20 มี.ค. – 01 เม.ย. / 09 – 20 เม.ย. / 10 – 21 เม.ย. 67
วันเดินทาง
การบินไทย (TG)
สายการบิน
ฝรั่งเศส – เบลเยี่ยม – เนเธอร์แลนด์ – เยอรมนี
ประเทศ

ทัวร์ยุโรป :  ยุโรปคลาสสิค ฝรั่งเศส – เบลเยี่ยม – เนเธอร์แลนด์ – เยอรมนี 12 วัน (TG)

กำหนดการเดินทาง : 20 มี.ค. – 01 เม.ย. / 09 – 20 เม.ย.  / 10 – 21 เม.ย. 2567

ประเทศ : ฝรั่งเศส – เบลเยี่ยม – เนเธอร์แลนด์ – เยอรมนี

สายการบิน : การบินไทย (TG)

ราคา : 198,800 บาท

 

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

วันแรกของการเดินทาง

กรุงเทพฯ – ปารีส

21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 3 แถว D เคาน์เตอร์ สายการบินไทย (TG) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

2

วันที่สองของการเดินทาง

ปารีส  – ชมเมือง – แร็งส์ – ลิ้มลองแขมเปญระดับ – ชมเมือง

00.05 น. เดินทางสู่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 930

06.50 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง กรุงปารีส (PARIS) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส หลังจากผ่านพิธีตรวจ

คนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว

จากนั้นนำท่าน ชมเมืองปารีส มหาราชินีแห่งเมืองหลวงของโลก

ชมเมืองปารีส / ล่องแม่น้ำแซน

นำท่านผ่านชม มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม (Notre Dame Cathedral) ที่เป็นตัวอย่างผลงานด้านสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่วิเศษสุดไม่ว่าจะมองจากมุมไหนๆ ชมย่านนักศึกษาศิลปิน ย่านการค้าโอเปร่าเฮาส์ ปลาช เดอ ลา ค็องคอร์ด (Place De La Concorde) จัตุรัสแห่งความสามัคคี โบสถ์มาเดลเลน (The Madeleine Church) ที่สร้างแบบกรีกโบราณ โดมแองวาลิค (Church Of Les Invalides) สถานที่เก็บพระศพของนโปเลียน

นำท่าน ถ่ายภาพกับ หอไอเฟล (Eiffel Tower) สัญลักษณ์ที่สำคัญของนครปารีส นำท่าน ล่องแม่น้ำแซน ชมวิวทิวทัศน์ของเกาะอิล เดอ ฟรองซ์ สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน โบสถ์นอร์ทเทอร์-ดาม ซึ่งยังคงอนุรักษ์ความงดงามคลาสลิค ไว้ได้อย่างงดงาม

น่าประทับใจ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร 

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแร็งส์ (REIMS) (145 กิโลเมตร)

เมืองแร็งส์ (REIMS)

เมืองแร็งส์ (REIMS) เป็นเมืองในจังหวัดมาร์นในแคว้นช็องปาญาร์แดนในประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส แร็งส์ก่อตั้งขึ้นโดยกอล และกลายมาเป็นเมืองสำคัญระหว่างสมัยจักรวรรดิโรมัน ต่อมาแร็งส์ก็มามีบทบาทสำคัญต่อราชบัลลังก์ฝรั่งเศสในการเป็นสถานที่สำหรับการทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสที่มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดามแห่งแร็งส์

จากนั้นนำท่าน ลิ้มลองแชมเปญระดับมรดกโลก ณ DOMAINE VRANKEN POMMERY เมืองแร็งส์ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นชองปาญ ต้นกำเนิดของแชมเปญ

DOMAINE VRANKEN POMMERY

ปอมเมอรี (POMMERY) ถือเป็นแชมปาญ เฮ้าส์ (Champagne House) ที่เก่าแก่ แต่เป็นตำนานหน้าหนึ่งของผู้ผลิตแชมปาญ ถือกำเนิดในปี 1856 อีกทั้ง Vranken-Pommery Estate ยังได้รับการประกาศจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 2015 อีกด้วย นำท่านชมการผลิต รวมทั้งเดินชมห้องใต้ดินอันเป็นสถานที่เก็บแชมเปญหินปูนความยาว 18 กิโลเมตร ความลึก 30 เมตร ที่ปัจจุบันสามารถบรรจุแชมเปญได้มากถึง 20-25 ล้านขวด รวมทั้งรุ่นเก่าแก่ที่หายากด้วย รวมถึงปอมเมอรี โรยัล บลู สกาย ซูร์ กลาซ เอ็นวี (Pommery Royal Blue Sky Sur Glace NV) แชม  เปญที่สร้างความฮือฮา และถูกเรียกว่าเป็น “21st – Century Innovation” โดยข้างขวดเขียนว่า Sur Glace คือใส่น้ำแข็ง นั่นหมายความว่าแชมเปญตัวนี้รังสรรค์มาเพื่อให้ใส่น้ำแข็งลงไปด้วยจึงจะอร่อย บางคนบอกว่าเป็น “Champagne on the rocks” เป็น semi-dry ซึ่งจะหวานกว่ารุ่น Brut (dry) รุ่นนี้ทำจาก ปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) ปีโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier) และชาร์โดเนย์ (Chardonnay) เหมาะสำหรับดื่มริมทะเล ปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ ที่สำคัญสภาพอากาศร้อน ๆ แบบบ้านเรา หอมกลิ่นผลไม้ เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี ทอฟฟี่ และดอกไม้ เมื่อสิ้นสุดการเยี่ยมชม นำท่าน ลิ้มลองแชมเปญรสเลิศของที่นี่ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

 มหาวิหารแร็งส์ (REIMS CATHEDRAL)

มหาวิหารแร็งส์ (Reims Cathedral) มหาวิหารที่ถูกใช้เพื่อเป็นสถานที่สำหรับการทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์ฝรั่งเศส โดยมหาวิหารถูกตกแต่งด้วยประติมากรรมแบบโกธิค และได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1991 นอกจากนี้ยังเป็นมหาวิหารที่ประกอบพิธีราชาภิเษกสวมมงกุฎการขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสตั้งแต่สมัยของพระเจ้าโคลวิสในปี ค.ศ. 496

 ถ่ายภาพกับพระราชวังโต (PALACE OF TAU)

พระราชวังโต” (Palace of Tau) เคยเป็นวังของอัครมุขนายกแห่งแร็งส์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระมหากษัตริย์จะพำนักก่อนเข้าสู่พิธีบรมราชาภิเษก ณ “มหาวิหารแร็งส์” หลังจากเสร็จพิธี จะมีงานจัดงานพระราชทานเลี้ยงภายหลังพิธีอีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก LA CASERNE CHANZY HOTEL & SPA AUTOGRAPH COLLECTION หรือเทียบเท่า

3

วันที่สามของการเดินทาง

แร็งส์ – ดินองต์ (เบลเยี่ยม) – ชมเมือง – บรัสเซลล์ – ชมเมือง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ดินองต์ (DINANT) (175 กิโลเมตร) ให้ท่านเดินเที่ยวชมเมือง

ดินองต์ (DINANT)

เมืองเล็กๆแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดนามูร์ (Namur) ทางตอนใต้ของเบลเยี่ยม โดยตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิวส์ (Meuse River) มีอาคารสีสวยราวกับลูกกวาดขนาบกับสายน้ำ ด้านหลังเป็นหน้าผาสูงที่ตั้งของป้อมปราการ ด้านหน้าของผาหิน คือ โบถส์  Notre Dame ที่ยอดโดมเป็นรูปทรงคล้ายหัวหอมตั้งเด่นเป็นสง่าดูสวยงามราวกับภาพโปสการ์ด จนได้ฉายาเมืองว่าเป็น “ลูกสาวแห่งแม่น้ำมิวส์” เมืองนี้ยังเป็นเมืองบ้านเกิดของนักประดิษฐ์แซกโซโฟน Mr.Adolphe Sax

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ บรัสเซลล์ (BRUSSELS) (105 กิโลเมตร)

บรัสเซลล์ (BRUSSELS)

เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม และยังเป็นเมืองหลวงของยุโรป เนื่องจากที่นี่เป็นที่ตั้งของ EU Parliament หรือ รัฐสภาสหภาพยุโรป เป็นเมืองเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และอื่นๆ อีกมากมาย

นำท่านเที่ยวชม กรุงบรัสเซลล์ (BRUSSELS)  

รูปปั้นแมนนิเกนพีส (Manneken Pis) fountain

ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของถนนเลทุฟ ตัดกับถนนแซน รูปปั้นแมนนิเกนพีส มีความสวยงาม เเละมีความเก่าเเก่มาก คำว่า Manneken Pis มีความหมายว่าเด็กชายกำลังฉี่ เป็นประติมากรรมที่มีลักษณะเป็นน้ำพุขนาดเล็ก ตัวประติมากรรมหล่อด้วยทองเเดง เป็นรูปเด็กผู้ชายเปลือยกายกำลังยืนฉี่ลงอ่าง โดยมีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร โดยแต่ละเทศกาลที่สำคัญ จะมีการนำชุดที่เข้ากันกับเทศกาลต่างๆ มาสวมให้กับรูปปั้นตัวนี้ด้วย

จัตุรัสกรองปลาซ (GRAND PLACE)

จัตุรัสในกรุงบรัสเซลล์ ที่เลื่องชื่อว่าสวยงามที่สุดในยุโรป และเป็นสถานที่ซึ่งยูเนสโก ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 ออกแบบโดยเลอโนตร (Le Notre) สถาปนิกผู้ริเริ่มสร้างเมืองแวร์ซายส์ให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ชวนให้ระลึกถึงการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส มีถนน 7 สาย ทอดตัวสู่จตุรัสกลางเมืองที่สวยงามนี้ ถนนที่ล้อมรอบบ่งบอกถึงสินค้าที่ขาย เช่น ถนนขายเนย ถนนขายเนื้อ เป็นต้น ตื่นตากับอาคารรายรอบที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้ง บาร็อค โกธิค นีโอ-โกธิค

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก NH COLLECTION BRUSSELS หรือเทียบเท่า

4

วันที่สี่ของการเดินทาง

บรัสเซลล์ – บรูจส์ – ล่องเรือ – เกนต์ – ชมเมือง – บรัสเซลล์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบรูจส์ (BRUGES) (80 กิโลเมตร)

เมืองบรูจส์ (BRUGES)

เมืองที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นเวนิสแห่งตอนเหนือ เป็นเมืองที่เงียบสงบและมีมนต์เสน่ห์ของอารยธรรมในสมัยยุคกลาง จนรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO  เดินทางถึง เมืองบรูจส์ (BRUGES)

ศาลาว่าการกลางเมือง (CITY HALL)

นำท่านผ่านชม ศาลาว่าการกลางเมือง ในสไตล์แบบโกธิค ชมบริเวณจัตุรัสมาร์ก หรือ ตลาดประจำเมือ ที่รายล้อมด้วยอาคารอันสวยงามของศิลปกรรมในยุคต่างๆ ทีผสมผสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัว

ล่องเรือชมเมืองบรูจส์ (CANAL CRUISE)

นำท่าน ล่องเรือชมเมืองบรูจส์ ชมความงดงามเมืองมรดกโลกที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ ที่มีความงดงามแบบดั้งเดิมที่ได้อนุรักษ์ไว้อย่างดี มีเวลาให้ท่านเดินเล่นชมเมืองหรือ เลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึกตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่าน ชมเมืองบรูจส์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เวนิสเหนือ”เป็นเมืองท่า และมีความสำคัญในทางศิลปะในยุคจิตรกรรมยุคเนเธอร์แลนด์ตอนต้น เมืองในสมัยโบราณอายุกว่า 500 ปี และขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี 2000

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (GENT) (60 กิโลเมตร)

เมืองเกนต์ (GENT)

เมืองที่ใหญ่ที่สุด และมั่งคั่งที่สุดในยุโรปเหนือ ถนนหนทางทั้งเมืองปูด้วยหินแบบโบราณ ในสมัยยุคกลาง เมืองเกนท์ ได้ชื่อว่าเป็นนครที่สวยงามเป็นรองกรุงปารีสเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เดินทางถึง เมืองเกนต์ (GENT)

ชมเมืองเกนต์ (GENT)

นำท่านชม หอระฆังประจำเมือง (THE BELFRY) ที่สูงตระหง่านถึง 91 เมตร เป็นจุดเด่นของเส้นขอบฟ้า ที่ด้านล่างนั้นเป็น หอประชุมสงฆ์ (CLOTH HALL) ที่มีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 15 และได้รับเกียรติเป็นมรดกโลก

ปราสาทท่านเคานท์

ผ่านชมป้อมปราสาทในยุคกลาง ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1180 เพื่อแสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของ PHILIP OF ALSACE และถึงแม้ว่าเบลเยี่ยมจะผ่านการรบและสงครามมามากมายแต่ปราสาทท่านเคานท์ยังคงความงดงามผ่านกาลเวลา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองเกนท์

THE GRASLEI & THE KORENLEI

นำท่านเดินเล่นชม ถนน THE GRASLEI และ THE KORENLEI ถนนสายเก่าแก่ของเมืองเกนท์ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองโดยจะมีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคกลางเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ บรัสเซลล์ (BRUSSELS) (55 กิโลเมตร)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก NH COLLECTION BRUSSELS หรือเทียบเท่า

5

วันที่ห้าของการเดินทาง

บรัสเซลล์ – หมู่บ้านกังหันคินเดอร์ไดค์ (เนเธอร์แลนด์) ร็อตเตอร์ดัม – ชมเมือง – เดลฟ์ – กรุงเฮก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันคินเดอร์ไดค์ (KINDERDIJK) (150 กิโลเมตร)

หมู่บ้านกังหัน KINDERDIJK

หมู่บ้านกังหันลม (WINDMILLS) ที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ เป็นกลุ่มกังหันเก่าแก่เรียงรายเป็นทิวแถวบนทุ่งโล่งกว้างทั้งหมด 19 ตัว ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 1740 เพื่อใช้ในการ ผันน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1997  ให้ท่านถ่ายรูปเก็บภาพที่ประทับใจตามอัธยาศัย ได้เวลาอันควร

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองร็อตเตอร์ดัม (ROTTERDAM) (30 กิโลเมตร)  เมืองท่าหลัก และเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส (MAAS RIVER) และยังเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเมืองร็อตเตอร์ดัม

ชมเมืองร็อตเตอร์ดัม

จากนั้นนำท่าน ชมเมืองร็อตเตอร์ดัม ที่มีลักษณะต่างจากเมืองอื่นๆ ในเนเธอร์แลนด์ คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่

นำท่าน เข้าชมบ้านลูกเต๋าไคก์คูมูส (THE KIJK KUBUS THE CUBIC HOUSES) กลุ่มอาคารเหลืองขาวทรงลูกเต๋า 39 หลัง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบสาขาประหยัดพลังงาน  จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

ศาลาว่าการเมือง / สะพานอีราสมูส

นำท่าน ถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองร็อตเตอร์ดัม (CITY HALL OF ROTTERDAM) อาคารซึ่งรอดพ้นจากการโดนถล่มเมืองโดยกองทัพของฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  แวะถ่ายภาพกับสะพานขาว

อีราสมูส (ERASMUS BRIDGE) 1 ใน 3 สะพานซึ่งเชื่อมเมืองสองฝั่งที่คั่นกลางด้วยแม่น้ำมาสเข้าด้วยกัน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เดลฟท์ (DELFT) (20 กิโลเมตร)

เดลฟท์ (DELFT)

อีกเมืองหนึ่งที่มีความสวยงามและสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเมืองนี้ในช่วงปี ค.ศ. 1572-1584 เคยเป็นที่พำนักของเจ้าชายวิลเลี่ยมส์แห่ง ออเรนจ์พระบิดาแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ พระองค์ใช้เมืองเดลฟท์เป็นที่บัญชาการต่อสู้กับสเปน

เข้าชม ROYAL DELFT  โรงงานเครื่องกระเบื้องเคลือบ (ROYAL DELFT FACTORY AND MUSEUM) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเลือกซื้อเป็นของที่ระลึกตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงเฮก (THE HAGUE) (15  กิโลเมตร)

กรุงเฮก (THE HAGUE)

เมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเนเธอร์แลนด์ รองจากกรุงอัมสเตอร์ดัม และรอตเตอร์ดัม ปัจจุบันกรุงเฮก เป็นที่ตั้งของรัฐบาลดัตช์ อาคารรัฐสภา ศาลฎีกา และสภาแห่งรัฐรวมไปถึงเป็นเมืองที่ประทับของพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์อีกด้วย เดินทางถึง กรุงเฮก (THE HAGUE) นำท่านเที่ยวชม Peace Palace and  Binnenhof

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก HILTON THE HAGUE หรือเทียบเท่า

6

วันที่หกของการเดินทาง

กรุงเฮก – อูเทรคต์ – ปราสาท DE HAAR  กรุงเฮกเมืองจำลอง – ชมเมือง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อูเทรคต์ (UTRECHT)  (70 กิโลเมตร)

อูเทรคต์ (UTRECHT)

เมืองหลวงของจังหวัดอูเทรคต์ ซึ่งตั้งอยู่ในตอนกลางของเนเธอร์แลนด์ ภายในเมืองเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องอัน เก่าแก่ ซึ่งบางหลังมีมาตั้งแต่ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 18

DOMTOREN TOWER CATHEDRAL

นำท่านชม หอคอยโบสถ์ Domtoren Tower Cathedral ซึ่งเป็นหอคอยขนาดใหญ่ที่แยกออกจากมหาวิหารเซนต์มาร์ติน หลังเกิดพายุร้ายแรงเมื่อปี ค.ศ.1674  มีความสูง 112 เมตรและมีเรือนกระจกขนาด 50 ระฆังหลายศตวรรษ หอดูดาวที่สูงที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ปราสาทเดอร์ฮาร์ (DE HAAR CASTLE) (25 กิโลเมตร)

ปราสาทเดอร์ฮาร์ (DE HAAR CASTLE)

เป็นปราสาทใหญ่และหรูหราที่สุดในเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่นอกเมืองอูเทรคต์ ตัวปราสาทมีความสวยงามสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค บนซากปราสาทเก่าตั้งแต่ปี

ค.ศ.1892 (ตัวปราสาทเดิมมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 13) เดิมเจ้าของเป็นชาวฝรั่งเศสนามว่าVan Zuylen van Nijevelt van de Haar ใช้ปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงหน้าร้อนเดือนกันยายนเพียงหนึ่งเดือนต่อปี ภายในประดับตกแต่งอย่างหรูหราราวกับปราสาทในเทพนิยาย มีขนาดใหญ่โตและกว้างขวาง ประกอบด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องสมุดที่ยังมีหนังสือสมัยเก่า ห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับเก้าอี้ได้มากถึงยี่สิบหกตัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ พร้อมของตกแต่ง และถ้วยชามมากมาย รวมถึงห้องครัวขนาดใหญ่ เตา และอุปกรณ์ทำครัวที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในปราสาท

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเฮก (THE HAGUE) (60 กิโลเมตร)

นำท่านเข้าชม เมืองจำลองมาดูโรดัม

เมืองจำลองมาดูโรดัม (MADURODAM)

เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ.  1952 เป็นเมืองจำลองสิ่งก่อสร้างที่สำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยอัตราส่วน 1:25 โมเดลและยานพาหนะตามท้องถนน ส่วนใหญ่สามารถเคลื่อนที่ได้ ซึ่งมีอาคารที่ทำการต่างๆ ปราสาท โบสถ์ สถานีรถไฟ ท่าเรือ สนามบิน คลอง ถนน และอื่นๆ อีกมากมาย ให้ท่านได้เดินชมเมืองจำลอง พร้อมเก็บภาพความทรงจำ

ศาลโลก (PEACE PALACE)

นำท่าน ถ่ายภาพกับศาลโลก หรือพระราชวังแห่งสันติภาพ (PEACE PALACE) เป็นที่เก็บรักษากฎหมายระหว่างประเทศ (SEAT OF INTERNATIONAL LAW) ที่ตั้งกองบัญชาการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร และเนติบัณฑิตยสถานแห่งกรุงเฮก และหอสมุดอันล้ำค่า

อาคารรัฐสภาส (BINNENHOF)

อาคารรัฐสภาสมัยโบราณ (BINNENHOF) ที่กษัตริย์ในอดีตใช้เป็นที่ว่าราชการกับข้าราชสำนัก ภายในเป็นลานกว้างล้อมรอบด้วยอาคาร  ตรงกลางมีน้ำพุสีทองสวยงาม ซึ่งเป็นที่ประชุมของอัศวินในสมัยก่อน

MARKET SQUARE

ย่านจัตุรัสกลางเมือง (MARKET SQUARE) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์เก่า (OLD CHURCH) ซึ่งเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าชายวิลเลี่ยมส์ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก HILTON THE HAGUE หรือเทียบเท่า

7

วันที่เจ็ดของการเดินทาง

กรุงเฮก หมู่บ้านกีธูรน์ ล่องเรือ – อัมสเตอร์ดัม 

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น (GIETHOORN VILLAGE) (175 กิโลเมตร) เยือนเวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์หมู่บ้านเล็กๆน่ารักที่ไม่มีถนนแม้แต่สายเดียวในหมู่บ้าน อิสระให้ท่านเดินเล่นภายในหมู่บ้านกีธูร์น

ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น

ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn) หรือ เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ หมู่บ้านในฝันที่ปราศจากถนนที่ต้องใช้การโดยสารผ่านทางเรือบนคลองรอบหมู่บ้านเท่านั้น หมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองกีธูร์น ซึ่งตั้งอยู่ด้านขวามือของเขตสงวน De Wieden แห่งนี้ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์” จากการที่เป็นหมู่บ้านปราศจากถนน แต่ต้องเดินทางผ่านคลองซึ่งมีความยาวราว 7.5 กิโลเมตร และมีสะพานเชื่อมเพื่อใช้เป็นทางเดินติดต่อกันภายในหมู่บ้านกว่า 180 สะพาน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมสเตอร์ดัม (AMSTERDAM) (130 กิโลเมตร)

อัมสเตอร์ดัม (AMSTERDAM)

เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเทล (AMSTEL) เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ มีประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป โดยเฉพาะช่วงคริสต์ศตวรรษที่17 ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์

แวะชมโรงงานเจียระไนเพชรและอัญมณี

จากนั้นนำท่าน แวะชมโรงงานเจียระไนเพชร และอัญมณีซึ่งเป็นงานฝีมือลือชื่อของเนเธอร์แลนด์มานานพร้อมกันนั้นท่านจะมีโอกาสเลือกซื้อเพชรเม็ดงามในราคาเป็นกันเอง

จากโรงงานอีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก DOUBLE TREE BY HILTON AMSTERDAM หรือเทียบเท่า

8

อัมสเตอร์ดัม – สวนคอร์เคนฮอฟ – ซานส์ สคันส์ โวเลนดัมอัมสเตอร์ดัม

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สวนพฤกษชาติเคอร์เคนฮอฟ (KEUKENHOF) (40 กิโลเมตร)

สวนคอร์เคนฮอฟ (KEUKENHOF)

ชมสวนดอกทิวลิป ซึ่งบานสะพรั่งหลากหลายสีสันตระการตาที่ยาวนับสิบกิโลเมตร ที่ท่านจะประทับใจไปอีกนาน

ให้ท่านได้เดินเล่น และถ่ายรูปคู่กับดอก ทิวลิป ที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีในเรือนกระจกภายในสวนพฤกษชาติ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้เมืองหนาวแสนสวยงามน่ารัก เช่น ลิลลี่ ไฮเดรนเยีย ไฮยาซินน์ฯลฯ อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับเหล่าพฤกษชาติมากมาย พร้อมเก็บภาพความประทับใจ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านซานส์ สคันส์ (ZAANSE SCHANS) (20 กิโลเมตร)

หมู่บ้านซานส์ สคันส์

 หมู่บ้านอนุรักษ์วัฒนธรรมเก่าแก่และวิถีชีวิตของชาวเนเธอร์แลนด์สมัยก่อนที่มีกลิ่นอายหรือสัญลักษณ์ของความเป็นเนเธอร์แลนด์ไว้ได้อย่างครบถ้วน อดีตในหมู่บ้านนี้มีกังหันลมกว่า 800 ตัวที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งอาจจะลดน้อยลงไปบ้างในปัจจุบันและได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้คนได้เข้าชม นอกจากหมู่บ้านซานส์ สคันส์ ยังมีโรงสาธิตวิธีการทำชีส และทำรองเท้าไม้ให้ท่านได้เข้าชม

(หมายเหตุ : ส่วนจัดแสดงบางส่วน อาจมีการหยุดตามเทศกาลโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โวเลนดัม (VOLENDAM) (25 กิโลเมตร)

โวเลนดัม (VOLENDUM)

เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของท่าเรือ และหมู่บ้านชาวประมงอันแสนคึกคัก รวมไปถึงลักษณะการแต่งกายในแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์ ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบันยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี ให้ท่านได้ชมวิถีชีวิตของชาวเมืองที่ยังคงมีการแต่งกายในแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ อัมสเตอร์ดัม (AMTERDAM) (25 กิโลเมตร)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก DOUBLE TREE BY HILTON AMSTERDAM หรือเทียบเท่า

9

อัมสเตอร์ดัม – ล่องเรือแม่น้ำอัมสเตล – มาสตริคท์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ชมเมืองอัมสเตอร์ดัม

เที่ยวชมกรุงอัมสเตอร์ดัม

นำท่าน ชมเมืองอัมสเตอร์ดัม เดินชม จัตุรัสดัมสแควร์ (DAM SQUARE) เป็นศูนย์กลางของเมืองที่มีอนุสรณ์สงครามเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2  และอดีตศาลาว่าการเมืองที่หลุยส์ โบนาปาร์ต (LOUISE BONAPARTE) เคยใช้เป็นพระราชวังหลวงในช่วงที่จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสเรืองอำนาจ   

นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพ (NATIONAL MONUMENT) เป็นสิ่งก่อสร้างรูปทรงกรวยสีขาว สูงประมาณ 70 ฟุต สร้างขึ้นในปี 1956 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์ยังมีอาคารเก่าแก่ที่สวยงามและสำคัญ คือ พระราชวังหลวง (KONINKLIJK PALEIS) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1655 เพื่อใช้เป็นที่ว่าการเมือง

ล่องเรือชมกรุงอัมสเตอร์ดัม

นำท่าน ล่องเรือเที่ยวกรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งตลอดเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมาคลองเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญที่สุดของเมืองนี้ และอัมสเตอร์ดัมก็มีคลองจำนวนมากที่สุดในโลกด้วย (ประมาณ 100 คลองยาวรวมกัน 97 กม.) และมีสะพานข้ามคลอง 600 สะพาน สถานที่สำคัญน่าชมที่สุดของอัมสเตอร์ดัมเกือบทั้งหมดจะอยู่ริมคลองรวมทั้งคฤหาสน์บ้านช่องของคหบดีเก่าแก่ด้วย แม้กระทั่งตลาดดอกไม้สดของเมืองหลวงแห่งนี้ก็ยังอยู่ริมคลอง จนได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ มาสตริคท์ (MAASTRICHT) (220 กิโลเมตร) เมืองสวยที่อยู่ทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์   

มาสตริคท์ (MAASTRICHT)

เมืองที่หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดลิมเบิร์ก (Limburg) ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์พิพิธภัณฑ์และศิลปวัฒนธรรม รวมไปถึงทัศนียภาพที่สวยงามระหว่างเมืองเก่า และเมืองใหม่ขั้นกลางด้วยสะพานหินโค้งข้ามแม่น้ำ Meuse เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมือง

ชมเมืองมาสตริคท์

นำท่าน ชมเมืองบริเวณจัตุรัสมาร์เก็ต (MARKET SQUARE) นำท่าน ผ่านชม STADHUIS เป็นศาลากลางใจเมืองตั้งอยู่ใน MARKT เป็นอาคารที่ออกแบบโดยPIETER POST ในศตวรรษที่ 17 ในสไตล์คลาสสิกแบบดัตช์และเสียงระฆัง 49 ใบ จะดังขึ้นทุกชั่วโมง

BASILICA OF SAINT SERVATIUS

นำท่าน ถ่ายภาพกับ Basilica of Saint Servatius เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกในเมือง สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ Saint Servatius ผู้สอนศาสนาชาวอาร์เมเนียที่เสียชีวิตและถูกฝังในเมืองมาสทริคต์ปี ค.ศ. 384 สถาปัตยกรรมสไตล์ โรมาเนสก์ ซึ่งทำให้เมืองมาสทริคต์กลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้แสวงบุญมาหลายศตวรรษ

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก KRUISHERNHOTEL MAASTRICHT หรือเทียบเท่า

10

มาสตริคต์ – อาเคน (เยอรมนี) – มอนสเชา – บ็อบพาร์ด

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อาเคน (AACHEN) (45 กิโลเมตร)     

 อาเคน (AACHEN)

เมืองที่อยู่ด้านตะวันตกสุดของประเทศเยอรมนี ชื่อเต็มของเมืองอาเคน คือ บัดอาเคน (BAD AACHEN) โดย Bad หมายถึง น้ำ ที่ได้ชื่อเช่นนี้เนื่องมาจากภายใต้เมืองอาเคน มีสายน้ำร้อนธรรมชาติอยู่มากมาย น้ำแร่ใต้ดินนี้ มีความเชื่อว่าสามารถนำมาดื่ม เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วยและยังเป็นจุดกำเนิดของขนมที่ชื่อว่า พรินเทิน (Printen หรือ Aachener Printen) ซึ่งมีชื่อเสียงในประเทศเยอรมนี

(AACHENER DOM)

จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับมหาวิหารอาเคน (AACHENER DOM) อันเก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งถือเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดของเมือง มหาวิหารแห่งอาเคนนี้ยังถูกจัดให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคผสมกับกาโล-โรมันซึ่งได้รับอนุญาตจากพระสันตะปาปาแห่งกรุงโรม ให้สร้างโบสถ์นี้ในปี ค.ศ. 786 และสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 805 โดมนี้ถูกใช้เป็นสถานที่แต่งตั้งกษัตริย์ของเยอรมนีในสมัยก่อนมาแล้วหลายพระองค์

ชมเมืองอาเคน

จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับ RATHAUS สไตล์โกธิค และในสมัยศตวรรษที่ 17-18 ได้สร้างเพิ่มเป็นแบบบาร็อค ปัจจุบันนี้ใช้เป็นที่รับรองแขกสำคัญจากเมืองอื่น และทุกปี

จะมีพิธีมอบรางวัล Karlspreis  (Charlemagne award) เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่ส่งเสริมสันติภาพในยุโรปตัวอย่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับรางวัลคาร์ลได้แก่ บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ โทนี่ แบลร์ นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองมอนสเชา (MONSCHAU) (35 กิโลเมตร)

มอนสเชา (MONSCHAU)

เมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางเมืองประวัติศาสตร์เมืองหนึ่งของประเทศเยอรมนี อยู่ในเขตอาเคิน (Aachen District) ของรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน (Nordrhein-Westfalen) ตั้งอยู่ท่ามกลางเทิอกเขาไอเฟล ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 15 เมืองสวยของประเทศเยอรมนี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน เที่ยวชมเมืองมอนสเชา (MONSCHAU)

เที่ยวชมย่านใจกลางเมืองเก่า

เที่ยวชมบ้านเรือนเก่าแก่กว่า 300 ปี ที่มีเอกลักษณ์ คือบ้านเรือนสไตล์ HALF-TIMBERED ที่เรียงรายริมฝั่งแม่น้ำ RUR ท่านจะได้สัมผันเสน่ห์บรรยากาศบ้านเรือนเก่าแก่ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวในสไตล์ฝรั่งเศส และเยอรมัน ด้านหลัง โดยอาคารที่โดดเด่นที่สุดของเมือง คือ บ้านสีแดง (Red House) ทาวน์เฮาส์สไตล์บาร็อค ที่ถูกสร้างขึ้นใน 1752 โดย Johann Heinrich Scheibler ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง

นำท่านเดินทางสู่ บ็อบพาร์ด (BOPPARD) (165 กิโลเมตร)

 บ็อบพาร์ด (BOPPARD)

เมืองสำคัญสำหรับจัดงานเทศกาลประจำปีริมฝั่งแม่น้ำไรน์ ที่มีความยาวทั้งหมด 1,233 กิโลเมตร แม่น้ำไรน์มีความยาวเป็นอันดับสามของทวีปยุโรป ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และทางด้านจิตใจของชาวเยอรมัน เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดบนแม่น้ำไรน์ตอนกลาง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ที่พัก BELLEVUE RHEINHOTEL BOPPARD หรือระดับเทียบเท่า

11

บ็อบพาร์ด  – แฟรงค์เฟิร์ต – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

บริการสระว่ายน้ำในร่ม ซาวน่า ห้องออกกำลังกาย บริการนวด และสปาชั้นนำ (ไม่รวมอยูในราคาทัวรฺ)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ แฟรงค์เฟิร์ต (FRANKFURT) (130 กิโลเมตร)

 แฟรงค์เฟิร์ต (FRANKFURT)

เมืองที่ได้รับการพัฒนาจนกลายมาเป็นเมืองนานาชาติ เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งเป็นเสมือนเส้นตัดกันของถนน รถไฟ และเครื่องบินที่สำคัญๆ เป็นที่ตั้งของโลกทางด้านเศรษฐกิจ ตึกสูงระฟ้าที่มีธนาคารต่างชาติ และสถาบันการเงินต่างๆตั้งอยู่ อาทิ ธนาคารบุนเดส สถาบันตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศเยอรมนี รวมไปถึงสถาบันทางการเงินชั้นแนวหน้ามากมาย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเมือง และช้อปปิ้ง จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

 จัตุรัสรือเมอร์ (ROMERBERG)

ย่านใจกลางเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง ศิลปะแบบโกธิค ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง พบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า “ออสไซเล่อ” (OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเก็บได้ครบ ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางลาน

 ถนนซายล์ (ZEIL)

จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต

20.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923

12

กรุงเทพฯ

12.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…