08 – 17 เมษายน 2567  / 10 – 19 เม.ย 2567
วันเดินทาง
สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรีย, อิตาลี
ประเทศ

ทัวร์ยุโรป  : DOLOMITES IN WINTER

กำหนดการเดินทาง :  08 – 17 เมษายน 2567  / 10 – 19 เม.ย 2567

ประเทศ : SWISS – ITALY – AUSTRIA – GERMANY

สายการบิน : สวิส เที่ยวบินที่ LX 181

ราคา : 225,800 บาท

08 – 17 เมษายน 2567 (LX+LH)

10 – 19 เม.ย 2567  (TG) 

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

วันแรกของการเดินทาง

กรุงเทพ ฯ – ซูริค

10.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบินสวิส (LX) เจ้าหน้าที่

จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อน

13.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซูริค โดย สายการบินสวิส เที่ยวบินที่ LX 181

19.35 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  HILTON ZURICH AIRPORT  ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

2

วันที่สองของการเดินทาง

ซูริค – ชมเมือง – วาดุซ – ชมเมือง – บาด รากาซ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ชมเมืองซูริคตามอัธยาศัย

ซูริค (ZURICH) / ชมเมือง

เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิส และมีแม่น้ำลิมมัตเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด ซูริคไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ ธนาคาร และวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย

นำท่านชมเมือง ถ่ายภาพกับมหาวิหารคู่บ้านคู่เมือง กรอส มุนเตอร์ (GROSSMUNTE CHURCH)  ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของซูริค ถัดไปไม่ไกลจะพบกับโบสถ์อีกแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า PETERSKIRCHEโดย ด้านบนสุดของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นเป็นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ติดอันดับหน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (VADUZ) (110 กิโลเมตร) เมืองหลวงของประเทศลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) ประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางยุโรประหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย

วาดุซ (VADUZ)

เป็นเมืองหลวงของประเทศลิกเตนสไตน์ ประเทศที่มีพื้นที่ทั้งหมดเพียง 160 ตารางกิโลเมตร และยังเป็นประเทศเดียวในโลกที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ แต่ไม่มีพรมแดนติดกับประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในโลกโดยมี GDP สูงถึง 145,765 ยูโรต่อปีเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีภูมิประเทศแบบเทือกเขาแอลป์ที่งดงาม ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ศิลปะและอาณาจักรแห่งแสตมป์อันโด่งดัง เดินทางถึง เมืองวาดุซ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเมืองวาดุซ

วาดุซ / ชมเมือง

นำท่าน ผ่านชมปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle)

เป็นปราสาทที่พำนักของราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมืองหลวงวาดุซประมาณ 120 เมตรที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เดินเล่นบริเวณถนนคนเดินอันเป็นที่ตั้งของ ศาลาว่าการเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) ด้านหน้าสามารถมองเห็นตราแผ่นดินซึ่งแกะสลักด้วยหินเหนือประตูทางเข้า ผ่านชมวิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) หรือวิหารวาดุซ เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมือง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2417 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ท่านสามารถขอตราประทับหนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ลงบนพาสปอร์ตเพื่อเป็นที่ระลึก หรือท่านสามารถส่งโปสการ์ดกลับมาที่บ้านเพื่อเก็บแสตมป์ไว้เป็นที่ระลึกได้ โดยซื้อกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ เลือกแบบแสตมป์ที่ต้องการ เขียนชื่อที่อยู่ผู้รับและข้อความให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปหยอดใส่ตู้ไปรษณีย์ขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 2 – 3  อาทิตย์ เพื่อเก็บเป็นของที่ระลึก และความทรงจำได้อีกด้วย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบาด รากาซ (BAD RAGAZ) (20 กิโลเมตร)

บาด รากาซ (BAD RAGAZ)

เป็นเมืองชนบทที่มีลักษณะเฉพาะ ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์อันสวยงาม ล้อมรอบด้วยทะเลสาบ และภูเขา มีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย จุดเด่นอย่างหนึ่งของเมือง คือ มีบ่ออาบน้ำร้อนที่ดุดมไปด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต แคลเซียม แมกนีเซียม และฟลูออรีน ผุดขึ้นมาจากภูเขาภายในช่องเขาลึกลับในเมือง เป็นอีกเมืองหนึ่งของสวิสที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำร้อนเพื่อสุขภาพมายาวนาน และควรค่าแก่การมาเยือน เดินทางถึง เมืองบาด รากาซ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม SORELL TAMINA BAD RAGAZ ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

3

วันที่สามของการเดินทาง

บาด รากาซ – พอนเทสินา – BERNINA EXPRESS – ทีราโน่  – บอร์มิโอ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองพอนเทสินา (PONTRESINA)  (115 กิโลเมตร) เพื่อเดินทางโดย รถไฟ

BERNINA EXPRESS สู่ เมืองทิราโน่ (TIRANO) ประเทศอิตาลี

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางโดย รถไฟ BERNINA EXPRESS สู่ เมืองทิราโน่ (TIRANO)

10.22 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทิราโน่ (TIRANO) ประเทศอิตาลี โดยรถไฟท่องเที่ยวด่วนพิเศษ BERNINA EXPRESS รถไฟสายเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดบริการตั้งแต่ปีค.ศ.1990 มีเอกลักษณ์เป็นรถไฟสีแดงสด บนทางขนาดกว้าง 1 เมตร เป็นรถไฟด่วนตู้โดยสารชมวิวแบบพาโนราม่า

ผ่านเขตใจกลางเทือกเขาแอลป์ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ผ่านหุบเหว ลำธาร โตรกผา อุโมงค์ 55 แห่ง และสะพาน196 แห่ง โดยเฉพาะสะพานโค้งวงกลมที่ Brusio มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เส้นทางนี้รับประกันความสวยแบบห้ามกะพริบตา 

12.49 น. เดินทางถึง เมืองทีราโน่ (TIRANO)  ประเทศอิตาลี

บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อโดยรถโค้ชสู่ เมืองบอร์มิโอ (BORMIO) (45 กิโลเมตร)

เมืองบอร์มิโอ (BORMIO)

บอร์มิโอ (BORMIO) เมืองที่ตั้งอยู่ทางแคว้น Lombardy Alps ที่มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 4,000 คนเท่านั้น เป็นเมืองตากอากาศในเขตเทือกเขาสูงซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำร้อนที่ดีที่สุดในอิตาลี โดยมี Bagni Vecchi (บ่อน้ำร้อนเก่า) Bagni Nuovi (บ่อน้ำร้อนใหม่) และ Bormio Terme (สปา) ต่างดึงดูดผู้คนให้มาเยือนเพื่อปล่อยกายปล่อยใจไปกับการพักผ่อนในทุกรูปแบบ เป็นเมืองที่มีสองมุมมองให้ท่านได้สัมผัส ทั้งเป็นเมืองแห่งสกีรีสอร์ทที่สวยงาม และเป็นเมืองแห่งสปาที่ให้ท่านได้ผ่อนคลายในสระว่ายน้ำกลางแจ้งท่ามกลางบรรยากาศรายล้อมด้วยหิมะอันงดงาม

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  QC TERME GRAND BAGNI NUOVI โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ย่านใจกลางเมืองที่มีบริการสปาแบบครบวงจรให้ท่านเลือกกว่า 30 รายการ   *** กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำ สำหรับผู้ใช้บริการสระว่ายน้ำ ***

4

วันที่สี่ของการเดินทาง

บอร์มิโอ – กิจกรรมแช่บ่อน้ำร้อน – โบลซาโน่

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ผ่อนคลายอิริยาบถโดยการแช่บ่อน้ำร้อน ภายในโรงแรม QC Terme Bagni Vecchi

กิจกรรมแช่บ่อน้ำร้อน

สปาบ่อน้ำร้อนสุดหรูที่เปิดให้ใช้บริการมายาวนานกว่า 2,000 ปี สปาเก่าแก่ที่มองเห็นวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาของหุบเขาบอร์มิโอจะให้คุณได้ผ่อนคลายในบ่อน้ำร้อนแบบธรรมชาติที่เชื่อว่าดีต่อสุขภาพ อันเป็นกิจกรรมยอดนิยมอันดับต้นๆที่ท่านไม่ควรพลาด  (เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมแช่บ่อน้ำร้อน)นอกจากนี้แล้ว ท่านยังสามารถเลือกทำกิจกรรมภายในโรงแรมที่พัก

ซึ่งเป็นสปาสุดทันสมัยใจกลางเมืองที่พร้อมให้ผู้คนจากทั่วโลก ได้เข้ามาสัมผัส ภายในโรงแรมแห่งนี้ มีกลุ่มบ่อน้ำร้อนประเภทต่างๆหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังนำน้ำที่มีสรรพคุณช่วยรักษาสุขภาพนี้มาจากน้ำพุร้อนซึ่งอยู่บริเวณ Mount Reit ที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยในการบำบัดและใช้ผ่อนคลายกับกิจกรรมสปา บ่อน้ำร้อนแห่งนี้อุ่นตลอดทั้งปี แม้แต่ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่เทือกเขาโดโลไมท์ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวอันช่วยให้ประสบการณ์การพักผ่อนของท่านสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยบรรยากาศทิวทัศน์โดยรอบ ที่สวยงามจนไม่อาจละสายตา

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน่ (BOLZANO) (180 กิโลเมตร)

 เมืองโบลซาโน (BOLZANO)

เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ 

โบลซาโน่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ (South Tyrol) ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่า ทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขา Dolomites ในทางทิศตะวันออกนั้นเหมาะกับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายอย่างยิ่ง เมืองโบลซาโน่รู้จักกันทั่วไปเมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่ายทำสารคดีการค้นพบซากมนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และนำร่างนั้นมาไว้ที่เมืองโบลซาโน่ เรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน่ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก เดินทางถึง เมืองโบลซาโน่ นำท่านเดินชมเมืองเก่า ชมวิหาร Duomo  โบสถ์ Chiesa dei Domenican และอนุสาวรีย์ที่จัตุรัสกลางเมือง Piazza delle Erbe แถบถนนคนเดิน Piazza Walther และย่านอาเขตโบลซาโน ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม  PARKHOTEL LAURIN ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

5

วันที่ห้าของการเดินทาง

โบลซาโน่  – ทะเลสาบคาเรซซา – คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบคาเรซซา (LAGO DI CAREZZA) (30 กิโลเมตร)

ทะเลสาบคาเรซซา (LAGO DI CAREZZA)

ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ วิวหลักล้าน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานโดโลไมท์มีอีกชื่อคือ “Lec de ergobando” แปลว่า ทะเลสาบสายรุ้ง ตั้งชื่อตามสีของน้ำในทะเลสาบที่มีหลายเฉดสี ทั้ง สีเขียว สีฟ้าเทอร์คอย และสีน้ำเงิน ผสมกันสวยงาม มีฉากหลังเป็นป่าสนและเทือกเขาสูงเสียดฟ้า สะท้อนสีสันที่หลากหลายของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกจุดแวะถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส (BRAIES) (120 กิโลเมตร)

ทะเลสาบเบรียส (LAGO DI BRAIES) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ FANES SENNES BRAIES เขต

ป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ อิสระให้ท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบ ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็นประตูสู่ดินแดนใต้พิภพตามตำนาน ทุกๆร้อยปีในคืนพระจันทร์เต็มดวงเจ้าหญิงในตำนานจะออกมาจากเนินเขา SASS DIA PORTA ภาษาลาตินหมายถึง “ประตูบนภูเขา” ทรงพายเรือรอบๆทะเลสาบพร้อมส่งเสียงแตรที่ดังกึกก้องไปทั่ว เทือกเขาโดโลไมท์ บ้างก็ว่าครั้งหนึ่งเคยมีถ้ำตรงเนินเขาก่อนจะมีหินถล่มปิดปากถ้ำเหมือนจะฝังเจ้าหญิงไว้ ขัดขวางไม่ให้คืนความรุ่งโรจน์แก่อาณาจักรของพระองค์ตลอดกาล อิสระให้ท่านถ่ายรูป ชื่นชมความงามตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายภาพบริเวณทะเลสาบมิซูรีน่า (LAKE MISURINA) (35 กิโลเมตร)เป็นทะเลสาบอยู่บนภูเขาสูงที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินเลยทีเดียว

ทะเลสาบมิซูรีน่า (LAKE MISURINA)

ด้วยบรรยากาศของท้องฟ้า มีภูเขาสูงเป็นฉากหลังสวยงาม มองเห็นวิวทิวทัศน์ยิ่งใหญ่อลังการของทะเลสาบ ทิวสนด้านข้าง อาคารสีเหลืองทอง และที่สำคัญสถานที่แห่งนี้อากาศบริสุทธิ์มากจนไม่ควรพลาดที่จะสูดให้เต็มปอด ในฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมหนาทั่วทั้งบริเวณ น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งหนากว่า 50 ซม. และในฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ (CORTINA D’AMPEZZO) (20 กิโลเมตร)

เมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่

(CORTINA D’AMPEZZO)

เมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ เป็น Best of The Alps เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เจมส์บอนด์ 007 ตอน For Your Eye Only เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์ เป็นสถานที่ตากอากาศตลอดปีของชนชั้นสูง และบรรดาหนุ่มสาวที่ไม่ได้มาเพียงเพื่อเล่นสกีเท่านั้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม BELLEVUE CORTINA D’AMPEZZO ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

6

วันที่หกของการเดินทาง

คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ ออร์ติเซ่ – นั่งกระเช้าสู่ ALPE DI SIUSI – คิทซ์บูเฮล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองออร์ติเซ่ (ORTISEI) (40 กิโลเมตร) ออร์ติเซ่ (ORTISEI)เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงามยิ่งนัก โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมสวยราวกับบ้านตุ๊กตา สีสันพาสเทล พร้อมศิลปะและวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากออสเตรีย เดินทางถึง เมืองออร์ติเซ่ (ORTISEI)

จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า ALPE DI SIUSI นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเรียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป

SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE

ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่นมีเส้นทางเดินลัดเลาะ สู่จุดชมวิวต่างๆ ให้ท่านมีเวลาเก็บภาพสวยๆ อันประทับใจก่อนท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดที่จะบรรยาย อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง

หมายเหตุ : หากสภาพอากาศไม่อำนวยหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคิทซ์บูเฮล (KITZBUHEL) (95 กิโลเมตร)

เมืองคิทซ์บูเฮล (KITZBUHEL)

เป็นเมืองสกีรีสอร์ทสุดสวยท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาแอลป์ในแคว้นทิโรล ประเทศออสเตรีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขาแอลป์เพียง 100 กม.เท่านั้น อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของสกี และเป็นสกีรีสอร์ทเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย เดินทางถึง เมืองคิทซ์บูเฮล นำท่าน เดินเล่นชมเมือง และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพบ้านเรือนที่มีสีสันสะดุดตาของเมืองเล็กน่ารักแห่งนี้ตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก LEBENBERG SCHLOSSHOTEL ระดับ 4 ดาวซูพีเรียหรือเทียบเท่าเป็นโรงแรมที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนราม่าวิวของเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมอยู่โดยรอบไม่ว่ามอง

จากมุมไหน พร้อมกลิ่นอายบริสุทธิ์ของบรรยากาศปลอดมลพิษที่ทุกคนใฝ่ฝันถึง อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของทางโรงแรมตามอัธยาศัย อาทิ สระว่ายน้ำ ROOFTOP POOL ที่มีความยาวถึง46 เมตร ถือเป็นสระว่ายน้ำที่มีความยาวที่สุดในออสเตรีย และท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายนอกแบบ 360 องศาและท่านสามารถรับบริการสปาของทางโรงแรม ซึ่งประกอบด้วยห้องซาวน่าแบบฟินแลนด์ ห้องอบไอน้ำ เคบินอินฟราเรด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ(กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำ สำหรับผู้ใช้บริการสระว่ายน้ำ)

7

วันที่เจ็ดของการเดินทาง

คิทซ์บูเฮล – แบร์กเทสการ์เดน – เหมืองเกลือ – ฮอลสตัท

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแบร์กเทสการ์เดน (BERCHTESGADEN) (75 กิโลเมตร)

เมืองแบร์กเทสการ์เดน (BERCHTESGADEN)เมืองเล็กๆน่ารักที่ถูกโอบล้อมโดยเทือกเขาแอลป์โดดเด่นด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติที่งดงาม เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 6ของเส้นทางท่องเที่ยวของเยอรมนี ที่เรียกขานกันว่าเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน เข้าชมเหมืองเกลือเก่าเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine)

เหมืองเกลือเก่าเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine)

เป็นเหมืองเกลือที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1517 ซึ่งในสมัยอดีตเหมืองเกลือ เป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว นั่งรถรางลอดอุโมงค์ยาว 700 เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงเสียง ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ชื่นชมในความเก่าแก่ของเหมืองเกลือโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการบำรุงรักษาเอาไว้เหมือนดังเช่นในอดีตทุกประการ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านฮัลสตัท (HALLSTATT) (75 กิโลเมตร) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มี อายุเก่าแก่กว่า 4,500 ปี เดินทางถึง หมู่บ้านฮัลสตัท

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก SEEHOTEL GRUNER BAUM (CONFIRMED)

เนื่องจากโรงแรมนี้ได้รับการคอนเฟิร์มเป็นห้องหลายแบบด้วยกัน จึงมีราคาแตกต่างกัน ดังนี้ :

  • Double room with Church view จำนวน 6 ห้อง
  • Double room to the lake (Balcony) —> จำนวน 7 ห้อง : เพิ่มอีกท่านละ 3,500 บาท
  • Junior Suite (Balcony + Lake view) —> จำนวน 1 ห้อง : เพิ่มอีกท่านละ 6,000 บาท
8

ฮัลสตัท – ชมเมือง – SKYWALK PLATFORM ‘WELTERBEBLICK’ – มิวนิค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้น อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

หมู่บ้านฮัลสตัท (HALLSTATT)

หมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบที่มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึงพันคนมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน บ้านเรือนในเมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบๆ ริมทะเลสาบ Hallstatt งต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆตามแนวเขาเหมือนกับสวนลอยฟ้า เนื่องจากเขาตั้งสูงชันเหนือผืนน้ำ มีแต่ทางเดินแคบๆผ่านหน้าบ้านที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขึ้นไปตามไหล่เขาเท่านั้นดินแดนแถบนี้พบร่องรอยผู้คนที่อาศัยมานานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ราวห้าพันปีก่อนคริสตกาล เพราะที่นี่เป็นแหล่งเกลือขนาดใหญ่ ยุคเหล็กราวปี 800-400 ก่อนคริสตกาลได้ชื่อตามที่นี่ว่า Hallstatt Iron Age

จากนั้นนำท่านเดินทาง โดยรถรางไฟฟ้าสู่ จุดชมวิวแบบพาโนราม่าของเมือง

SKYWALK PLATFORM ‘WELTERBEBLICK’

จุดชมวิวแบบพาโนราม่าของเมือง ที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมยื่นออกไป เรียกว่า SKYWALK PLATFORM ‘WELTERBEBLICK’ มีความสูง 360 เมตรจากตัวเมือง อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (MUNICH) (220 กิโลเมตร)

 มิวนิก

มหานครแห่งแคว้นทางตอนใต้ เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทาง วัฒนธรรมของภูมิภาค และเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่เด่นที่สุดในประเทศอีกหลายแห่ง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรม THE WESTIN GRAND MUNICH ระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า

9

มิวนิค – ชมเมือง – กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่าน เข้าชมพระราชวังนีมเฟนบวร์ก (NYMPHENBURG PALACE)

พระราชวังนีมเฟนบวร์ก (NYMPHENBURG PALACE)

พระราชวังนีมเฟนบวร์ก (NYMPHENBURG PALACE) พระราชวังแบบบารอค (Baroque) สำหรับประทับในฤดูร้อนของราชวงศ์ WITTELSBACH ผู้ปกครองรัฐ Kurfürsten Ferdinand Maria ให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1664 เพื่อเป็นของขวัญให้แก่ภริยา Adelheid von Savoyen ที่ได้ให้กำเนิดบุตรชาย Maximilian II Emanuel ต่อมาในปี 1701 Maximilian II ได้สืบทอดราชบัลลังก์ จึงได้ต่อเติมพระราชวังออกไปทั้งด้านเหนือ และด้านใต้ จนถึงสมัยที่พระโอรสขึ้นครองราชย์ Holy Roman Emperor Charles VII Albert ในปี 1742 จึงได้ต่อเติมพระราชวังนี้เป็นแบบบารอค กษัตริย์ลุดวิกที่สองแห่งบาเยิร์น ก็ได้ประสูติที่พระราชวังแห่งนี้เช่นกันเมื่อปี 1845 นำท่านชมความสวยงามของห้องต่างๆที่มีการตกแต่งไว้อย่างหรูหราอลังการ ได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเมือง และช้อปปิ้งอย่างจุใจ

มิวนิก  / ชมเมือง

จากนั้นนำท่าน ชมเมืองมิวนิค มหานครแห่งแคว้นทางตอนใต้ เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทาง วัฒนธรรมของภูมิภาค และเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่เด่นที่สุดในประเทศเยอรมนีอีกหลายแห่ง ชมอาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่สวยงามจากยุคสมัยอันรุ่งเรืองของราชวงศ์ WITTELSBACH 

บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (MARIENPLATZ) ซึ่งถือเป็นหัวใจของเขตเมืองเก่า และเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มชมเมือง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบริเวณสนามบิน มอบเป็น CASH BACK ให้ท่านละ 30 ยูโร

22.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน Lufthansa เที่ยวบินที่ LH 772

10

กรุงเทพ ฯ

14.10 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..

ทัวร์ยุโรป เที่ยวยุโรป ทัวร์ต่างประเทศ แพคเกจทัวร์ยุโรป โปรแกรมทัวร์ยุโรป Europe Tour ทัวร์หรู ทัวร์ยุโรป 5 ดาว ทัวร์ยุโรป พรีเมี่ยม ทัวร์ยุโรปVIP ใช้เวลาวันหยุดของคุณในการ ท่องเที่ยวยุโรป
เพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์และการผจญภัย รวมถึงอาหารที่ดีเลิศรสด้วย แพคเกจทัวร์ยุโรป ที่แปลกใหม่ เส้นทางสายใหม่ หรือเส้นทางที่คุ้มค่ากับเวลาในการเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการ ทัวร์ยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ทัวร์อิตาลี ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ ทัวร์ฝรั่งเศส ทัวร์เยอรมนี ทัวร์ออสเตรีย ทัวร์อังกฤษ ทัวร์สก็อตแลนด์ ทัวร์เบลเยี่ยม ทัวร์เนเธอร์แลนด์ ทัวร์กรีซ ทัวร์นิวซีแลนด์ ทัวร์เวลส์ เป็นต้น
รวมถึงประเทศแถบ ทัวร์สแกนดิเนเวีย ทัวร์บอลติก อย่างเช่น ทัวร์สวีเดน ทัวร์ฟินแลนด์ ทัวร์นอร์เวย์ ทัวร์ล่าแสงเหนือ ทัวร์แสงเหนือ ล่าแสงเหนือ ทัวร์เดนมาร์ก ทัวร์ไอซ์แลนด์ ทัวร์ลัตเวีย ทัวร์เอสโตเนีย ทัวร์เร้นจ์