- ทัวร์ยุโรป เที่ยวยุโรป ทัวร์ต่างประเทศ แพคเกจทัวร์ยุโรป โปรแกรมทัวร์ยุโรป ทัวร์ยุโรป 5ดาว ทัวร์ยุโรปพรีเมี่ยม ทัวร์ยุโรปVIP
- ทัวร์สแกนดิเนเวีย ทัวร์ล่าแสงเหนือ
- ทัวร์เจาะลึกไอซ์แลนด์
ทัวร์ยุโรป ทัวร์หรู : FAROE ISLAND – ICELAND 11 วัน (TG/RC/FI)
กำหนดการเดินทาง : 20 – 30 กรกฎาคม 2567
ประเทศ : แฟโร – ไอซ์แลนด์
สายการบิน : การบินไทย (TG)
ราคา : 387,800 บาท
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพ
22.00.น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 2 แถว J/K เคาน์เตอร์ สายการบินไทย (TG) เจ้าหน้าที่จะคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
วันที่สองของการเดินทาง
กรุงเทพ – โคเปนเฮเก้น – หมู่เกาะแฟโร
01.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโคเปนเฮเก้น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 950
07.40 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง เดินทางถึง สนามบินกรุงโคเปนเฮเกน (COPENHAGEN) ประเทศเดนมาร์ก *** อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ภายในบริเวณเล้าจ์ของสนามบิน ซึ่งมีสิ่งอำนวย ความสะดวกคอยบริการ อาทิ อาหารว่าง และเครื่องดื่มหลากหลาย, ห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมบริการ ฟรีอินเตอร์เน็ต เพลิดเพลินกับหนังสือพิมพ์ และนิตยสารชั้นนำที่มีไว้คอยบริการ ได้เวลาอันสมควร ***
12.25 น. ออกเดินทางสู่ หมู่เกาะแฟโร โดยสายการบิน ATLANTIC AIRWAYS เที่ยวบินที่ RC 453
13.40 น. เดินทางถึง สนามบิน Vágar หมู่เกาะแฟโร ดินแดนในเขตปกครองของเดนมาร์ก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองธอร์สฮาวน์ TORSHAVN (50 กิโลเมตร)
ธอร์สฮาวน์ (TORSHAVN)
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะแฟโร เมืองนี้ตั้งชื่อตามเทพเจ้าแห่งฟ้าร้องของชาวนอร์สผู้ถือค้อน ธอร์ ซึ่งมีความหมายว่าท่าเรือของธอร์ ธอร์สเฮาน์ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสเตรมอย ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดจากทั้งหมด 18 เกาะ ธอร์สเฮาน์ถือว่าเป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ท่านจะได้ชมบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก HILTON GARDEN INN FAROE ISLANDS หรือเทียบเท่า
จากนั้นนำท่าน ลิ้มลองเบียร์ท้องถิ่นรสนุ่ม (BEER TASTING) FOROYA BJOR (FAROE BEER)
FOROYA BJOR (FAROE BEER)
เบียร์ที่มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปแกะ (RAM) มาตั้งแต่เริ่มทำกิจการ ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1888 ท่านจะได้รับฟังประวัติความเป็นมา และได้ชิมเบียร์รสชาติต่างๆ ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านคุณภาพและรสชาติของเบียร์ท้องถิ่น ที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคน
จากนั้นอิสระให้ท่านพักผ่อน และเปลี่ยนอิริยาบถจากการเดินทาง โดยการเดินเล่นในเมืองทินเกนส์ (TINGANES) และช้อปปิ้งในเมืองเก่าธอร์ฮาวน์
ทินเกนส์ (TINGANES)
“Ting” แปลว่า “รัฐสภา” เป็นศูนย์กลางของอำนาจในหมู่เกาะแฟโรตั้งแต่ยุคไวกิ้ง ประมาณปี ค.ศ. 900 แหลมหินนี้ เคยใช้เป็นสถานที่สำหรับการประชุมรัฐสภาประจำปี เป็นบริเวณที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ให้ท่านเดินเที่ยวชมบ้านไม้สีแดงและมีหลังคาหญ้าปกคลุม ซึ่งมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 16-17 นอกจากนี้ยังมีสำนักนายกรัฐมนตรี และสถานที่ราชการอื่นๆ ของเกาะแฟโรอยู่ที่นี่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ ที่พักโรงแรม HILTON GARDEN INN FAROE ISLANDS หรือเทียบเท่า
วันที่สามของการเดินทาง
ธอร์ฮาวน์ – ชูนูวิค – หมู่บ้านเจกฟ์ – ล่องเรือดินเนอร์ – ธอร์ฮาวน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชูนูวิค (TJORNUVIK) (55 กิโลเมตร)
ชูนูวิค (TJORNUVIK)
เป็นหมู่บ้านที่อยู่ทางเหนือสุดของเกาะ STREYMOY ในหมู่เกาะแฟโร โดย TJORNUVIK ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาลึกริมมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มีจำนวนบ้านไม่เกิน 55 หลังคาเรือน มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามและอากาศที่บริสุทธิ์ และมีลำธารสายเล็กไหลลงมาจากภูเขา หากใครได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ ไม่เคยผิดหวัง
จากนั้นนำท่าน ถ่ายรูปกับ RISIN OG KEELINGIN (The Giant and The Witch)
RISIN OG KELLINGIN
หนึ่งในแท่นหินที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางเหนือของเกาะ Eysturoy แห่งหมู่เกาะแฟโรชื่อ Risin og Kellingin มาจากตำนานยักษ์และแม่มด หินฝั่งซ้ายสูงประมาณ 73 เมตรคือยักษ์ ส่วนหินที่ติดบริเวณชายฝั่งสูงประมาณ 68 เมตร คือแม่มด โดยตำนานมีอยู่ว่าเจ้ายักษ์แห่งไอซ์แลนด์ต้องการเกาะแฟโรมาเป็นของตน จึงร่วมกับแม่มดที่เป็นภรรยา พยายามที่จะเอาเกาะไปให้ได้ พยายามอยู่จนถึง รุ่งเช้าแต่ก็ไม่สำเร็จ ไม่ระวังตัวจนลืมว่าหากเจอแสงแดด ยักษ์กับแม่มดก็ได้กลายร่างเป็นหินจนตราบเท่าทุกวันนี้
นำท่านเดินทางสู่ เกาะเอสทรอย (EYSTUROY ISLAND) (25 กิโลเมตร) เพื่อนำท่านชม น้ำตกฟอสซา(Fossa Waterfall) น้ำตกที่สูงที่สุดในหมู่เกาะแฟโร
น้ำตกฟอสซา (FOSSA)
เป็นน้ำตกที่มีสูงประมาณ 14 เมตร น้ำตกริมชายฝั่งที่ยิ่งใหญ่ตระการตาลดหลั่นเป็นสองระดับบนเกาะสเตรย์มอย น้ำตกนี้สามารถเที่ยวชมได้ตลอดปี ท่านจะได้ชมภาพน้ำตกสีขาวตัดกับฉากหลังของน้ำตกที่เป็นหินบะซอลท์สีดำสนิทตัดกันอย่างน่าทึ่ง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเจกฟ์ (GJOGV) ซึ่งเจ้าหญิงแมรี มกุฎราชกุมารีแห่งเดนมาร์กเคยเสด็จมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อปี ค.ศ. 2005 เพื่อนำท่านชม GJOGV NATURAL HARBOR
หมู่บ้านเจกฟ์ (GJOGV)
หมู่บ้านสีสันสดใสที่ตั้งอยู่บนเกาะ EYSTUROY มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะนี้ ชื่อของหมู่บ้านนี้ได้มาจากโตรกช่องเขาธรรมชาติที่สวยงามยาว 200เมตร ซึ่งได้ถูกใช้เป็นท่าเรือธรรมชาติเป็นเวลาหลายศตวรรษมีบันไดลงไปถึงช่องเขา นักท่องเที่ยวสามารถยืนชมวิวที่นี่และเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงาม และท่านยังสามารถเดินไปชมวิวโดยรอบของหมู่บ้าน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (SEAFOOD PLATTER)
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่ ธอร์ฮาวน์ (TORHAVN) ระหว่างทางนำท่าน ผ่าน หมู่บ้านฟุนนิงเงอร์ (FUNNINGUR) (10 กิโลเมตร) หมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบบนเกาะ EYSTUROY บริเวณเชิงเขา Slættaratindu เพื่อนำท่านสู่ จุดชมวิว FUNNINGUR อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ FUNNINGUR และจุดชมวิว KALDBAKSBOTNUR FJORD
หมู่บ้านฟุนนิงเงอร์ (FUNNINGUR )
นำท่าน เพลิดเพลินกับธรรมชาติ ณ บริเวณจุด
ชมวิวฟุนนิงเงอร์ ท่านจะตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติสวยงามที่อยู่ตรงหน้า ทั้งภูเขา สายน้ำ และได้สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ แวะถ่ายภาพกับโบสถ์ฟุนนิงเงอร์ (FUNNINGS KIRKJA) หนึ่งในโบสถ์ไม้เก่าแก่สิบแห่งในหมู่เกาะแฟโร และสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1847 และแวะจุดชมวิว KALDBAKSBOTNUR FJORD
นำท่านเดินทางต่อจนกระทั่งถึง ธอร์ฮาวน์ (Torshavn) เพื่อนำท่านล่องเรือ “NORDYSID” พร้อมรับประทานอาหารค่ำ
คำว่า Norðlýsið (nor-lui-si) ซึ่งแปลว่า “แสงเหนือ” เรือนี้สร้างโดยชาวแฟโรได้รับการบูรณะโดยศิลปินชาวแฟโรใน ยุค 80 และได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำหรับผู้มาเยือนและคนในท้องถิ่น ที่ท่านจะได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบใน การสัมผัสหมู่เกาะแฟโรจากท้องทะเล ล่องชมความสวยงามของหน้าผา เกาะแก่งต่างๆ อีกทั้งท่านยังมีโอกาสได้ลองชัก ใบเรือด้วยตนเองเสมือนได้ลองใช้ชีวิตชาวเรือในอดีต และได้รับประสบการณ์การชิมอาหารทะเลสดๆ โดยชาวเรือจะดำน้ำ ตัวเปล่าลงไปจับขึ้นมาให้กับท่าน
20.00 น. เรือเข้าเทียบท่า ธอร์ฮาวน์ (Torshavn)
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ โรงแรมที่พัก HILTON GARDEN INN FAROE ISLANDS หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง
ธอร์ฮาวน์ – เกาะเวการ์ – เกาะมิชชิเนส – ธอร์ฮาวน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เกาะเวการ์ (VAGAR ISLAND) (50 กิโลเมตร)
เกาะเวการ์ (VAGAR ISLAND)
เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในหมู่เกาะแฟโร ซึ่งมีทั้งหมด 18 เกาะ โดยตัวเกาะอยู่ทางตะวันตก มีพื้นที่ 178 ตาราง.มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามหลายแห่ง ประกอบด้วยหมู่บ้าน 6 แห่ง Miðvágur, Sandavágur Sørvágur, Gásadalur, Bøur, and Vatnsoyrar และเป็นที่ตั้งสนามบินของหมู่เกาะแฟโรอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินเท้าสู่ จุดที่เป็นบริแวณสำหรับถ่ายภาพ WITCHES FINGER (TRØLLKONUFINGUR)
WITCHES FINGER
เส้นทางนี้จะนำท่านอไปสู่จุดชมวิวที่ท่านสามารถมองเห็น Witch Finger (Trøllkonfinger) ซึ่งแปลว่า “นิ้วของแม่มด” และเป็นเสาหินสูง 313 เมตร ซึ่งเคยมีเพียง 11 คนเท่านั้นที่สามารถปีนไปจุดสูงสุดของ เสาหินได้ จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ SORVAGUR เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่สู่ เกาะมิชชิเนส (MYKINES ISLAND)
10.45 น. นำท่าน เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือ SORVAGUR สู่ เกาะมิชชิเนส (MYKINES ISLAND)
11.30 น. เรือเทียบท่า เกาะมิชชิเนส (MYKINES ISLAND) เกาะแห่งนกพัฟฟิน
เกาะมิชชิเนส (MYKINES ISLANDS)
เกาะมิชชิเนส (MYKINES ISLAND) เป็นเกาะอยู่ทางตะวันตกสุดของ 18 หมู่เกาะแฟโรที่ห่างไกล เกาะสวรรค์ลึกลับแห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่ของนกพัฟฟินนับพันตัว มีทัศนียภาพที่ดงาม และธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ใจ
จากนั้นนำท่าน ทำกิจกรรม HIKING เที่ยวชมความสวยงามบนเกาะมิชชิเนส (MYKINES ISLANDS)
(ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง) เกาะที่ท่านสามารถสัมผัสนกพัฟฟิน และนกนานาพันธุ์ได้อย่างใกล้ชิด (รับประทานอาหารกลางวันแบบ LUNCH BOX เพื่อความสะดวกในการเดินเที่ยวชมเ)
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านมิชชิเนส (MYKINES VILLAGE) หมู่บ้านที่มีชื่อเดียวกับเกาะ
(หมู่บ้าน MYKINES)
หมู่บ้านนี้มีบ้านมากกว่า 40 หลัง แต่มีผู้อยู่อาศัยถาวรเพียง 11 คน นอกจากนี้ เป็นเวลา 8 เดือนต่อปี ทางออกเดียวของพวกเขาคือใช้เฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากบนเกาะไม่มีร้านขายของชำ ชาวเกาะจึงต้องพึ่งพาเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำเสบียงอาหารติดตัวไปตลอดฤดูหนาวอันยาวนาน แต่ในช่วง ฤดูร้อน 4 เดือน ก็จะกลับมามีชีวิตชีวาจากนักท่องเที่ยว
จากนั้นนำท่าน เดิน HIKING สู่ อนุสรณ์สถาน (The Memorial Monument) เพื่อชมนกพัฟฟิน
Hiking to The Memorial Monument
อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 เพื่อรำลึกถึงบุคคลที่เสียชีวิตใน เกาะ Mykines อนุสรณ์สถานนี้ได้เปิดตัวเมื่อ ค.ศ. 2008 และอนุสาวรีย์ยังตั้งอยู่ใกล้กับจุดชมวิว นำท่านเดินไปยังจุดชมวิวเพื่อชมนกพัฟฟิน
นกพัฟฟิน (PUFFIN)
เป็นหนึ่งในสามสปีชีส์เล็กๆของนกทะเลชนิดหนึ่ง ในนกจำพวก Fratercula มีจงอยปากสีสดใสในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เป็นนกทะเลผิวน้ำที่หาอาหารด้วยการดำน้ำเป็นหลัก ส่วนใหญ่จะอยู่บนหน้าผาชายฝั่งทะเลหรือเกาะ โดยมีการทำรังในรอยแยกในหมู่หินหรือในโพรงดิน นกพัฟฟินเป็นนกเตี้ยสั้นปีกและหางสั้นมีส่วนบนเป็นสีดำและสีขาวอันเดอร์พาร์หรือน้ำตาลเทา หัวมีสีดำใบหน้าเป็นสีขาวสะส่วนใหญ่และเท้าเป็นสีส้มสีแดงชนิดของนกพัฟฟิน Atlantic Puffin, Horned Puffin Tufted Puffin ที่หมู่เกาะแฟโรจะเป็นพันธุ์ Atlantic Puffin
*** ช่วงที่ชมนกพัฟฟินบนเกาะ Mykines อยู่ในช่วงเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม ของทุกปี ***
จากนั้นนำท่านเดินทางค่อสู่ ธอร์ฮาวน์ (TORSHAVN) (50 กิโลเมตร)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก HILTON GARDEN INN FAROE ISLANDS หรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง
ธอร์ฮาวน์ – หมู่บ้านเคิร์ชเบอร์ – ล่องเรือ RIB BOAT – ธอร์ฮาวน์ ล่องเรือ SMYRIL LINE สู่ ประเทศไอซ์แลนด์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเคิร์ชเบอร์ (Kirkjubøur) หมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้สุดของเกาะสเตรอเมอ (STREYMOY) หมู่บ้านเคิร์ชเบอร์ (KIRKJUBOUR)หมู่บ้านที่มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดหมู่เกาะแฟโร ซึ่งมีคนมาตั้งรกรากอาศัยอยู่เริ่มแรกตั้งแต่ยุคไวกิ้ง ในศตวรรษที่ 11 หมู่บ้านนี้มีบ้านไม้เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของหมู่เกาะแฟโรเช่นกัน
จากนั้นนำท่าน ชมซากโบสถ์ Kirkjubømúrur (MAGNUS CATHEDRAL) ซึ่งจะถูกเรียกว่า Múurur บาทหลวงชาวต่างชาติเริ่มสร้างโบสถ์แห่งนี้ เมื่อปี ค.ศ. 1269-1305 ในสไตล์โกธิค กำแพงยาว 26.5 เมตร กว้าง 10.8 เมตร สูง 9 เมตร และผนังหนา 1.5 เมตร ชมกำแพงโบสถ์ที่ยังคงเหลือมาจนปัจจุบัน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ Gamlarætt เพื่อนำท่าน ล่องเรือ RIB BOAT (Rigid Hulled Inflatable Boat) สู่ ISLAND OF HESTUR ที่มีถ้ำถึง 600 ถ้ำ รวมถึง ผานก (BIRD CLIFF) ที่เต็มไปด้วยนกนานาพันธุ์
*** ประมาณ 1 ชั่วโมง ***
RIB BOAT TO ISLAND OF HESTUR
กัปตันที่มากประสบการณ์จะขับเรือนำพาท่านไปยังสถานที่ที่ห่างไกลผู้คนที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแต่นกและแมวน้ำอาศัยอยู่เท่านั้น ท่านจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับนกพัพฟิน และนกอื่นๆ ที่น่าสนใจ ที่อาศัยอยู่ตาม หน้าผาขนาดใหญ่ของเกาะ HESTUR หากคลื่นลมสงบและสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านจะได้ล่องเรือเข้าไปชมถ้ำหิน Klæmintsgjógv ขนาดใหญ่ ซึ่งท่านจะได้รับประสบการณ์ตื่นเต้นในการชมภูมิทัศน์ของเกาะที่น่าอัศจรรย์ใจ และวิวทิวทัศน์ในมุมมองอันน่าทึ่ง นอกจากนี้ยังได้เห็นเสาหินบะซอลต์สูงเท่าปราสาท อีกด้วย ซึ่งในบริเวณนี้อุดมไปด้วยนกทะเลมาทำรัง ซึ่งท่านจะได้ประทับใจกับการล่องเรือชมอย่างแน่นอน
10.00 น. ล่องเรือกลับสู่ ท่าเรือ Gamlarætt
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านโบ (BOUR VILLAGE) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหินเลียบฝั่งทะเล
หมู่บ้านโบ (BOUR VILLAGE)
หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีความสวยงามมาก อยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ Vágar ในหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่ใน Sorvagsfjord ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทัศนียภาพอันงดงามของทะเล อีกทั้งเกาะ Tindholmur ที่เต็มไปด้วยหินซึ่งมียอดเขามากมาย หมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านไม้เก่าแก่ที่มีเสน่ห์และโบสถ์แบบดั้งเดิมจากปี ค.ศ. 1865 ใกล้กับ Tindholmur มีหินที่เรียกว่า Eiriksboði
นำท่านสู่ จุดชมวิว Bøur PANORAMIC VIEW POINT ซึ่งท่านจะได้ชม DRANGARNIR, TINDHOLMUR AND GASHOLMUR
จุดชมวิว Bour PANORAMIC VIEW POINT
DRANGARNIR เป็นแนวหินที่มีชื่อเสียงที่สุดของหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่นอกเกาะ Vágar ไปทางเกาะ Tindholmurที่งดงามตระการตา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับเที่ยวในหมู่เกาะแฟโร มีความสูง 230 ฟุต เป็นแนวหินที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือTINDHOLMUR เป็นเกาะเล็กๆ ที่สวยงาม ตั้งอยู่ติดกับเกาะวาการ์ในหมู่เกาะแฟโร เกาะเล็กๆ สูงชันที่ไร้ผู้คนมีเพียงนกทะเลและแกะ เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องหน้าผาหินบะซอลท์สูงชันและแหลมคม GASHOLMUR เกาะเล็กๆ ทางใต้ของ Sørvágsfjørður ในหมู่เกาะแฟโร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ถ่ายภาพกับน้ำตกมูลาฟอสเซอร์ (MULAFOSSUR WATERFALL) หนึ่งในแลนด์มาร์คชื่อดังเกาะแฟโร
น้ำตกมูลาฟอสเซอร์
น้ำตกที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวหมู่เกาะแฟโร
ท่านจะชมวิวสุดอลังการของน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง 60 เมตร ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Gasadalur ที่ไกล สุดโพ้น ที่เพิ่งสร้างอุโมงค์เชื่อมกับถนนหลักเมื่อไม่กี่ปี มานี้เอง ที่นี่เป็นความสวยงามด้านทัศนียภาพระดับโลกที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองธอร์ฮาวน์ (Torshavn) อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง พร้อมเพลิดเพลินกับการซื้อของฝากตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร
16.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ เพื่อเช็คอินเข้าสู่ เรือข้ามฝาก SMYRIL LINE เรือข้ามฝากซึ่งมีลักษณะเหมือนเรือสำราญขนาดเล็กที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเรือมากมาย อาทิ ช้อปปิ้ง DUTY FREE ห้องอาหารเกมส์รูม สระว่ายน้ำในร่ม และโรงภาพยนตร์ เป็นต้น อีกหนึ่งรูปบแบบการเดินทางสู่ ประเทศไอซ์แลนด์แบบไม่รีบร้อน พร้อมทัศนียภาพที่งดงามตลอดสองฝั่งทะเลที่ท่านจะต้องประทับใจ
18.00 น. เรือ SMYRIL LINE ออกจากท่าเรือ เมืองธอร์ฮาวน์ หมู่เกาะแฟโร ล่องสู่ เมืองเซย์ดิสฟยอร์ดูร์
(Seyðisfjörður) เมืองท่าเล็กๆที่มีเสน่ห์ทางฝั่งตะวันออก ของประเทศไอซ์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ แบบสแกนดิเนเวียนบุฟเฟ่ต์ ณ ภัตตาคารในเรือ และพักผ่อนสบายๆ ด้วยห้องพักแบบ DELUXE CABIN ห้องพักคู่แบบเตียงดับเบิล ซึ่งมีบานหน้าต่างกว้างให้ท่านสามารถ
นั่งชมวิวได้จากในห้องพัก มีพื้นที่สำหรับมุมนั่งเล่นพร้อมบริการมินิบาร์ในห้องพัก ท่านจะได้สัมผัส และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ วิวทิวทัศน์ยามเย็น และค่ำคืนอันงดงาม และแสนโรแมนติคตลอดการล่องเรือ
วันที่หกของการเดินทาง
เซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (ไอซ์แลนด์) – ชมเมือง – น้ำตกเดดตี้ มิวัตน์ – อาบน้ำแร่ในเขตทะเลสาบมิวัตน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
08.30 น. เรือเทียบเท่า เมืองเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seyðisfjörður) ประเทศไอซ์แลนด์
จากนั้นนำท่าน ชมเมือง และแวะถ่ายภาพกับถนนสีรุ้งที่นำไปสู่โบสถ์สีฟ้า Seyðisfjarðarkirkja
จากนั้นนำท่านสู่ เขตทะเลสาบมิวัตน์ “Myvatn Lake” (200 กิโลเมตร)
เที่ยง บประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายภาพกับน้ำตกเดดตี้ (Dettifoss) (60 กิโลเมตร) น้ำตกทรงพลังมากที่สุดในยุโรป
น้ำตกเดดตี้ (Dettifoss)
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายใน Vatnajökull National Park ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ ลักษณะน้ำตกมีขนาดความกว้าง 100 เมตร และมีความ สูง 45 เมตร น้ำจะไหลลงไปในหุบเขา Jökulsárgljúfur ถือเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
จากนั้นนำท่านกลับสู่ เขตทะเลสาบมิวัตน์ “Myvatn Lake” เพื่อนำท่านอาบน้ำแร่
ทะเลสาบมิวัตน์ / อาบน้ำแร่ เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนซึ่งมีผลพวงมาจากลาวาภูเขาไฟและพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรณีวิทยา และได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ของไอซ์แลนด์ ใน
ปี ค.ศ. 1974 นำท่าน อาบน้ำแร่ในเขตทะเลสาบมิวัตน์ “Myvatn Nature Baths” อีกหนึ่งเขตอาบน้ำแร่ของ ไอซ์แลนด์ เป็นน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เนื่องจากเขตทะเลสาบมิวัตน์ เป็นเขตที่มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ใต้ดินจึงเป็นแหล่งสะสมของแร่ธาตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โซเดียม คลอรีน ซิลิก้า เป็นต้น โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 36-40 องศาเซลเซียส
(มีบริการผ้าเช็ดตัวให้ท่านละ 1 ผืน และกรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วยสำหรับแช่น้ำพุร้อน)
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
มิวัตน์ – ซาวิค – ล่องเรือชมปลาวาฬ – อาคูเรย์รี่ – ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮูซาวิค (Husavik) (60 กิโลเมตร)
ฮูซาวิค / ล่องเรือชมปลาวาฬ
หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านเรือนน่ารักเหมือนฉากละคร ลักษณะบ้านเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็ก มีชั้นเดียว รูปแบบบ้านจะแตกต่างกันตามสไตล์ และมีลักษณะเด่น คือ หลังคาสารพัดสีและอีกหนึ่งกิจกรรมของ เมืองฮูซาวิค คือ ในอดีตเป็นแหล่งประมงขนาดใหญ่ กระทั่งถูกดัดแปลงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการล่องเรือชมปลาวาฬกลางทะเล ซึ่งท่านมีโอกาสเห็นวาฬมิงค์ สูงถึง 98.2% จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
*** ทั้งนี้การล่องเรือชมปลาวาฬนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันเป็นหลัก ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยจะหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่น่าสนใจมาทดแทนให้ท่าน ***
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) (75 กิโลเมตร) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์
จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับโบสถ์อาคูเรย์รี่ “Akureyri Church” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นโบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน ออกแบบโดยสถาปนิก Gudjon Samuelsson สร้างในปี 1940 อิสระให้ท่าน เดินเล่นบนถนนคนเดินเกเรอโตรกาตา “Gerartogata Street” ถนนสายช้อปปิ้งของเมืองซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมท้องถิ่นมากมายให้เลือกสรร จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองที่มีสัสันอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นสวยงามด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีสีสัน
เลาะเลียบไปตามไหล่เขาที่รังสรรค์โดยธรรมชาติไว้อย่างงดงาม เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง
ที่น่าสนใจ และให้ท่านได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง อันเป็นความแปลกใหม่ทีน้อยคนนักจะได้สัมผัส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม AKUREYRI-BERJAYA ICELAND HOTELS หรือเทียบเท่า
อาคูเรย์รี่ – เรคยาวิก – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – แช่น้ำร้อนสกาย ลากูน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จาหนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
09.20 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเรคยาวิก โดย สายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI031
10.05 น. เดินทางถึง เมืองเรคยาวิก (REYKJAVIK) เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับ ขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก
เรคยาวิก (REYKJAVIK)
เมืองเรคยาวิก (REYKJAVIK) เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ในภาษาไอซ์แลนดิกแปลว่า “The bay of smoke” และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั่วโลกเหนือมากที่สุด ชาวนอร์ดิค เป็นผู้อพยพคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เมืองเรคยาวิกในปี พ.ศ. 1413 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 2329 และเนื่องด้วยความร้อนจากภายใต้พื้นโลกนั้นแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจนที่นี่ในรูปแบบของบ่อน้ำร้อน ทำให้เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและไอน้ำจากความร้อนใต้พื้นดิน ทำให้ประเทศไอซ์แลนด์นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังจากธรรมชาติที่ยังคงถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี
จากนั้นนำท่าน ชมเมืองเรคยาวิก ถ่ายภาพความงามของโบสถ์ประจำเมือง โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา
โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา llgrímskirkja)
เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ ตัวโบสถ์
มีความสูงถึง 74.5 เมตร สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิส เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี1945 แล้วเสร็จปี ค.ศ.1986 บริเวณด้านหน้าของโบสถ์ยังมีอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน (Leifr Eiriksson) ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ซึ่งในประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ถือว่าวาเลฟร์ เป็นชาวนอสร์ ชาติยุโรปคนแรกที่ไปเหยียบดินแดนแถบอเมริกาเหนือซึ่งรวมถึงกรีนแลนด์ด้วย โดยอนุสาวรีย์นี้สหรัฐอเมริกามอบให้แก่ไอซ์แลนด์เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ
1,000 ปี รัฐสภาของไอซ์แลนด์
จากนั้นนำท่านผ่านชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ Hofdi House บ้านที่มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของชาติ
อันน่าสนใจ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยง ผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในการยุติสงครามเย็น
นำท่าน ผ่านชมรัฐสภาของชาวไอซ์แลนด์ และศาลาเทศบาลเมือง ได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เพอร์แลน (PERLAN) สถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
เพอร์แลน
ตั้งอยู่บนเนินเขา มีความสูงเท่ากับอาคาร 5 ชั้น จากพื้นดิน25.7 เมตร เป็นอาคารขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง ตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำขนาดใหญ่ 4 ฐานที่มองเห็นได้ ในระยะไกลโดดเด่น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน เดินเล่นชมเมือง และช้อปปิ้งสินค้าของฝาก ของที่ระลึกบริเวณ ถนนคนเดิน Laugavegur
ถนนคนเดิน Laugavegur
ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียง และเก่าแก่ที่สุดของเมือง Laugavegur มีความหมายว่า ”wash road” เนื่องจากอดีตเคยเป็นเส้นทางเดินสู่ บ่อน้ำพุร้อน โดยหญิงสาวในสมัยก่อนของกรุงเรคยาวิกจะเดินทางไปซักล้างเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มโดยใช้เส้นทางสายนี้ ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งแหล่งรวมของห้างสรรพสินค้า และ ร้านเสื้อผ้าบูติคมากมาย ได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สกาย ลากูน (SKY LAGOON)
แช่น้ำร้อนสกาย ลากูน (SKY LAGOON)
Sky Lagoon ตั้งอยู่บริเวณอ่าวคาร์สเนส ห่างจากตัวเมือง เรคยาวิก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ เพียงไม่กี่นาทีท่านพักผ่อนสามารถแช่น้ำในบ่อร้อนที่ให้บรรยากาศราวกับปล่องภูเขาไฟ พร้อมวิวท้องน้ำสุดลูกตาของมหาสมุทรแอตแลนติก แบบไร้สิ่งใดขว้างกั้น นอกจากบ่อน้ำร้อนแบบอินฟินิตี้พูลที่มีความยาวกว่า 70 เมตรแล้ว ที่นี่ยังมีห้องอบไอน้ำ ซาวน่า และบาร์น้ำ ไว้บริการอีกด้วย ทุกคนที่เข้าใช้บริการต้องอาบน้ำตามฉบับชาวไอซ์แลนด์เพื่อปรับธาตุร้อนและเย็น ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เริ่มต้นด้วยการปรับอุณหภูมิยังลากูนเพื่ออบอุ่นร่างกาย ก่อนกระโดดลงสระน้ำเย็นเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดการไหลเวียนของเลือด และกระชับผิว หลังจากนั้นใช้เวลา 5-10 นาทีในห้องสตรีม ต่อด้วยซาวน่า เดินเล่นผ่านหมอกเย็น ใช้สครับประจำถิ่นขัดผิว ก่อนลงไปผ่อนคลายอีกครั้งเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ
** กิจกรรมนี้ไม่เหมาะกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี **
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก GRANDHOTEL REYKJAVIK หรือเทียบเท่า
เรคยาวิก – โคเปนเฮเก้น – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จาหนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
07.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก โดย สายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI204
12.55 น. เดินทางถึง กรุงโคเปนเฮเก้น เมืองหลวงประเทศเดนมาร์ก
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายภาพกับรูปปั้นนางเงือกน้อย (LITTLE MERMAID) รูปปั้นนางเงือก เป็นรูปปั้นสำริดที่นั่งอยู่บนก้อนหิน มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตร ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกนเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
นำท่าน แวะถ่ายภาพย่านนูฮาวน์ (NYHAVN) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จากนั้นอิสระให้ท่าน
ช้อปปิ้ง ณ THE STROGET จุดเริ่มต้นของถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของเมือง และถือเป็นถนนช้อปปิ้งสายที่ยาวที่สุดของโลกอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (SEAFOOD PLATTER)
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ โรงแรมที่พัก NH COLLECTION COPENHAGEN หรือเทียบเท่า
โคเปนเฮเกน – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
อิสระให้ท่านพักผ่อนอิริยาบถตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินโคเปนเฮเกน
14.25 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 951
กรุงเทพฯ
06.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..