12 – 20 เมษายน 2566
วันเดินทาง
โอมานแอร์ (WY)
สายการบิน
สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรีย, อิตาลี
ประเทศ

ทัวร์ยุโรป : สัมผัสแห่งเทือกเขาแอลป์ 9 วัน (WY)

กำหนดการเดินทาง :  12 – 20 เมษายน 2566

ประเทศ : สวิส – อิตาลี

สายการบิน : โอมานแอร์ (WY)

ราคา : 218,800 บาท

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

วันแรกของการเดินทาง

กรุงเทพฯ – ซูริค(สวิส)

06.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 9 แถว T เคาน์เตอร์สายการโอมานแอร์ (WY) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อน

09.10 น.  ออกเดินทางสู่ ซูริค  โดย สายการบินโอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY 818/153(แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองมัสกัต เวลา 12.05 – 14.20 น.)

19.25 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HILTON ZURICH AIPPORT ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ภายในโรงแรม

2

วันที่สองของการเดินทาง

ซูริค – ชมเมือง – บาด รากาซ – ชมเมือง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ชมเมือง และช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ซูริค (ZURICH)

เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิส และมีแม่น้ำลิมมัตเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด เมืองซูริคไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ ธนาคาร และวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย พร้อม

นำท่านชมเมือง ถ่ายภาพกับมหาวิหารคู่บ้านคู่เมือง กรอส มุนเตอร์ (GROSSMUNTE CHURCH) ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองซูริค ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของซูริค ถัดไปไม่ไกล ท่านจะพบกับโบสถ์อีกแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า PETERSKIRCHE โดย ด้านบนสุดของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นเป็นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ติดอันดับ หน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  เมืองบาด รากาซ (BAD RAGAZ) (99 กิโลเมตร)

เดินทางถึงเมืองบาด รากาซ  นำท่านนั่งรถเที่ยวชมตัวเมืองบาด รากาซ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอาคารบ้านเรือนน่ารักๆ แบบสวิสแท้ๆ ซึ่งสร้างความรู้สึกสบายและผ่อนคลายตลอดเส้นทาง

GRAND RESORT BAD RAGAZ

โรงแรมสัญลักษณ์แห่งเมือง BAD RAGAZ ที่อยู่ไม่ห่างไกลจากเมืองซูริค เมืองแห่งการพักผ่อนที่หรูหราและดีที่สุดแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์

นำทุกท่านสัมผัสโรงแรมรีสอร์ท แอนด์สปาระดับ5ดาว สัมผัสความพรีเมียมในการท่องเที่ยวสไตล์เฮลท์ตี้(ดูแลสุขภาพและฟื้นฟูร่างกาย) รูปแบบใหม่ที่กำลังฮิตและได้รับการโปรโมทจากการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในขณะนี้  นำท่านเข้าพัก ณ โรงแรมแห่งนี้

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

3

วันที่สามของการเดินทาง

บาด รากาซ – หุบเขาเวียมาลา – ดิอาโวเลซซ่า – เซนต์มอริทซ์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาเวียมาลา (VIAMALA GORGE) (49 กิโลเมตร)

หุบเขาเวียมาลา

หุบเขาลึกลงไป กว่า 300 เมตร อดีตใช้เป็นที่สัญจรของพ่อค้าจากทางเหนือและใต้ของประเทศ แต่ปัจจุบันเป็นจุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวให้ได้มาสัมผัสความงดงามของหุบเขาเวียมาลาแห่งนี้ อีกทั้งยังมีสะพานเก่าแก่ที่สร้างในปี 1739 ตั้งอยู่ภายในหุบเขา อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเส้นทางผ่านบันไดกว่า 300 ขั้นเพื่อชมความน่าอัศจรรย์ของหุบเขาเวียมาลา

จากนั้นออกเดินทางสู่เมือง สถานีดิอาโวเลซซ่า (DIAVOLEZZA) (80 กิโลเมตร)

เคเบิลคาร์สู่ยอดเข้า DIAVOLEZZA

นำท่านขึ้นเคเบิลคาร์สู่ ยอดเขา DIAVOLZEZZA ที่ความสูง 2,978 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล บนยอดเขาท่านสามารถชมวิวของธารน้ำแข็งอายุนับหมื่นปีได้โดยง่ายกว่ายอดเข้าอื่น ท่านยังสามารถพบเจอแพะภูเขาที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติอีกด้วย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  นำท่านเดินทางสู่ เซนต์มอริทซ์ (ST.MORITZ) (18 กิโลเมตร)

เซนต์มอริทซ์

เมืองตากอากาศ และศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในรัฐ Graubünden เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ นอกจากนี้ยังเคยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวถึง 2 ครั้งอีกด้วย

นำท่าน ถ่ายรูปความงดงามของทะเลสาบเซนต์มอริทซ์ (LAKE ST.MORITZ) ซึ่งหากท่านมาในช่วงฤดูร้อน

จะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกต แต่ถ้าเป็นหน้าหนาว น้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม LAUDINELLA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

4

วันที่สี่ของการเดินทาง

เซนต์มอริทซ์ –เมราโน เมอแรน(อิตาลี) – โบลซาโน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเมราโน เมอแรน (MERANO MERRAN) (140 กิโลเมตร)

เมราโน เมอแรน

เมราโน เมอแรน (MERANO MERRAN)เมืองแสนสวยที่อยู่กลางหุบเขา เมืองนี้ปรากฎหลักฐานการอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปีค.ศ.857 เมืองนี้อยู่ติดกับแคว้นทีโรลของอาณาจักรออสเตรียในอดีต จึงมีการสร้างปราสาทต่างๆ ขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของเหล่าเชื้อพระวงศ์ ปัจจุบันเมราโร เมอแรนเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการมาพักผ่อน เนื่องจากตั้งอยู่ในหุบเขาจึงมีสภาพอากาศที่ดีตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีน้ำแร่ธรรมชาติสำหรับดูแลสุขภาพอีกด้วย นอกจากนั้น ยังเป็นสถานที่จัดงานเฟสติวัลแทบทุกปี เช่นงานเทศกาลดตรี Sud Festival 2022 ที่ผ่านมา

หลังรับประทานอาหารกลางวัน นำท่านเดินเล่นชมเมืองน่ารักๆ แห่งนี้และเดินทางไปยังเมืองโบลซาโน่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน่ (BOLZANO) (33 กิโลเมตร)

 เมืองโบลซาโน (BOLZANO)

เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ โบลซาโน่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ (South Tyrol) ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่า ทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขา Dolomites ในทางทิศตะวันออกนั้นเหมาะกับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายอย่างยิ่ง เมืองโบลซาโน่รู้จักกันทั่วไปเมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่ายทำสารคดีการค้นพบซากมนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และนำร่างนั้นมาไว้ที่เมืองโบลซาโน่ เรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน่ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก

เดินทางถึง เมืองโบลซาโน่ นำท่านเดินชมเมืองเก่า ชมวิหาร Duomo  โบสถ์ Chiesa dei Domenican และอนุสาวรีย์ที่จัตุรัสกลางเมือง Piazza delle Erbe แถบถนนคนเดิน Piazza Walther และย่านอาเขตโบลซาโน ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม  PARKHOTEL LAURIN ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

5

วันที่ห้าของการเดินทาง

โบลซาโน่  – ทะเลสาบเบรียส – ทะเลสาบมิซูรีน่าคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่เทือกเขาโดโลไมท์ (DOLOMITES) เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ (Alps) ที่กินพื้นที่ของหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรป ซึ่ง อิตาลี ก็เป็นหนึ่งในนั้น ในส่วนของ เทือกเขาโดโลไมต์ เองก็มีความกว้างใหญ่ไม่เบา ครอบคลุมอาณาเขตถึง 5 จังหวัดทางตอนเหนือ ได้แก่ Belluno, Bolzano (Bozen), Pordenone, Trento และ

Udine แต่ละจังหวัดก็จะมีเมืองต่างๆ ให้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศน่ารักๆ ของหมู่บ้านน้อยใหญ่ ก่อนจะออกเดินทางท่องธรรมชาติ ชมวิวทิวทัศน์ตระการตาของหุบเขาและผาหิน รวมถึงทะเลสาบที่แอบซ่อนอยู่ตามมุมเขา ทัศนียภาพที่งดงามราวกับสรวงสวรรค์ของที่นี่ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม เทือกเขาโดโลมิติ จึงถูกรับเลือกจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก (World Heritage Site) ในปี 2009 อีกทั้งยังเป็นสถานที่สุดประทับใจมากที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับนักเดินทางและนักปีนเขาทุกคนอีกด้วย

จากนั้นนำท่านแวะชม  ทะเลสาบเบรียส (BRAIES) (115 กิโลเมตร)

ทะเลสาบเบรียส (LAGO DI BRAIES)

ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ FANES SENNES BRAIES เขต

ป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ อิสระให้ท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบ ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็นประตูสู่ดินแดนใต้พิภพตามตำนาน ทุกๆร้อยปีในคืนพระจันทร์เต็มดวงเจ้าหญิงในตำนานจะออกมาจากเนินเขา SASS DIA PORTA ภาษาลาตินหมายถึง “ประตูบนภูเขา” ทรงพายเรือรอบๆทะเลสาบพร้อมส่งเสียงแตรที่ดังกึกก้องไปทั่ว เทือกเขาโดโลไมท์ บ้างก็ว่าครั้งหนึ่งเคยมีถ้ำตรงเนินเขาก่อนจะมีหินถล่มปิดปากถเหมือนจะฝังเจ้าหญิงไว้ ขัดขวางไม่ให้คืนความรุ่งโรจน์แก่อาณาจักรของพระองค์ตลอดกาล อิสระให้ท่านถ่ายรูป ชื่นชมความงามตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายภาพบริเวณทะเลสาบมิซูรีน่า (LAKE MISURINA) (35 กิโลเมตร)

 ทะเลสาบมิซูรีน่า (LAKE MISURINA)

ด้วยบรรยากาศของท้องฟ้า มีภูเขาสูงเป็นฉากหลังสวยงาม มองเห็นวิวทิวทัศน์ยิ่งใหญ่อลังการของทะเลสาบ ทิวสนด้านข้าง อาคารสีเหลืองทอง และที่สำคัญสถานที่แห่งนี้อากาศบริสุทธิ์มากจนไม่ควรพลาดที่จะสูดให้เต็มปอด ในฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมหนาทั่วทั้งบริเวณ น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งหนากว่า 50 ซม. และในฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง คอร์ติน่า ดัมเปสโซ่ (CORTINA D’AMPEZZO) (15 กิโลเมตร)

เมืองคอร์ติน่า ดัมเปสโซ่

(CORTINA D’AMPEZZO)

เมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ เป็น Best of The Alps เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เจมส์บอนด์ 007 ตอน For Your Eye Only เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์ เป็นสถานที่ตากอากาศตลอดปีของชนชั้นสูง และบรรดาหนุ่มสาวที่ไม่ได้มาเพียงเพื่อเล่นสกีเท่านั้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม BELLEVUE CORTINA D’AMPEZZO ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

6

วันที่หกของการเดินทาง

คอร์ติน่า ดัมเปสโซ่ – เวนิส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส (VENICE) (155 กิโลเมตร)

เวนิส (VENICE)

เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเมืองหนึ่งของประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่แสนโรแมนติกที่ไม่เหมือนเมืองใดในโลก เมืองที่ไม่อนุญาตให้รื้อสิ่งก่อสร้างเก่าไม่มีรถยนต์ มีแต่เรือที่จำกัดไม่ให้เสียงดัง ดังนั้นทั่วโลกจึงหลงใหลมนต์เสน่ห์อันสุนทรีย์ของเวนิชตลอดมา เดินทางถึง เมืองเวนิส

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านล่องเรือสู่ เกาะเวนิส

เวนิส / ชมเมือง

นำท่าน ล่องเรือยนต์ไปตามลำคลองสู่ ท่าซานมาร์โค นำท่านชม จัตุรัสซานมาร์โค มหาวิหารซานมาร์โค ถ่ายภาพหน้าพระราชวังดอจ สิ่งก่อสร้างที่ เก่าแก่มากว่า 800 ปี มาแล้วเมื่อสมัยเวนิซยังเป็นสาธารณรัฐอิสระ ซึ่งเคยร่ำรวย และมีอำนาจมหาศาล และเคยส่งให้มาร์โคโปโลเดินทางไปยังเมืองจีน อิสระให้ท่าน เดินเล่นชมเมืองเวนิส และ

ช้อปปิ้ง สินค้าที่มีให้เลือกมากมาย เวนิสเป็นเมืองที่มีซอกเล็กซอกน้อยมากมาย ท่านจะเพลิดเพลินอย่างมากในการเดินเล่นในเมืองเวนิซ ได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางข้ามกลับมายังฝั่งเมสเตร้                 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม FOUR POINT BY SHERATON VENICE MESTRE ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

7

วันที่เจ็ดของการเดินทาง

เวนิส – เวโรนา – ชมไร่ไวน์ – เซอร์มิโอเน่

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรนา (VERONA)  (125 กิโลเมตร)

เวโรนา (VERONA)

เป็นเมืองที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับสองในแคว้นเวเนโต  รองจากเมืองเวนิส เมืองเวโรนาได้รับสมญานามว่า “LITTLE ROMAN” เพราะยังคงสภาพสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันไว้อย่างสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2000 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒน ธรรมแห่งสหประชาชาติก็ประกาศให้เวโรนา เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่าน ถ่ายภาพบริเวณด้านนอก VERONA ARENA โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน มีลักษณะเหมือนโคลอสเซี่ยมที่โรมแต่ขนาดเล็กกว่า จากนั้นนำท่านเข้าชมเมืองเวโรน่า

เวโรน่า / ชมเมือง / บ้านจูเลียต

นำท่าน ชมบ้านของจูเลียต (CASA DI GIULIETTA) คือบ้านเลขที่ 27 ถนน Via Cappello Casa di Giulietta ซึ่งแท้จริงแล้วบ้านหลังนี้ เคยเป็นของตระกูล Cappello เป็นความบังเอิญที่ชื่อตระกูลคล้ายคลึงกับตระกูล Capulet ของจูเลียต แต่ด้วยความที่กระแสของละครดัง คนก็เลยอินจัด เมืองนี้ก็เลยถูกพัฒนาให้เป็นที่ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามบ้านหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่13 และได้ทำการปรับปรุงใหม่ในศตวรรษที่ 20 โดยเพิ่มระเบียงซึ่งเป็นที่ที่โรมิโอสารภาพรักกับจูเลียตในบทประพันธ์ อีกทั้งยังเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หญิงสาวจากทั่วโลกพากันมาที่นี่ ยืนริมระเบียงแห่งนี้ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เขียนขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนเพื่อจินตนาการถึงโรมิโอของพวกเธอ

จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง (PIAZZA DELL ERBE) เป็น market square ที่สวยงาม เป็นที่ชุมนุมของชาวบ้านมาตั้งแต่ยุคโรมัน ตึกที่รายล้อมสี Pastel หวานๆ มีร้านรวงเล็กๆ ลักษณะเหมือนตลาด จนได้เวลาสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางชมไร่ไวน์แถบชานเมืองเวโรน่า (30 กิโลเมตร)

ไร่ไวน์ ZENI 1870

ไร่ไวน์ ZENI1870 สร้างขึ้นในปี 1870 โดยตระกูลผู้ผลิตไวน์เก่าแก่ ให้ท่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา กระบวนการผลิตไวน์ชั้นดีระดับพรีเมี่ยมของที่นี่ ซึ่งมีความใส่ใจตั้งแต่การปลูกองุ่นพันธุ์ดี กรรมวิธีที่พิถีพิถัน และการเก็บรักษาด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม อีกทั้งให้ท่านได้ ชิมไวน์ (WINE TASTING) ชั้นเลิศ และชมบรรยากาศสวนที่ร่มรื่นสามารถมองเห็นไร่องุ่นได้สุดลูกหูลูกตา จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

***ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่ไร่ไวน์ปิดทำการ โดยทางบริษัทฯ จะจัดหาไร่ไวน์แห่งใหม่ทดแทน***

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเชอร์มิโอเน่ (SIRMIONE) (45 กิโลเมตร) เป็นเมืองเก่าแก่อายุนับ 2,000 ปี

 ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (LAKE GARDA) ที่สวยงาม

เชอร์มิโอเน่ (SIRMIONE)

นำท่าน ชมทะเลสาบการ์ดา ชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบ   ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นเมืองจึงถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน ถึงแม้จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง THE SCALLGER OF SIRMIONE สร้างในปี 1277 เมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล Scaliger จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม  GRAND HOTEL TERME ระดับ 4ดาวหรือเทียบเท่า

8

เซอร์มิโอเน – มิลาน – กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (135 กิโลเมตร) เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอิตาลี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น

มิลาน / ชมเมือง / ช้อปปิ้ง

นำท่าน ถ่ายภาพกับโบสถ์ดูโอโม่แห่งมิลาน โบสถ์ใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป เป็นศิลปะแบบกอธิคที่หรูหรา และใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1386 และที่น่าทึ่งของโบสถ์ ก็คือการตกแต่งประดับประดาที่เน้นความหรูหราอย่างเต็มที่โดยเฉพาะรูปปั้นรอบตัวอาคาร มีจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ขวามือของโบสถ์มีอาคารทรงกากบาทหลังหนึ่ง และหลังคามุงด้วยกระเบื้องโปร่งใส เรียกกันว่า“อาเขต” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กษัตริย์ วิคเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ปฐมกษัตริย์ ของอิตาลีในการรวมชาติ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งภายในอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 (GALLERIA VITTORIO EMMANUELE II) ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของ เมืองมิลาน เพราะนอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงขายแล้ว ยังมีร้านกาแฟที่เรียกกันว่า ไซด์ วอล์ค คาเฟ่ สามารถนั่งจิบคาปูชิโน นั่งดูหนุ่มสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความงดงามของอาคารหลังนี้ หรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควรจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิลาน เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ 

22.05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินโอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY 144/815

9

กรุงเทพ ฯ

(แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองมัสกัต เวลา 06.05 – 08.50 น.)

18.00 น.  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..