ทัวร์ยุโรป ทัวร์ฝรั่งเศส : GRAND FRANCE RIVIERA 12 วัน
กำหนดการเดินทาง : 09 – 20 เมษายน 2567
สายการบิน : Lufthansa เที่ยวบินที่ LH 773 / 2226
ราคา : 234,800 บาท
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพฯ – ปารีส
20.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 3 เคาน์เตอร์ G สายการบิน Lufthansa (LH) เจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
23.00 น. เดินทางสู่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย สายการบิน Lufthansa เที่ยวบินที่ LH 773 / 2226
วันที่สองของการเดินทาง
ปารีส – ชมเมือง – ล่องแม่น้ำแซน – ช้อปปิ้ง
*** แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินมิวนิค เวลา 05.20 – 06.35 น. ***
08.15 น. เดินทางถึง กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนำท่าน ชมเมืองปารีส มหาราชินีแห่งเมืองหลวงของโลก
ชมเมืองปารีส / ล่องแม่น้ำแซน
นำท่าน ผ่านชมมหาวิหารนอทเทรอดาม (NOTREDAME CATHEDRAL) ที่เป็นตัวอย่างผลงานด้านสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่วิเศษสุดไม่ว่าจะมองจากมุมไหนๆ ชมย่านนักศึกษาศิลปิน ย่านการค้าโอเปร่าเฮาส์ ปลาช เดอ ลา ค็องคอร์ด (PLACE DE LA CONCORDE) จัตุรัสแห่งความสามัคคี โบสถ์มาเดลเลน (The Madeleine church) ที่สร้างแบบกรีกโบราณ โดมแองวาลิค (church of les Invalides) สถานที่เก็บพระศพของนโปเลียน
นำท่าน ถ่ายภาพกับหอไอเฟล (EIFFEL TOWER) สัญลักษณ์ ที่สำคัญของนครปารีส นำท่าน ล่องแม่น้ำแซน ชมวิวทิวทัศน์ของเกาะอิล เดอ ฟรองซ์ สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน โบสถ์นอทเทรอดามซึ่งยังคงอนุรักษ์ความงดงามคลาสลิค ไว้ได้อย่างงดงาม
น่าประทับใจ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งต่อ ณ ห้างซามาริแตง (La Samaritaine) ห้างสรรพสินค้าเครือ Louis Vuitton
ช้อปปิ้งห้างซามาริแตง (La Samaritaine)
ตั้งอยู่กลางกรุงปารีส ทำเลติดแม่น้ำแซนที่โดดเด่น และดึงดูดผู้คนมหาศาลด้วยตัวอาคารที่เต็มไปด้วยศิลปะชวนมอง เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมหรูกว่า 600 แบรนด์ มีการตกแต่งภายในที่คงการออกแบบสไตล์อาร์ตนูโวดั้งเดิมไว้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวมร้านค้าปลีกปลอดภาษี รวมถึงมีสปา Christian Dior บริการอพาร์ตเมนต์เซอร์วิส และร้านอาหารสุดหรู ด้านบนจะเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่มีอัตราค่าห้องพักต่อคืนเกิน1,270 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ต่ำกว่า 39,000 บาท สวรรค์แห่งการช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่ท่านไม่ควรพลาด จนได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก PULLMAN PARIS MONTPARNASSE ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่สามของการเดินทาง
ปารีส – ปราสาทเชอนองโซ – ตูร์ – ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ปราสาทเชอนองโซ (Château de Chenonceau) (240 กิโลเมตร)
ปราสาทเชอนองโซ
(Chateau de Chenonceau)
ปราสาทเชอนองโซ (Château de Chenonceau) เป็นปราสาทเก่าแก่มีอายุมากกว่า 400 ปี ในแคว้นนอร์มังดี ของฝรั่งเศส อาณาบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งหญ้าและป่าเขา จึงมีทัศนียภาพที่งดงามอย่างยิ่งตัวปราสาทเป็นการออกแบบก่อสร้างที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเรเนอซองส์กับศิลปะแบบคลาสสิคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน โดยมีการสร้างต่อเติมหลายครั้ง ตัวปราสาทหลังใหญ่จะตั้งอยู่ริมน้ำ และมีการต่อเติมส่วนแกลลอรี่บนตอม่อโค้ง 5 ช่อง คร่อมลงบนแม่น้ำแชร์ จนทำให้ตัวปราสาททั้งหมดขวางอยู่กลางลำน้ำแต่ไม่ขวางกระแสน้ำ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน เข้าชมความสวยงามของปราสาทเชอนองโซ ชมห้องบรรทมของพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา งดงาม จุดเด่นของตัวปราสาทที่ไม่ควรพลาด คือ แกลลอรี่ที่ขวางลำน้ำแชร์ เพราะเมื่ออยู่ในแกลลอรี่ก็จะเห็นภาพทิวทัศน์ของแม่น้ำโดยรอบได้อย่างเต็มตา ชมห้องต่างๆ ที่ตกแต่งด้วยเครื่องเรือน ภาพวาด พรมแขวนผนัง พร้อมชมความงามของผืนป่าที่ล้อมรอบปราสาท ด้านนอกของปราสาทยังมีสวนที่ได้รับการตกแต่งให้สวยงาม ซึ่งได้รับการบำรุงตกแต่งมาตั้งแต่ครั้งเริ่มสร้างปราสาท
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองตูร์ (TOURS)(30 กิโลเมตร)
เมืองตูร์ (TOURS)
เมืองตูร์ (TOURS)(260 กิโลเมตร) เมืองที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นแบบโรมัน อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของฝรั่งเศสก่อนที่จะมีการย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ปารีส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ ที่พักโรงแรม CHATEAU BELMONT TOURS BY THE CREST COLLECTION. 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง
ตูร์ – ลา โรแชลล์ – ชมเมือง – บอร์โดช์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลา โรแชลล์ (LA ROCHELLE) (240 กิโลเมตร)
ลา โรแชลล์ (LA ROCHELLE)
เมืองยุคกลางตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 ปัจจุบันเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีท่าเรือยอร์ชที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปอีกทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีแสงแดดจ้าที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงเรื่องชายฝั่งทะเลอันตระการตา, แหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์รวมถึงชายหาดและหมู่เกาะชารองต์ (Charente islands)อันงดงาม เดินทางถึง เมืองลา โรแชลล์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่าน เดินเล่นชมเมือง และถ่ายภาพกับป้อมปราการโบราณ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อป้องกันเมือง และชมความสวยงามของทัศนียภาพบริเวณท่าเรืออันเป็นจุดจอดเรือยอร์ชมากมาย กระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์โดช์ (BORDEAUX) (190 กิโลเมตร)
บอร์โดช์ (BORDEAUX)
เมืองแห่งชาโตร์ และไวน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฝรั่งเศส คนทั่วโลกรู้จักบอร์โดซ์ผ่านรสชาตินุ่มละมุนของไวน์แดงที่ผลิตจากองุ่นพันธ์ดีของที่นี่ และเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดของโลก ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับความงดงามของเส้นทางที่เต็มไปด้วยปราสาท และไร่องุ่น มี ชาโตร์ผลิตไวน์ชื่อดังมากมาย เมืองบอร์โดซ์ แบ่งออกเป็น 53 เขตย่อย ซึ่งดินในแต่ละแห่งมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ทำให้ผลผลิตองุ่นและไวน์ที่ได้มีรสชาติต่างกัน ซึ่งท่านสามารถซื้อไวน์ราคาถูกได้จากที่นี่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RENAISSANCE BORDEAUX ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง
บอร์โดช์ – แซงต์ เอมิลิยง – ชิมไวน์ – บอร์โดช์ – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่าน แวะเที่ยวเมืองแซงต์ เอมิลิยง (ST.EMILION) (50 กิโลเมตร) เมืองแห่งไวน์แดง ที่มีความงดงามด้วยตัวเมืองเก่าที่สร้างด้วยหินปูนทั้งหมด เป็นเมืองที่โดดเด่นที่สุดในด้านการผลิตไวน์ และมีไร่องุ่นที่มากมายสุดลูกหูลูกตา ให้ท่านได้เลือกซื้อ และชิมไวน์รสนุ่ม ณ Château de Ferrand, Grand Cru Classé de Saint-Emilion ชาโตว์ชื่อดังของเมืองที่มีอายุยาวนานกว่า 3 ศตวรรษที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองบอร์โดช์ (BORDEAUX) (50 กิโลเมตร) เพื่อนำท่าน เที่ยวชมเมืองเก่าของเมืองบอร์โดซ์
ชมเมืองบอร์โดช์ / ช้อปปิ้ง
นำท่าน ถ่ายภาพกับหอระฆังประจำเมือง (Belfry Town Hall) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประตูชัย (Porte de Bourgogne) ที่ตั้งอยู่สุดถนนวิกเตอร์ ฮูโก (Victor Hugo) ถ่ายภาพกับสะพาน Pont de Pierre สร้างในสมัยนโปเลียน และสร้างเสร็จในปี 1822 สะพานนี้เป็นสะพานหินยาวกว่า 500 เมต สมัยก่อนสะพานนี้ต้องเก็บค่าผ่านทางแต่ ในปี 1861 สะพานนี้ก็ได้ยกเลิกการเก็บเงินจนถึงปัจจุบัน สะพานนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดของฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ จากที่สะพานท่านจะได้เห็นโบสถ์ Saint Michel โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 15 หอระฆังมีความสูง 114 เมตรหอระฆังนี้ได้ถูกฟ้าผ่า และถูกพายุเฮอริเคนพัดเสียหายเกือบทั้งหมดในสมัยศตวรรษที่ 17 จนกระทั่งปีค.ศ. 1865 จึงได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยยังรักษาไว้ ซึ่งรูปแบบเดิม ถือเป็น จุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองอีกด้วย จนได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RENAISSANCE BORDEAUX ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่หกของการเดินทาง
บอร์โดช์ – นั่งรถไฟ HIGH SPEED TRAIN สู่ คาร์คาซอน – ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ เพื่อนำท่านเดินทางโดย รถไฟ HIGH SPEED TRAIN สู่ เมืองคาร์คาซอน (CARCASSONNE) เมืองโบราณที่มีชีวิตเหมือนเป็นเมืองแห่งจินตนาการ
08.28 น.ออกเดินทางสู่ เมืองคาร์คาซอน โดย รถไฟ HIGH SPEED TRAIN
11.27 น. เดินทางถึง เมืองคาร์คาซอน (CARCASSONNE) เมืองยุคกลางที่สมบูรณ์แบบที่สุดมีป้อมปราการอยู่บน เนินเขามีกำแพงเมืองสูงล้อมรอบ อีกทั้งยังมีหอคอยที่มียอดแหลมเป็นช่วงๆมองดูงดงามยิ่งนัก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเมืองคาร์คาซอน
ชมเมืองคาร์คาซอน
นำท่าน ชมเมืองคาร์คาซอน โดยเดินทางผ่านคลอง (Canel Du Midi) ที่มีชื่อเสียง และสวยงามที่สุดของเมืองนี้ คลองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Pierre Paul Riquet เป็นคลองที่เชื่อมโยงกันระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมหาสมุทรแอตแลนติก ได้ถูกบันทึกไว้เป็นมรดกโลก โดยองค์การ Unesco ตั้งแต่ปีค.ศ. 1996 ชมย่านเมืองเก่าของเมืองคาร์คาซอน (THE MEDIEVAL CITY) ชมวิหาร และสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าของเมืองเนื่องจากใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาที่สำคัญต่างๆพร้อมกันนี้ท่านยังได้ชื่นชมกับแหล่งอารยธรรมของเมืองที่ถูกบันทึกลงบนผนังของวิหาร อันเกิดเป็นภาพที่สวยสดงดงาม อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ของฝาก และของที่ระลึกบริเวณย่านเมืองเก่าที่มีสินค้าให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม DO ROI & SPA BY SOWELL COLLECTION ระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
คาร์คาซอน – สะพานส่งน้ำ ปง ดู การ์ – เอ็กซ์ ออง โพรวองส์ – ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สะพานส่งน้ำ ปง ดู การ์ (Le Pont du Gard) (230 กิโลเมตร)
สะพานส่งน้ำ ปง ดู การ์ (Le Pont du Gard)
เป็นสะพานที่ไม่ได้มีไว้ให้รถราวิ่งผ่านแต่มีไว้เป็นทางส่งน้ำในสมัยโบราณราว 2,000 ปีก่อน สร้างขึ้นในยุคสมัยโรมันรุ่งเรือง มีความสูงถึง 49 เมตร ตัวสะพานทำจากหินกว่า 6 ตัน ในสมัยก่อนสะพานนี้ใช้ส่งน้ำจากเมือง Uzes มายังเมืองนีมส์ มีระยะทาง 50 เมตร ส่งน้ำได้ 20 ล้านลิตรต่อวัน เทคนิคแบบนี้ทำให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันในสมัยนั้น และเนื่องจากสะพานปง ดู การ์ ถือว่ามีสภาพที่ยังสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นองค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี 1985 ตราบจนปัจจุบัน นำท่านเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์อย่างเพลิดเพลิน และถ่ายภาพความสวยงามตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เลโบเดอโพรวองซ์ (Les Baux de Provence) (50 กิโลเมตร)
เลโบเดอโพรวองซ์ (Les Baux de Provence)
หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยงามที่สุดในโพรวองซ์ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมาก โดยหมู่บ้านนั้นตั้งอยู่ริมภูเขาในเขตเทือกเขา แอลป์ (Alpilles Mountains) เหนือยอดเขาถัดจากตัวหมู่บ้านขึ้นไปนั้นเป็นที่ตั้งของ Château des Baux ซากปราสาทขนาดใหญ่ของอดีตเจ้าเมือง ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 ถูกสร้างด้วยหินบนพื้นที่ขนาด 7 เอเคอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งโบราณสถานที่ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ในยุคอดีตของหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ เป็นหมู่บ้านโบราณในฝรั่งเศสที่ยังคงรักษาศิลปะ และวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ภายในเขตหมู่บ้านถูกล้อมรอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่ส่วนใหญ่สร้างจากหินปูนสลับกับอาคารร้านค้าที่ขายของที่ระลึกสไตล์โพรวองซ์ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมไม่ว่ามุมไหนๆ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเอ็กซ์ ออง โพรวองส์ (AIX EN PROVENCE) (70 กิโลเมตร)
เอ็กซ์ ออง โพรวองส์
เมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดเมืองหนึ่งของฝรั่งเศส เดินทางถึง เมืองเอ็กซ์ ออง โพรวองส์
นำท่าน เดินเล่นชมเมือง เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวโพรวองซ์ พร้อมชมอาคารบ้านเรือนสไตล์บาร็อคที่หรูหรา ซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองเก่าแก่ในสมัยโรมัน ที่มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ต่อมามีการปรับปรุง และมีการก่อสร้างอาคารที่สวยงามมากขึ้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม GRAND ROI RENE AIX EN PROVENCE ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
เอ็กซ์ ออง โพรวองส์ – บังดอล – ชิมไวน์ – คานส์ – ชมเมือง – นีส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบังดอล (BANDOL) (70 กิโลเมตร) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์แดง
ที่ดีที่สุดของโพรวองซ์
บังดอล (BANDOL) / ชิมไวน์
เป็นเมืองชายทะเลที่สวยงามในภูมิภาค Provence-Alpes-Côte d’Azur ซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองนี้งดงามด้วยถนนแคบ ๆ ที่เรียงรายไปด้วยบ้านเรือน และร้านค้าสีสันสดใส อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักกันว่า เป็นแหล่งกำเนิดไวน์ฝรั่งเศสเกรด AOC ที่สำคัญอีกด้วย นำท่าน เยี่ยมชมโรงบ่มไวน์ เพลิดเพลินกับบรรยากาศชนบทแบบโพรวองส์ และลิ้มลองไวน์ขึ้นชื่อของเมือง ณ Domaine Lou Capelan โดยเฉพาะไวน์โรเซ่ จากองุ่นสายพันธุ์ Mourvedre อันเลื่องชื่อที่ไม่ควรพลาดลิ้มลอง และเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองคานส์ (CANNES) (145 กิโลเมตร) เมืองชาย ทะเลเล็กๆที่มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี และเป็นเมืองที่ใช้สถานที่ในการประกวดภาพยนตร์นานาชาติที่โด่งดังไปทั่วโลก เดินทางถึง เมืองคานส์
คานส์ (CANNES) / ชมเมือง
อิสระให้ท่านได้เก็บภาพกับ PALAIS DES FESTIVALS ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานประกวดภาพยนตร์ และศูนย์ประชุมนานาชาติ โดยรอบอาคารจะมีรอยฝ่ามือของบรรดาเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียงจากฮอลลีวู้ดมาประทับเอาไว้บนพื้นซีเมนต์ ผ่านชมวิวทิวทัศน์ของเมืองบริเวณถนนลา กรัว เซต ย่านช้อปปิ้งริมทะเลที่ทันสมัยที่สุดในโลก เรียงรายไปด้วยทิวแถวของต้นปาล์ม ร้านบูติก และร้านค้ามีระดับ อิสระให้ท่าน
ช้อปปิ้งอย่างจุใจ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนีส (NICE) (35 กิโลเมตร)
นีส (NICE)
เมืองพักตากอากาศทางทะเลที่เรียกว่า เฟรนช์ ริเวียร่า มีชายทะเลที่สวยงาม ซึ่งเริ่มกลายเป็นสถานตากอากาศยอดนิยมของคนอังกฤษ และชาวยุโรปมาตั้งแต่สมัยวิคทอเรีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมานีส เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ชายหาดของนีสไม่ใช่หาดทราย แต่จะเป็นหินก้อนเล็กๆที่ไม่คม ซึ่งคือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนีส
เดินทางถึง เมืองนีส
อิสระให้ท่านเดินเล่นริมหาดบน ถนนพรอมเมอนาร์ด เดส์ อังเกลส์ (PROMENADE DES ANGLAIS) “ทางเดินของคนอังกฤษ” เนื่องจากเป็นถนนเลียบชายหาดที่สวยงามเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU NICE ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
นีส – หมู่บ้านเอซ – โรงงานน้ำหอม – มองเต คาร์โล – นีส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเอซ (EZE VILLAGE) (15 กิโลเมตร) หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส
หมู่บ้านเอซ (EZE VILLAGE)
หมู่บ้านบนยอดเขา ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของบรรยากาศที่โรแมนติก ลักษณะที่โดดเด่นของเมืองนี้ คือ จะเป็นถนนหรือทางเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ อาทิ น้ำหอม สบู่ งานช่างฝีมือ และผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนต่างๆ รวมไปถึงร้านค้าที่เหมือนกับหอศิลป์ แสดงงานศิลปะมากมาย จนให้คำนิยามเมืองนี้ว่าเป็น “หมู่บ้านพิพิธภัณฑ์” ซึ่งได้มีการอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างต่างๆ ไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศของเมืองนี้ เหมือนกับหลุดเข้าไปในเมืองแห่งเทพนิยายยังไงอย่างนั้น
โรงงานผลิตน้ำหอม FRAGONARD
นำท่าน เข้าชมโรงงานผลิตน้ำหอม ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ชมกระบวนการผลิตน้ำหอมด้วยการสกัด และการกลั่น ตลอดจนห้องจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของการผลิตน้ำหอม และคอลเล็กชั่นขวดน้ำหอมมากมาย เพื่อจะได้รู้ว่าน้ำหอมหรูหราจากแบรนด์ดังที่วางจำหน่ายกันอยู่ทั่วโลกมีที่มาอย่างไร จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเต คาร์โล (MONTE CARLO) (10 กิโลเมตร)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่าน ชมเมืองตามอัธยาศัย
มองเต คาร์โล (MONTE CARLO)
เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางตอนปลายของฝรั่งเศส นำท่าน ถ่ายภาพกับปาเล เดอ แปรงซ์ (PALAIS DE PRINCES) ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ ชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่าจอดเรือยอร์ชอันหรูหราซึ่งแสดงถึงความมั่งคั่ง และร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้ แวะถ่ายภาพกับความหรูหราของคาสิโนแห่งมองเต คาร์โลซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของเมือง ผ่านชมมหาวิหารเซนต์นิโคลัส ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1875 ที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซ เคลลี ราชธิดาแห่งโมนาโค
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองนีส (NICE) (25 กิโลเมตร) นำท่านชมเมือง และช้อปปิ้ง
นีส / ชมเมือง / ช้อปปิ้ง
นำท่าน ชมเมืองนีส เมืองซึ่งอุดมไปด้วยสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม ซากปรักหักพัง พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า ตลาดกลางแจ้ง ภัตตาคาร อันเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม
ถ่ายภาพกับโบสถ์นอร์ทเทรอดามของเมืองนีส (BASILQUE NOTRE-DAME DE NICE) เป็นโบสถ์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบโกธิคอย่างชัดเจน เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองและเป็นอาคารทางศาสนาแห่งแรกที่มีความทันสมัยตั้งโดดเด่นสง่างามกลางถนนสายหลักในเมือง
อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง บริเวณจัตุรัสมาสเซนา (PLACE MASSENA) ณ ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยต (Galeries Lafayette Nice Massena) ห้างสรรพสินค้าใหญ่ระดับ HIGH-END ย่านใจกลางเมืองตามอัธยาศัยตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
”วันที่สิบ[ของการเดินทาง’
นีส – มองตง – ชมเมือง – ซานเรโม่ – เจนัว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองตง (MENTON) (30 กิโลเมตร) เมืองชายฝั่งริเวียร่าของฝรั่งเศสที่ชาวยุโรปขนานนามว่า Pearl of France อยู่ติดชายแดนอิตาลี แม้ว่ามองตองจะเป็นของฝรั่งเศส แต่เมืองนี้กลับ
มีลักษณะพิเศษตรงที่มันเหมือนกับเมืองของอิตาลีมากกว่าเมืองของฝรั่งเศส แม้แต่ป้ายบอกชื่อถนนยังมีภาษาอิตาลีติดอยู่ด้วย เดินทางถึง เมืองมองตง
มองตง (MENTON) / ชมเมือง
เป็นเมืองเล็กน่ารักที่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นที่สุด ไม่วุ่นวายนัก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความน่ารัก ทั้งอาคารบ้านเรือนสไตล์อิตาลี ร้านอาหารที่มีแต่ของอร่อย บรรยากาศรอบๆเมืองถือว่าดีมาก
เพราะด้านหน้าเมืองเป็นริเวียร่าและด้านหลังเป็นตึกหลากสี เป็นบรรยากาศที่ดูงดงามลงตัวอย่างที่สุด อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกีบการเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซานเรโม่ (SANREMO) (35 กิโลเมตร)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการเดินเล่นชมเมือง จนได้เวลาอันสมควร
ซานเรโม่ (SANREMO)
เมืองริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางทิศตะวันตกของแคว้นลิกูเรีย เมืองพักต่างอากาศที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทหรูเลียบชายฝั่งทะเลสไตล์เก่าแก่แบบที่ชาวยุโรปนิยมมาเที่ยวพักผ่อน เดินทางถึง เมืองซานเรโม ผ่านชมโบสถ์สไตล์รัสเซียนที่สร้างในช่วงปี 1900 และคาสิโนที่ออกแบบ ให้เหมือนเป็นพระราชวังสีขาวเด่น และท่าเรือยอร์ชของเศรษฐีชาวยุโรปที่นิยมแวะมาพักผ่อนที่เมืองนี้บริเวณย่านการค้าของเมืองที่สินค้าระดับปานกลางไปจนถึงแพงลิบลิ่ว ฉะนั้นหากแค่เลือกชมก็นับว่าคุ้มค่า และเพลิดเพลินอย่างมาก แล้วที่สำคัญอย่าลืมแวะลิ้มรสไอศกรีมเจลาโต (GELATO) ไอศกรีมขึ้นชื่อของอิตาลี ที่เต็มด้วยความอร่อยเข้มข้น และเหมาะอย่างยิ่งกับบรรยากาศเดินเล่นชิลๆ[บริเวณถนนคนเดิน พร้อมเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (GENOA) (145 กิโลเมตร)
เจนัว (GENOA) / ชมเมือง
หนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของอิตาลี ทั้งยังเป็นรัฐอิสระที่ตั้งอยู่ที่ลิกูเรีย ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเลอิตาลี ที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 จนถึงปี ค.ศ. 1797 และด้วยสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการเดินเรือนี่เอง จึงส่งผลให้เมืองเจนัวกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญริมฝั่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางฝั่งตะวันตกของอิตาลีไปโดยปริยาย เดินทางถึง เมืองเจนัว นำท่าน ชมเมืองเจนัว บริเวณย่านศูนย์กลางที่เรียกว่า เปียซซ่า เดย์ เฟร์รารี่ บริเวณที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกา เคยอาศัยอยู่ตอนเด็กๆ ชมย่านเมืองเก่าที่ยังคงบรรยากาศของวันเวลา และกลิ่นอายของชุมชนในสมัยก่อนที่ยังคงมีอาคารโบราณในแบบสถาปัตยกรรมชาวโรมัน ซึ่งล้วนแต่มีอายุมากกว่า 500 ปีขึ้นไป ซึ่งในอดีตเป็นแหล่งรวมของกะลาสี พ่อค้า และผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก NH COLLECTION MARINA. ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
”วันที่สิบเอ็ด[ของการเดินทาง’
เจนัว – มิลาน – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – กรุงเทพ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ SERRAVALLE DESIGNER OUTLET (55 กิโลเมตร)
SERRAVALLE DESIGNER OUTLET
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมิลานเพียง 60 นาที เป็น outlet ที่มีพื้นที่มากที่สุดของยุโรป และบริหารงานโดย McArthurGlen Group เครือธุรกิจ Outlet ชั้นนำของยุโรป ซึ่งมี 13 แห่งในสหราชอาณาจักรฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และอิตาลี ร้านค้าใน Serravalle มีทั้งหมดกว่า 180 ร้าน แหล่งช้อปปิ้งที่พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบหรูหรา ด้วยร้านค้าที่นำเสนอแฟชั่นแบรนด์อิตาลีและแบรนด์ระดับโลกอื่นๆ อาทิ Gucci, Prada, Armani, Burberry, Nike, Adidas, Michael Kors, Calvin Klein, Benetton, Guess เป็นต้น ในราคาที่ลดลง
สุงสุดถึง 70% นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่หลากหลายให้เลือกใช้บริการอีกด้วย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งอย่างจุใจตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองมิลาน (100 กิโลเมตร) เพื่อนำท่าน เดินเล่นชมเมือง พร้อมทั้งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์แนมและอื่นๆอีกมายมาย อย่างจุใจ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านชมเมือง และช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
มิลาน / ชมเมือง / ช้อปปิ้ง
จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับโบสถ์ดูโอโม่แห่งมิลาน โบสถ์ใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป เป็นศิลปะแบบกอธิคที่หรูหรา และใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1386 และที่น่าทึ่งของโบสถ์ ก็คือการตกแต่งประดับประดาที่เน้นความหรูหราอย่างเต็มที่โดยเฉพาะรูปปั้นรอบตัวอาคาร มีจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ขวามือของโบสถ์มีอาคารทรงกากบาทหลังหนึ่ง และหลังคามุงด้วยกระเบื้องโปร่งใส เรียกกันว่า“อาเขต” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กษัตริย์ วิคเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ปฐมกษัตริย์ ของอิตาลีในการรวมชาติ
นำท่าน ช้อปปิ้งภายในอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 (GALLERIA VITTORIO EMMANUELE II) ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของ เมืองมิลาน เพราะนอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงขายแล้ว ยังมีร้านกาแฟที่เรียกกันว่า ไซด์ วอล์ค คาเฟ่ สามารถนั่งจิบคาปูชิโน นั่งดูหนุ่มสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความงดงามของอาคารหลังนี้ หรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิลาน (MILAN AIRPORT)
19.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบินออสเตรียน เที่ยวบินที่ OS516/025
*** แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเวียนนา เวลา 20.35 – 22.25 น. ***
”วันที่สิบสอง[ของการเดินทาง’
กรุงเทพ ฯ
14.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..
ทัวร์ยุโรป เที่ยวยุโรป ทัวร์ต่างประเทศ แพคเกจทัวร์ยุโรป โปรแกรมทัวร์ยุโรป Europe Tour ทัวร์หรู ทัวร์ยุโรป 5 ดาว ทัวร์ยุโรป พรีเมี่ยม ทัวร์ยุโรปVIP ใช้เวลาวันหยุดของคุณในการ ท่องเที่ยวยุโรป
เพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์และการผจญภัย รวมถึงอาหารที่ดีเลิศรสด้วย แพคเกจทัวร์ยุโรป ที่แปลกใหม่ เส้นทางสายใหม่ หรือเส้นทางที่คุ้มค่ากับเวลาในการเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการ ทัวร์ยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ทัวร์อิตาลี ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ ทัวร์ฝรั่งเศส ทัวร์เยอรมนี ทัวร์ออสเตรีย ทัวร์อังกฤษ ทัวร์สก็อตแลนด์ ทัวร์เบลเยี่ยม ทัวร์เนเธอร์แลนด์ ทัวร์กรีซ ทัวร์นิวซีแลนด์ ทัวร์เวลส์ เป็นต้น
รวมถึงประเทศแถบ ทัวร์สแกนดิเนเวีย ทัวร์บอลติก อย่างเช่น ทัวร์สวีเดน ทัวร์ฟินแลนด์ ทัวร์นอร์เวย์ ทัวร์ล่าแสงเหนือ ทัวร์แสงเหนือ ล่าแสงเหนือ ทัวร์เดนมาร์ก ทัวร์ไอซ์แลนด์ ทัวร์ลัตเวีย ทัวร์เอสโตเนีย ทัวร์เร้นจ์