตทะเลสาบมิวัตน์ – เอยิลส์สตาดีร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกโกด้า “Godafoss Waterfall” (35 กิโลเมตร)
น้ำตกโกด้า (Godafoss)
หรือที่รู้จักในนาม น้ำตกของพระเจ้า “The Waterfalls of Gods” ซึ่งมีความสูง 12 ม. และเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักบุญชาวคริสต์เมื่อพันปีก่อนคริสตกาล อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกแห่งนี้ จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านสู่ เขตทะเลสาบมิวัตน์ “Myvatn Lake”
ทะเลสาบมิวัตน์ / อาบน้ำแร่
เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนซึ่งมีผลพวงมาจากลาวาภูเขาไฟและพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรณีวิทยา และได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ของไอซ์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1974 เพื่อนำท่าน อาบน้ำแร่ในเขตทะเลสาบมิวัตน์ “Myvatn Nature Baths” อีกหนึ่งเขตอาบน้ำแร่ของ ไอซ์แลนด์ เป็นน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เนื่องจากเขตทะเลสาบมิวัตน์ “Myvatn Lake” เป็นเขตที่มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ใต้ดินจึงเป็นแหล่งสะสมของแร่ธาตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โซเดียม คลอรีน ซิลิก้า เป็นต้น โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 36-40 องศาเซลเซียส
(มีบริการผ้าเช็ดตัวให้ท่านละ 1 ผืน และกรุณาเตรียม ชุดว่ายน้ำไปด้วยสำหรับแช่น้ำพุร้อน)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์สู่ เมืองเอยิลส์สตาดีร์ (EGILSSTADIR) (175 กิโลเมตร)
เอยิลส์สตาดีร์ (EGILSSTADIR)
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันออกของไอซ์แลนด์
เมืองนี้อยู่ติดกับผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ที่ชื่อว่า ฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógur) และแม่น้ำลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljót River) ที่มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับ ลาการ์ฟโลย์ท ไวร์ม (The Lagarfljót worm) ที่เป็นพญานาคในตำนานในช่วงศตวรรษที่ 13 ที่ท่านอาจไม่เคยได้ยิน เดินทางถึง เมืองเอยิลส์สตาดีร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม VALASKJALF หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
เอยิลส์สตาดีร์ – Stokksnes Peninsula – ภูเขาเวสตราฮอร์น – เฮิฟ์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ แหลมสต็อกสเนส (Stokksnes Peninsula) (250 กิโลเมตร) ทางตะวันตกของประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อนำท่านชมความงดงามของภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn Mountain)
นำท่าน แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ เมืองเฮิฟ์น (Höfn) เป็นเมืองแห่งท่าเรือที่ใกล้กับภูเขานี้มากที่สุด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ แหลมสต็อกสเนส (Stokksnes Peninsula) เพือนำท่าน ถ่ายภาพความ งดงามบริเวณแหลมสต็อกสเนส อันมีไฮไลท์ คือ ภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) เป็นฉากหลัง
Vestahorm / Stokksnes Peninsula
Vestrahorn ภูเขาหินลาวาจากภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ห่างจากถนนหลวงหมายเลข 1 หรือ Ring Road เพียง 15 นาที เป็นภูเขาที่มองดูเหมือนโดดเดี่ยวกลางพื้นที่โล่งปลายแหลม แต่ความเป็นจริงเชื่อมต่อกับภูเขาในแผ่นดินใหญ่ ไม่ได้เป็นเกาะเหมือนที่หลายคนเข้าใจ และมีอุโมงค์ลอดใต้ภูเขาทั้งลูกเพื่อเชื่อมต่อภาคใต้กับภาคตะวันออก ที่นี่เป็นสถานที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับนักถ่ายภาพที่มักเดินทางแวะเวียนมาเยี่ยมชมและบันทึกภาพอันงดงามน่าอัศจรรย์ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน วิวของที่นี่จะเป็นวิวของภูเขามหึมาที่มีความสูงประมาณ 454 เมตร ตั้งอยู่หน้าหาดทรายดำ ซึ่งเมื่อเงาของภูเขาสะท้อนลงน้ำจะดูเหมือนกระจก ในแต่ละฤดูจะมีทิวทัศน์และภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป และในฤดูหนาว หากโชคดีพอก็จะได้ภาพของแสงเหนือตระการตาลอยอยู่เหนือภูเขาอันงดงามแห่งนี้อีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOFN หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
เฮิฟ์น – โจกุลซาลอน – ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง – หมู่บ้านวิก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โจกุลซาลอน (JOKULSARLON) ธารน้ำแข็งพันปี
โจกุลซาลอน (JOKULSARLON)
เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ปรากฏขึ้นครั้งแรกในช่วงปีค.ศ. 1934 -1935 และค่อยๆ ขยายตัวเพิ่มพื้นที่ขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันกินพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตรโดยมีความลึกของน้ำถึง 200 เมตร ถือได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่ลึกเป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ นำท่าน ล่องเรือชมธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายภาพกับหาดไดมอนด์ (DIAMOND BEACH)
หาดไดมอนด์ (DIAMOND BEACH)
หาดไดมอนด์ (DIAMOND BEACH) เป็นแถบทรายสีดำ ที่อยู่ในที่ราบน้ำแข็งเบรดาเมร์คูร์ซานดูร์ที่ยิ่งใหญ่กว่าซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนบนชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ที่หาดไดมอนด์ ภูเขาน้ำแข็งที่ปกคลุมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนถูกชะล้างบนชายฝั่ง ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทรายสีดำจากภูเขาไฟ วิวที่สวยงามแห่งนี้ทำให้เป็นสถานที่โปรดของช่างภาพและผู้รักธรรมชาติ อิสระให้ท่านถ่ายภาพตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองที่มีสัสันอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นสวยงามด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีสีสันเลาะเลียบไปตามไหล่เขาที่รังสรรค์โดยธรรมชาติไว้อย่างงดงาม เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่น่าสนใจ และให้ท่านได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง อันเป็นความแปลกใหม่ทีน้อยคนนักจะได้สัมผัส
นำท่านเดินทางกลับสู่ หมู่บ้านวิก (VIK) (195 กิโลเมตร)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม DYRHOLAEY หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
สโนว์โมบิล – หมู่บ้านวิก – แหลมดีร์โฮเลย์ – ชายหาดสีดำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่าน ทำกิจกรรมขับรถสโนว์โมบิล (SNOWMOBILE)
ขับรถสโนว์โมบิล
ขับรถสโนว์โมบิล (SNOWMOBILE) นำท่านเก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยวบนธารน้ำแข็ง ด้วยการขับขี่รถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็ง Vatnajokull Glacier
บนดินแดนที่อยู่สูงที่สุดของโลก ที่มีพื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง (คันละ 2 ท่าน พร้อมอุปกรณ์ครบชุด:ชุดกันความหนาว, หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบู๊ท) ได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพบริเวณชายหาดสีดำ (Reynisfjara Black Sand Beach) สถานที่ท่องเที่ยว
สุดน่าทึ่งของประเทศ ไอซ์แลนด์
เรย์นิสฟยารา (Reynisfjara)
หาดทรายสีดำ (Reynisfjara Black Sand Beach) อันมีเทือกเขาที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ เป็นหินอัคนีที่พบได้โดยทั่วไปที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก อิสระให้ท่านเดินเล่น และถ่ายภาพตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านชม แหลมดีร์โฮเลย์ (DYRHOLAEY)
แหลมดีร์โฮเลย์ (DYRHOLAEY)
แหลมดีร์โฮเลย์ (Dyrholaey) ดีร์โฮเลย์เป็นแหลมที่ยื่นออก
มาทางชายฝั่งตอนใต้ของไอซ์แลนด์ และตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านวิค (Vik) เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติมาตั้งแต่ปีค.ศ.1978 เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะเนินประตู (Door hill island)” คำว่าประตูมาจากลักษณะที่มีซุ้มลาวาโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน เมื่อทะเลสงบเรือขนาดใหญ่สามารถที่จะแล่นผ่านโค้งหินนี้ได้ ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวดีร์โฮเลย์คือ นกพัฟฟิน (Puffins) ที่หน้าตาน่ารัก โดยจะสามารถพบได้บริเวณนี้ตั้งแต่เดือนเมษายน
ไปจนถึงราวๆ ปลายเดือนสิงหาคม หรืออาจเลยไปจนถึงกลางเดือนกันยายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี
ซึ่งวันที่จะได้เห็นนกแก้วทะเลเหล่านี้ต้องเป็นวันที่อากาศดี ลมสงบ เพราะหากอากาศแปรปรวน ลมแรง ก็ยากจะนกพัฟฟินจะเผยโฉมออกมาให้เจอ
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักโรงแรม DYRHOLAEY หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
หมู่บ้านวิก – น้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์ – GOLDEN CIRCLE – เรคยาวิก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Falls) (65 กิโลเมตร)
น้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์
น้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Falls)เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ โดยน้ำตกมีความสูงประมาณ 60 เมตร (200 ฟุต) ท่านจะตื่นตาตื่นใจกับสายน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลหลั่งลงสู่พื้นราบตัดกับสีเขียวของมอสที่ปกคลุมโขดหินทั้งสองฝั่ง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำพุร้อนกีย์เซอร์ (GEYSIR) (140 กิโลเมตร)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านชม น้ำพุร้อนกีย์เซอร์ (GEYSIR)
น้ำพุร้อนกีย์เซอร์
น้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์
มีความร้อนประมาณ 400 องศาเซลเซียส พุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน ในอดีตน้ำพุร้อน สามารถพุ่งได้สูงถึง 200 ฟุตทีเดียว แต่ในปัจจุบันยังสามารถพุ่งได้มากสุดที่ประมาณ 60 – 100 ฟุต ทุกๆ 5 นาทีนับเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งที่ท่านไม่ควรพลาดชมเช่นเดียวกัน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกกูลฟอสส์ (GULLFOSS) น้ำตกที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ และอาจจะกล่าวได้ว่าสวยงามกว่าน้ำตกไนแองการ่าอีกด้วย
น้ำตกกูลฟอสส์
เป็นน้ำตกมีชื่อแห่งหนึ่งในจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งของประเทศนี้ และยังจัดว่าเป็นหนึ่งใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ใน “วงกลมทองคำ” (Golden Circle) ที่เมื่อผู้มาเยือนต้องไม่พลาดที่จะมาท่องเที่ยว ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มีความหมายว่า น้ำตกทองคำ เนื่องจากเมื่อละอองน้ำปะทะกับแสงแดดแล้วจะสะท้อนแวววาวออกมาเป็นสีทองอร่าม และปรากฏเป็นรุ้งกินน้ำให้พบเห็นแก่ผู้มาท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นภาพที่อลังการสวยงามสมคำเล่าลือ
จากนั้นนำท่านเดินทางชม อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (THINGVELLIR NATIONAL PARK)
อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1928 ถูกขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกว่าให้เป็นสถานที่อันเป็นมรดกของชาวโลกในปี ค.ศ. 2004 นอกจาก Thingvellir จะมีรอยแตกแยกของแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (The Mid-Atlantic Rift) แล้ว ยังมีภูเขา ทุ่งลาวา หุบผา ถ้ำ ลำธาร น้ำตก และทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ชมรอยแตกของเปลือกโลกที่กว้างขึ้นในแต่ละปี พร้อมชมร่องรอยอาคารรัฐสภาอันเก่าแก่ตั้งแต่ปี 930
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองเรคยาวิค (REYKJAVIK) (50 กิโลเมตร)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก GRANDHOTEL REYKJAVIK หรือเทียบเท่า
เรคยาวิก – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – แช่น้ำร้อนสกาย ลากูน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน ชมเมืองเรคยาวิก ถ่ายภาพความงามของโบสถ์ประจำเมือง โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา
โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา llgrímskirkja)
เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ ตัวโบสถ์มีความสูงถึง 74.5 เมตร สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิส เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี1945 แล้วเสร็จปี ค.ศ.1986 บริเวณด้านหน้าของโบสถ์ยังมีอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน (Leifr Eiriksson) ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ซึ่งในประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ถือว่าวาเลฟร์ เป็นชาวนอสร์ ชาติยุโรปคนแรกที่ไปเหยียบดินแดนแถบอเมริกาเหนือซึ่งรวมถึงกรีนแลนด์ด้วย โดยอนุสาวรีย์นี้สหรัฐอเมริกามอบให้แก่ไอซ์แลนด์เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปี รัฐสภาของไอซ์แลนด์
จากนั้นนำท่านผ่านชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ Hofdi House บ้านที่มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของชาติอันน่าสนใจ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยง ผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในการยุติสงครามเย็น
นำท่าน ผ่านชมรัฐสภาของชาวไอซ์แลนด์ และศาลาเทศบาลเมือง ได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เพอร์แลน (PERLAN) สถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
เพอร์แลน
ตั้งอยู่บนเนินเขา มีความสูงเท่ากับอาคาร 5 ชั้น จากพื้นดิน25.7 เมตร เป็นอาคารขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง ตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำขนาดใหญ่ 4 ฐานที่มองเห็นได้ ในระยะไกลโดดเด่น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน เดินเล่นชมเมือง และช้อปปิ้งสินค้าของฝาก ของที่ระลึกบริเวณ ถนนคนเดิน Laugavegur
ถนนคนเดิน Laugavegur
ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียง และเก่าแก่ที่สุดของเมือง Laugavegur มีความหมายว่า ”wash road” เนื่องจากอดีตเคยเป็นเส้นทางเดินสู่ บ่อน้ำพุร้อน โดยหญิงสาวในสมัยก่อนของกรุงเรคยาวิกจะเดินทางไปซักล้างเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มโดยใช้เส้นทางสายนี้ ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งแหล่งรวมของห้างสรรพสินค้าและ ร้านเสื้อผ้าบูติคมากมาย ได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สกาย ลากูน (SKY LAGOON)
แช่น้ำร้อนสกาย ลากูน (SKY LAGOON)
Sky Lagoon ตั้งอยู่บริเวณอ่าวคาร์สเนส ห่างจากตัวเมืองเรคยาวิก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ เพียงไม่กี่นาทีท่านพักผ่อนสามารถแช่น้ำในบ่อร้อนที่ให้บรรยากาศราวกับปล่องภูเขาไฟ พร้อมวิวท้องน้ำสุดลูกตาของมหาสมุทรแอตแลนติก แบบไร้สิ่งใดขว้างกั้น นอกจากบ่อน้ำร้อนแบบอินฟินิตี้พูลที่มีความยาวกว่า 70 เมตรแล้ว ที่นี่ยังมีห้องอบไอน้ำ ซาวน่า และบาร์น้ำ ไว้บริการอีกด้วย ทุกคนที่เข้าใช้บริการต้องอาบน้ำตามฉบับชาวไอซ์แลนด์เพื่อปรับธาตุร้อนและเย็น ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เริ่มต้นด้วยการปรับอุณหภูมิยังลากูนเพื่ออบอุ่นร่างกาย ก่อนกระโดดลงสระน้ำเย็นเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดการไหลเวียนของเลือด และกระชับผิว หลังจากนั้นใช้เวลา 5-10 นาทีในห้องสตรีม ต่อด้วยซาวน่า เดินเล่นผ่านหมอกเย็น ใช้สครับประจำถิ่นขัดผิว ก่อนลงไปผ่อนคลายอีกครั้งเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่ที่พัก GRANDHOTEL REYKJAVIK หรือเทียบเท่า
เรคยาวิก – โคเปนเฮเกน – ช้อปปิ้ง
เช้า *** บริการอาหารเช้าแบบ BREAKFAST BOX ***
07.45 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินโคเปนเฮเก้น โดยสายการบิน ICELAND AIR เที่ยวบินที่ FI 204
12.00 น. เดินทางถึง สนามบินโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก
โคเปนเฮเกน (COPENHAGEN)
กรุงโคเปนเฮเก้น (COPENHAGEN) เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก และเป็นเมืองหลวงของเดนมาร์ก ประเทศที่มีความสุขที่สุดอันดับ 2 ของโลก และถูกเรียกขานเมืองนี้ว่าเป็นเมืองในเทพนิยายอีกด้วย และยังเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการบริหารประเทศ รัฐสภา รัฐบาลและเป็นที่ตั้งพระราชวังหลวง เป็นที่ประทับของสมาชิกพระราชวงศ์ของเดนมาร์ก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่าน เดินเล่นบริเวณ STROGET จุดเริ่มต้นของถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของเมือง และถือเป็นถนนช้อปปิ้ง สายที่ยาวที่สุดของโลกอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม THE SQUARE ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
โคเปนเฮเกน – ชมเมือง – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่าน ชมกรุงโคเปนเฮเก้น เมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรปที่ก่อตั้งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ
ชมเมืองโคเปนเฮเกน
แวะถ่ายรูปกับ รูปปั้นนางเงือก (LITTLE MERMAID) รูปปั้นนางเงือก เป็นรูปปั้นสำริดที่นั่งอยู่บนก้อนหิน มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตร ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
จากนั้นนำท่านผ่านชม พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (AMALIENBORG PALACE) ตั้งอยู่ริมน้ำทางเหนือของตัวเมืองโคเปนเฮเกน เป็นพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้คือ สถาปัตยกรรมรูปแบบร็อคโคโค (ROCOCO ARCHITECTURE) ได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
14.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 951
กรุงเทพฯ
06.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..