ทัวร์ยุโรป : บาวาเรีย โครเอเชีย และคาบสมุทรบอลข่าน 12 วัน (OS)
กำหนดการเดินทาง : ปิดการขาย
ประเทศ : เยอรมนี – สโลวีเนีย – โครเอเชีย – มอนเตเนโกร – แอลเบเนีย – มาซิโดเนีย – ออสเตรีย
สายการบิน : สายการออสเตรียนแอร์ไลน์
ราคา : ปิดการขาย
เส้นทางเมืองที่ต้องไม่พลาด !! ทริปเดียวสัมผัสถึง 7 ประเทศ สู่แคว้นบาวาเรีย ชมเหมืองเกลือเก่าแก่ ณ เมืองเบิร์ชเทสกาเดน อดีตเมืองสำคัญแห่งนาซีล่องเรือชมโบสถ์กลางทะเลสาบสีเขียวมรกต ความงามแห่งเทือกเขาแอลป์ เมืองเบลดถ้ำโพสทอยนา ฉายาแกรนด์แคนยอนใต้พื้นพิภพ ชมปลามนุษย์ สัตว์แปลกที่หาชมที่ไหนไม่ได้สัมผัสความงามระดับมรดกโลก ดุจราชินีแห่งโครเอเชียที่ อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ ผ่อนคลายไปกับดนตรีธรรมชาติ ออร์แกนทะเล เมืองซาดาร์ ที่แรกและที่เดียวในโลก ชมพระราชวังอันยิ่งใหญ่แห่งจักรพรรดิโรมัน ณ พระราชวังดิโอคลีเธียน เมืองสปริทตามรอยซีรีส์ชื่อดัง Game of thrones ณ เมืองเก่ามรดกโลก ดูโบลฟนิก ชมความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมยุคออตโตมัน “แอลเบเนีย”เยือนอาณาจักร “มาซิโดเนีย” ความยิ่งใหญ่แห่งอเล็กซานเดอร์มหาราช
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพ ฯ
21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 4 เคาน์เตอร์ที่ G7-G19 สายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
23.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมิวนิค โดย สายการออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 26 / OS 111
วันที่สองของการเดินทาง
มิวนิค – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – มิวนิค
*** แวะเปลี่ยนเครื่องที่ สนามบินเวียนนา เวลา 05.35 – 06.30 น. ***
07.35 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง เมืองมิวนิค (MUNICH) ประเทศเยอรมนี มหานครแห่งแคว้นทางตอนใต้ เป็นเมืองที่มีบรรยากาศรื่นรมย์ เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทาง วัฒนธรรมของภูมิภาค และเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่เด่นที่สุดในประเทศเยอรมนีอีกหลายแห่ง หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร นำท่านผ่านชมอาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่สวยงามจากยุคสมัยอันรุ่งเรืองของราชวงศ์ WITTELS BACH ผ่านชม Altes Rathaus (Old Town Hall) ถูกเผาทำลายครั้งแรกเมื่่อปีค.ศ.1460 และสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อปี 1470-1480 สร้างในสไตล์โกธิค ต่อมาถูกระเบิดพังพินาศในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง สร้างขึ้นมาใหม่ และยังคงแบบเดิมไว้ทุกประการ ผ่านชมศาลาว่าการเมืองใหม่ (Neuse Rathaus) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ Glockenspiel (Carillon) หอระฆัง ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เวลา 11 โมงเช้าในหน้าหนาว และเพิ่มรอบ 5 โมงเย็นในหน้าร้อน ท่านจะได้พบกับการเต้นรำแบบ Schläffertanz (Cooper’s Dance) ซึ่งมีการเต้นรำแบบนี้ครั้งแรก เมื่อปี 1517 (481 ปีมาแล้ว) เพื่อเป็นการระลึกถึง การสิ้นสุดของโรคระบาดในยุโรป จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับโบสถ์พระแม่มารีทรงหัวหอมคู่ เฟราเอ่นเคียร์ชเช่อ (The Frauenkirche) สร้างด้วยอิฐสีแดง สูง 99 เมตรนี้ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิค ตัวโบสถ์สร้าง ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1468 แต่ถูกทำลายอย่างย่อยยับในสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับบูรณะในปี 1953
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งบริเวณรอบๆ จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (MARIENPLATZ) ซึ่งมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านไอศกรีมมากมายมีโต๊ะเก้าอี้ตั้งวางเรียงรายอยู่ด้านนอกสำหรับนักท่องเที่ยวได้นั่งจิบ เบียร์ หรือทานอาหารพร้อมชมความสวยงามของท้องที่นี้ไปด้วยโดยเฉพาะวันที่ อากาศดี หรือแม้แต่แดดจ้าคนเยอรมันก็มักนิยมออกมานั่งตากแดดเป็นประจำ อีกทั้งบริเวณย่านนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมายอาทิ Louis Vuitton, Hugo, Boss, Chanel เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOLIDAY INN MUNCHEN ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สามของการเดินทาง
มิวนิค – เบิร์ชเทสกาเดน – เหมืองเกลือ – ล่องเรือโคนิกซี เบิร์ชเทสกาเดน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบิร์ชเทสกาเดน (BERCHTESGADEN) (160 กิโลเมตร) เมืองเล็กๆ น่ารักที่ถูกโอบล้อมโดยเทือกเขาแอลป์ โดดเด่นด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติที่งดงามอีกทั้งเป็นเมืองที่ฮิตเลอร์ได้สร้าง “รังนกอินทรี” อันโด่งดังในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันยังมีบังเกอร์ และเครื่องป้องกันหลงเหลืออยู่
จากนั้นนำท่านเข้าชม เหมืองเกลือเก่า เมืองเบิร์ชเทสกาเดน (BERCHTESGADEN SALT MINE) เป็นเหมืองเกลือที่ถูกสร้างตั้งแต่ ค.ศ.1517 ซึ่งในสมัยอดีต เหมืองเกลือเป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว นั่งรถรางลอดอุโมงค์ยาว 700 เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงสีเสียงบรรยากาศราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ชื่นชมในความเก่าแก่ของเมืองเกลือโบราณ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโคนิกซี (KONIGSEE LAKE) (80 กิโลเมตร) ล่องเรือชมความสวยงาม ได้รับการขนานนามว่า “ทะเลสาบกษัตริย์” ซึ่งเป็นเป็นทะเลสาบในหุบเขา อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย นำท่าน ล่องเรือชมความงามของทิวทัศน์ ที่สวยงามจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่ถือว่าลึกที่สุด น้ำใสที่สุด และสะอาดที่สุดในเยอรมนี จึงอนุญาตให้เฉพาะเรือพาย และเรือที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้นที่สามารถแล่นไปมาในทะเลสาบได้ กระทั่งได้เวลาอันสมควร
นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองเบิร์ชเทสกาเดน อิสระให้ท่านเดินเล่น ย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะการสร้างอาคารในรูปแบบบาวาเรียตอนบนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พักโรงแรม Hotel Edelweiss Berchtesgaden ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง
เบิร์ชเทสกาเดน – ฟิลลัค (ออสเตรีย) – ชมเมือง – เบลด (สโลวีเนีย) ล่องทะเลสาบเบลด – ลูบลิยานา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟิลลัค (Villach) (190 กิโลเมตร) เมืองเล็ก ๆ น่ารักทางตอนใต้ ใกล้ชายแดนสโลเวเนีย ที่ได้ชื่อว่า “ไข่มุกแห่งคารินเทีย”เป็นอีกเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของมณฑลคารินเธีย
นำท่านเดินเล่น ชมเมืองวิลลัค เมืองที่มีความน่ารักของสีสันอาคารย่านการค้า จากนั้นผ่านชม โบสถ์เซนต์จาค็อบ (St Jakob Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14-15 ในแบบสไตล์โกธิค โดยโบสถ์แห่งนี้ถือว่าเป็นคริสตจักร โปรเตสแตนต์แห่งแรกของประเทศออสเตรียอีกด้วย ยอดของโบสถ์สูงตะหง่านอย่างเป็นเอกลักษณ์ของเมืองฟิลลัค
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบลด (BLED) (50 กิโลเมตร) เมืองแห่งปราสาท กลางทะเลสาปสุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียนแอลป์ ประเทศสโลวีเนีย ทะเลสาปเบลดเกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งจากภูเขาจูเลียนแอลป์ และแหล่งน้ำธรรมชาติจากใต้ดินเกิดเป็นทะเลสาปขนาดย่อมกว้าง ทะเลสาปเบลดมีเกาะตรงกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์พระแม่มารีย์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเข้าชม โบสถ์พระแม่มารีย์ โดยการนั่งเรือไม้โบราณข้ามไปยังเกาะกลางทะเลสาบเบลด ของเหล่านักแสวงบุญตั้งแต่ศตวรรษที่ 13-14 จากท่าเรือจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 99 ขั้นก็จะถึงยังตัวโบสถ์ มีประเพณีท้องถิ่นสโลวีเนียเชื่อกันว่าคู่สมรสใหม่ให้ฝ่าย ชายอุ้มฝ่ายหญิงปีนบันได 99 ขั้นนี้ และฝ่ายหญิงจะต้องไม่ส่งเสียงดังใดๆทั้งสิ้น ถ้าทำสำเร็จชีวิตสมรสจะรักกันยืนยาว และที่โบสถ์กลางน้ำยังมีกระดิ่งที่เชื่อกันว่าใครได้ไปสั่นกระดิ่งแล้วจะโชคดี
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูบลิยานา (LJUBLJANA) (60 กิโลเมตร) เมืองหลวงที่น่าหลงใหลของสโลวีเนีย ดินแดนที่อยู่บริเวณยุโรปกลาง ด้วยความบอบช้ำจากสงครามและประวัติศาสตร์ที่สั่งสมมานานกว่าพันปี จึงทำให้สโลวีเนียกลายเป็นดินแดนที่มีความเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของยุโรป ที่ชวนให้ระลึกถึงอิทธิพลของจักรวรรดิต่างๆ เดินทางถึง เมืองลูบลิยานา (LJUBLJANA)
นำท่านเดินชม สะพานมังกร (Zmaj ski Most) เป็นสะพานที่มีความโดดเด่นสะดุดตาบริเวณหัวสะพานที่มีการออกแบบสร้างเป็นรูปมังกรบินขนาดใหญ่ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นทางข้ามแม่น้ำลูบลิยานิกา ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 สมัยของกษัตริย์ฮังการี นับว่าเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป นำท่านเดินชมย่าน เพรเซเรน สแควร์ (Prešeren Square) ชมรูปปั้นของฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลวีเนีย เป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ
นำท่านผ่านชม ปราสาทลูบลิยานา (Ljubljana Castle) ที่ตั้งอยู่บนเขา เดิมเป็นป้อมปราการ สร้างในสมัยศตวรรษที่ 11 โดยเชื่อว่าสร้างโดยไม้และหินในระยะเริ่มแรก และถูกสร้างใหม่ในศตวรรษที่ 12 ในช่วงสมัย ราชา Ottokar II ของโบฮีเมียนและเปลี่ยนมาในสมัยของ Rudolph of Habsburg ภายหลังและในศตวรรษที่ 15 ก็ได้ถูกทำลายลงและสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง จากนั้นเดินชม ย่านทาวน์สแควร์ (town square) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St.Nicholas Cathedral) และชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของตัวโบสถ์ ที่โดดเด่นด้วยยอดโดมสีเขียวและหอคอยคู่ที่อยู่เหนือหลังคาโบสถ์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พักโรงแรม Radisson Blu Hotel Ljubljana ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง
ลูบลิยานา – โพสทอยนา – ถ้ำโพสทอยนา – ปราสาทเพรดจามา โอพาเทีย – ชมเมือง – ลิกา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโพสทอยนา (POSTOJNA) (60 กิโลเมตร) เมืองเล็กๆ ในประเทศสโลวีเนีย ที่มีชื่อเสียงทางด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นำท่านเข้าชม ถ้ำโพสทอยนา (Postojna Caverns) ถ้ำที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี ชมหินงอกหินย้อยที่ระยิบระยับสวยงามแปลกตา เดินเท้าและนั่งรถไฟฟ้าภายในถ้า ชมปลามนุษย์อันมีชื่อเสียงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ผิวสีเนื้อ คล้ายมนุษย์ ลำตัวยาวคล้ายงู มีแขนและขา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1768 อาศัยอยู่ในที่มืด ถ้ำแห่งนี้เปิดให้บริการกว่า 188 ปีแล้ว ภายในถ้ำมีทางเชื่อมต่อกันเป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร
จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทเพรดจามา (Predjama Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่ฝังตัวอยู่ที่ปากถ้ำ ของหน้าผาขนาดสูง สร้างตั้งแต่ปี 1274 ในศตวรรษที่ 15 เป็นที่พำนักของ อัศวินเออราเซม ลูเกอร์ (Knight Erazem Lueger) ผู้ปกครองเมืองทรีเอสเต้ในสมัยนั้น เออราเซม มีความขัดแย้งกับฝ่ายราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ในสมัยของกษัตริย์เฟเดอริกที่ 3 (Fredrick III) และได้ใช้ปราสาทนี้เป็นฐานต่อสู้เพื่อเป็นอิสระจากราชวงศ์ ปราสาทเพรดจามาได้รับการจัดลำดับว่าเป็นหนึ่งในสิบของปราสาทที่น่าหลงใหลระดับโลก นำท่านเข้าชมด้านในและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้านหน้าปราสาท
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองโอพาเทีย (OPATIJA) (60 กิโลเมตร) เมืองธรรมชาติและบรรยากาศอันบริสุทธิ์ติดริมทะเล เป็นเมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก” เมืองนี้จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สำคัญที่สุดเมืองหนึ่งของโครเอเชีย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม รูปปั้นนางแห่งนกนางนวล (Maiden with the Seagull) สัญลักษณ์ของเมืองโอพาเทีย เป็นรูปปั้น ที่แกะโดย Zvonko Car นักประติมากรที่มีชื่อเสียง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลิกา (LIKA) (170 กิโลเมตร) เป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของโครเอเชีย ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกมาตั้งแต่ปี 1979 มี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Hotel Jezero ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่หกของการเดินทาง
อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ – ซาดาร์ – ชมเมือง – ซาดาร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมความงามของทะเลสาบสีมรกต ณ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) มีลักษณะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองลิก้า (LIKA) ประเทศโครเอเชีย และแม่น้ำโครานา (Korana) ทำให้เกิดทะเลสาบ 20 แห่งไหลผ่านหินปูนและหินชอล์ก ระหว่างทะเลสาบมีน้ำตกหลายแห่ง ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาทั้ง 3 เทือกเขา คือ Pljesevica, Mala Kapela และ Medvedak ทะเลสาบถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ชั้นบนและชั้นล่าง นักวิทยาศาสตร์ได้สันนิษฐานว่าทะเลสาบพลิตวิเซ่เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว เมื่อโลกยังอยู่ในช่วงยุคน้ำแข็งตอนปลาย (The Lasrt inter- glacial period) น้ำแข็งบางส่วนที่ละลายได้ไหลซึมผ่านชั้นหินใต้ดินไปจนถึงชั้นหินปูน น้ำที่ซึมผ่านชั้นดินเหนียวและทรายจนกระทั่งซึมต่อไปไม่ได้แล้ว จึงเกิดแรงดันพุ่งขึ้นสู่ผิวชั้นบนกลายเป็นบ่อน้ำพุ ต่อมากลายเป็นแม่น้ำที่เรียกกันว่า Black River (Crna Rijeka) และ White River (Bijela Rijeka) เมื่อไหล่มารวมกันในบริเวณที่มากขึ้นเรื่อยๆก็จะล้นทะลักไหลออกไปตามซอกเขา หุบเหว และ ช่องเขาดังที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา ชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยริน ลงสู่ทะเลสาบทุกแห่ง ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า จากนั้นนำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ Kozjak เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยาน ชมความงามของอุทยานตอนล่างและชมความงดงามของ Big Waterfalls สัมผัสถึงบรรยากาศของสายน้ำบนพื้นน้ำสีคราม และเกาะแก่งในทะเลสาบ ตลอดจนไม้ป่าจำพวกสนและเฟอร์ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาดาร์ (ZADAR) (160 กิโลเมตร) อดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia)เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโรมัน ในอดีตยังเป็นย่านค้าขายทางเรือที่สำคัญอีกด้วย และปัจจุบันก็ได้กลายเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อเสียง นำท่านเดินชม จตุรัสกลางเมืองซาดาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง ชมบรรยากาศของเมืองเก่า ชมความเก่าแก่ของ โบสถ์ St. Simeon โบสถ์เก่าแก่ที่มีประวัติอันยาวนาน ชม โรมันฟอรัม (Roman Forum) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติก (AdriaticSea) ลานประชุมกลางเมือง ที่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง และบริเวณเดียวกันสามารถชม โบสถ์เซนต์ โดแนท(St.Donatus Church) เป็นโบสถ์ไบเซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 ประจำเมืองซาดาร์
จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St.Anastasia Cathedral) คริสตจักรนิกายโร มันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทียซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ถึง 5 แม้จะถูกทำลายในสงครามมาแล้วแต่ก็ยังคงสภาพความสวยความให้เห็นจนถึงปัจจุบัน จากนั้นนำท่านผ่อนคลายกับการบรรเลงดนตรีโดยธรรมชาติที่เดียวในโลก ออร์แกนทะเล (Morske Orgulje) ได้รับรางวัล European Prize ซึ่งออร์แกนทะเลเกิดจากโพรงท่อขนาดใหญ่ 35 ท่อภายในลานบันไดหินอ่อนความยาว 230 ฟุตเลียบทะเลเอเดรียติค เมื่อน้ำทะเลไหลท่วมเข้ามาในท่อของบันไดขั้นที่ต่ำกว่า อากาศภายในจะถูกดันให้ไหลออกมาทางท่อของบันไดขั้นบน เกิดเป็นระดับเสียงต่างๆ ประสานกันเป็นคอร์ด เกิดเป็นท่วงทำนองดนตรีแบบสุ่ม ตามจังหวะธรรมชาติของคลื่นลม สร้างบรรยากาศที่สุนทรีย์สำหรับผู้ที่นิยมมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ตั้งอยู่บนพื้นที่สาธารณะในชุมชนเมือง และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Falkensteiner Family Hotel Diadora ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
ซาดาร์ – โทรเกียร์ – ชมเมือง – สปริท – ชมเมือง – สปลิท
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโทรเกียร์ (TROGIR) (140 กิโลเมตร) เมืองประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย เมืองโบราณบนเกาะเล็กๆ ซึ่งในอดีตเคยถูกปกครองโดยพวกกรีกและโรมัน แต่ปัจจุบันมีการอนุรักษ์เป็น เมืองเก่า และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997 เมื่อมาถึงสามารถซึมซับถึงความเก่าแก่ของ อาคาร บ้านเรือน และป้อมปราการที่สง่างาม โบสถ์อันสวยงาม ยุคโรมาเนสก์ อาคารที่โดดเด่นแบบเรอเนสซองส์และบาโรคจากยุคเวนิเชียน นำท่านชมความเก่าแก่ของเมือง ชมปราสาทหินปูนหรือ ป้อมคาเมอร์เลนโก้ (Kamerlengo Fortress) ที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันยังคงเหลือ กำแพงเมือง ตัวปราสาท และป้อมปราการบางส่วน ถือว่ายังคงความสมบูรณ์แบบและสวยงาม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองสปลิท (SPLIT) (30 กิโลเมตร) เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 รองจากเมืองหลวงของโครเอเชีย เมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่นับ 1,000 ปี และยังเป็นเมืองท่าสำคัญของชายฝั่งเอเดรียติก มาตั้งแต่อดีตตั้งแต่ โบราณของแคว้นดัลเมเชีย จนถึงยุคปัจจุบันก็ยังเป็นเมืองท่าเรือที่มีการจราจรทางน้ำหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเมดิเตอร์เรเนียน
นำท่านเข้าชมความงามของ พระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian Palace) พระราชวังโบราณที่สร้างขึ้นโดย จักรพรรดิโรมันดิโอคลีเธี่ยน ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 1979องค์การยูเนสโกได้รับรองให้พระราชวังแห่งนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยภายในพระราชวังประกอบด้วยไปด้วยทางเข้าหลัก หรือ GOLDEN GATE ห้องโถงกลาง ซึ่ งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, โบสถ์แห่งเทพวีนัส, วิหารดอมนิอุส ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารเซนต์ดูช (St.Duje Cathedral) ซึ่งมีหอระฆังที่สวยงามและยังเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองสปลิท และเดินเลียบเเม่น้ำริว่าอันสวยงามมนต์เสนห์แห่งเมืองสปลิท
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก Radisson Blu Resort, Split ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่แปดของการเดินทาง
สปริท – ดูโบรฟนิก – ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูโบรฟนิก (DUBROVNIK) (240 กิโลเมตร) เป็นเมืองเก่าที่ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” เพราะมีสถาปัตยกรรมและผังเมืองที่เป็นระเบียบ ดูบรอฟนิกยังมีประวัติศาสตร์เป็นเมืองพี่เมืองน้องกับ “เวนิส” ในอิตาลี และ “สปลิท” ในคาบสมุทรทะเลเอเดรียติกในอดีตดูบรอฟนิกจึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคโบราณ ทั้งโกธิก เรอเนซองส์ และบารอก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม เมืองเก่า (Old Town Dubrovnik) ที่ถูกโอบล้อมด้วยกำแพงโบราณที่สูงตระหง่าน และมีความยาวถึง 2 กิโลเมตร อยู่ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติก แนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านเมืองไว้ในศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองที่แข็งแรงล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เป็นกำแพงที่สมบูรณ์และแข็งแกร่งมากค่ะ บนกำแพงมีทั้งหอคอยและป้อมปราการเพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น ชาวอาหรับและชาวเวนิซ ที่เป็นคู่แค้นกันมานานแสนนาน องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองเก่าแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำ ซีรี่ส์เรื่อง Game of thrones อีกด้วย เดินลอด ประตู Pile Gate ที่มีรูปปั้นของนักบุญเซนต์เบลส นักบุญประจำเมือง ภายในมีสิ่งก่อสร้างให้เที่ยวชมมากมายทั้งน้ำพุ Onofrio, โบสถ์The Cathedral Treasury อันเก่าแก่, หอนาฬิกาโบราณ, พระราชวังเรคเตอร์ และร้านค้า,ร้านกาแฟ, ร้านไอศกรีม,ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ สวยงามและโรแมนติคมาก จะมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ให้พบเห็นเป็นบางแห่ง เช่น รอยกระสุน และร่องรอยความเสียหายจากสงคราม นำท่าน นั่งกระเช้าชมเมืองดูโบรฟนิก (Dubrovnik zicara cable car) ชมความสวยงามของเมืองดูโบรฟนิกในมุมสูงแบบพาโนราม่าที่มองลงไปด้านล่างจะสามารถมองเห็นความสวยงามแบบ 360 องศาทั่วเมืองเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มาเมืองดูโบรฟนิกต้องห้ามพลาด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Neptun Dubrovnik ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่เก้าของการเดินทาง
ดูโบรฟนิก – โคเตอร์ (มอนเตเนโกร) – ชมเมือง – ติรานา (แอลเบเนีย) ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเตอร์ (KOTER) (100 กิโลเมตร) ตั้งอยู่ในประเทศมอนเตเนโกร เมืองมรดกโลกตั้งอยู่ที่ก้นฟยอร์ดซึ่งเป็นธารน้ำที่ไหลมาจากทะเลอเดรียติก เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางและมรดกทางวัฒนธรรมมากมายเพราะเป็นเมืองเก่าแก่สมัยกรีก โบราณนานนับ 2,000 ปี โดยองค์กรยูเนสโกได้ระบุไว้ให้เป็น “โลกทาง ธรรมชาติ และ มรดกทางประวัติศาสตร์” นำท่านชม ย่านเมืองเก่า เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เลอค่า และยังได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกของ UNESCO มาตั้งแต่ปี 1979 ถือเป็นเมืองเก่าแก่ที่อนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีอีกเมืองหนึ่งของโลก Trg Sv.Tripuna จัตุรัสกว้างซึ่งเป็นที่ตั้งของ Katedrala Svetog Tripuna หรือ โบสถ์เก่าแก่ Cathedral of Saint Tryphon (Kotor Cathedral) ในเมืองเก่าของโคตอร์สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1166 แห่งนี้คือ 1 ใน 2 โบสถ์โรมันคาทอลิก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองติรานา (TIRANA)(200 กิโลเมตร)
นําท่านชม จัตุรัสหลักของเมืองติรานา (Skanderbeg Square) กลางจัตุรัสมีรูปปั้นของสแกนเดอเบกบนหลังม้า ซึ่งเป็นวีรบุรุษของชาวแอลเบเนียในการต่อต้านการรุกรานจากพวกออตโต ชม หอคอยนาฬิกา(Clock Tower) สิ่งก่อสร้างที่มีอายุมากและเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1820 เป็นหอนาฬิกาใจกลางเมืองและเป็นสัญลักษณ์ของกรุงติรานา ชมสวนสาธารณะกลางเมือง สวนรีเนีย (Rinia Park) ที่สร้างขึ้นในยุคคอมมิวนิสต์ครองเมือง ซึ่งมีจุดเด่นคือ อาคารไทวานี (Taivani) สิ่งก่อสร้างสไตล์โคโลเนียลมีลานน้ำพุ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก Tirana International Hotel & Conference Center ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สิบของการเดินทาง
ติรานา – โอครีด (มาซิโดเนีย) – ชมเมือง – สโกเปีย – ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอครีด (OHRID) (140 กิโลเมตร) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบโอครีด ในประเทศมาซิโดเนีย ได้รับการการขนานนามว่าเป็น “เยรูซาเลมแห่งบอลข่าน” เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประติมากรรมที่งดงาม เมืองโอครีดได้รับเลือกเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติจากยูเนสโก เป็นหนึ่งใน 28 แห่งที่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกทั้งด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ นำท่าน
เดินชม ย่านเมืองเก่าโอครีด ที่มีความเก่าแก่ของบ้านเรือนเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงร้านอาหาร, ร้านของขายที่ระลึกต่างๆมากมาย นำท่านชมโบสถ์ที่ตั้งอยู่เชิงหน้า ผาริมทะเลสาบโอครีด โบสถ์เซนต์โจวาน คานิโอ (St.Jovan Kaneo Church) เป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์ สร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับนักบุญจอห์น สามารถชมวิวของทะเลสาบโอครีดได้อย่างสุดสายตา
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองสโกเปีย (SKOPJE) (180 กิโลเมตร) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศมาซิโดเนีย เป็นศูนย์กลางทางการเมือง ทางวัฒนธรรม และทางเศรษฐกิจของประเทศ เคยเป็นเมืองหลวงของเซอร์เบีย และบัลแกเรียในอดีต สันนิษฐานว่ามีการตั้งถิ่นฐานที่สโกเปียตั้งแต่ 4000 ปีก่อนคริสตกาล
นำท่านชม จัตุรัสมาซิโดเนีย(Macedonia Square) เดินชมย่าน อนุสาวรีย์อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) ซึ่งได้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองสโคเปีย อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงการที่ประเทศได้รับเอกราชมา 20 ปี นำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัย (Porta Macedonia) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูชัยในการประกาศอิสรภาพของประเทศมาซิโดเนีย ภายนอกของประตูชัยถูกตกแต่งด้วยหินอ่อน และมีการทำลวดลายให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของชาวมาซิโดเนีย จากนั้นนำท่านชม สะพานหิน (Stone Bridge) สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 โดยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งไบแซนไทน์สะพานนี้มีช่องโค้งใต้สะพาน 13 ช่อง ซึ่งจักรพรรดิ ที่ได้เข้ามาปกครองก็ได้พยายามทำการก่อสร้างเพิ่มเติม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก Alexandar Square Boutique Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง
สโกเปีย – เวียนนา (ออสเตรีย) – ช้อปปิ้ง – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติสโกเปีย
12.40 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเวียนนา โดย สายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 780
14.20 น. เดินทางถึง กรุงเวียนนา (Vienna)
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ถนนคาร์ทเนอร์ (KARNTNERSTRASSE) ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งสายสำคัญ ของกรุงเวียนนา ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าแบรนเนมต่างๆ ตลอดสองฝั่งถนน มีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์เนมยอดนิยม นาฬิกา ROLEX, LOUIS VUITTON และแบรนด์ดังอีกมากมาย อีกทั้งเครื่องแก้วคริสตัลเจียระไนและของที่ระลึกต่างๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ
23.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 25
วันที่สิบสองของการเดินทาง
กรุงเทพฯ
15.20 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ : บริษัทฯ ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงราคากรณี ผู้ร่วมเดินทางน้อยกว่า 20 ท่าน
อัตรานี้รวม · ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นทัศนาจรตามที่ระบุในรายการ
- ค่าโรงแรมที่พักที่ระบุในรายการ / ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ / ค่าวีซ่า
- ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญงาน คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
- ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์
- ค่าทิปคนขับรถ 2 ยูโร / คน / วัน
- น้ำดื่มบนรถ วันละ 1 ขวด / คน / วัน
- ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรมที่พัก IN/OUT @ 1 ใบ / 1 ท่าน
อัตรานี้ไม่รวม · ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้ระบุในรายการ
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
การจอง และชำระเงิน กรุณาส่งสำเนา PASSPORT หน้าแรก แฟกซ์มายังบริษัทฯ พร้อมชำระเงินค่ามัดจำ
ท่านละ 30,000 บาท สำหรับส่วนที่เหลือทั้งหมด กรุณาชำระก่อนการเดินทาง 30 วัน
( หากไม่ชำระภายในเวลาที่กำหนด ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ยินดีให้บริษัทฯทำการยกเลิกและยินยอมให้ยึดเงินมัดจำทันที)
***** กรณีที่ยังไม่ทราบผลวีซ่าก่อนการเดินทาง 15 วันทำการ
ทางบริษัทฯ ขออนุญาตเก็บค่าทัวร์ที่เหลือทั้งหมดก่อน ตามเงื่อนไขการชำระเงิน *****
การไม่รับจองทัวร์ : บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับจองทัวร์สำหรับลูกค้าดังต่อไปนี้
- เด็กที่มีอายุระหว่างแรกเกิดถึง 2 ขวบ
- ผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นต้องใช้วีลแชร์ หรือ ไม้เท้า
- ผู้เดินทางที่บ่งบอกการเป็นบุคคลไร้ความสามารถ
หมายเหตุ · บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย
จนไม่อาจแก้ไขได้ โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
- หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์ และจะไม่
รับผิดชอบต่อค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้ว ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
- รายการนี้เป็นเพียงการเสนอราคาที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรอง
ที่นั่งกับสายการบินและโรงแรมที่พักอย่างไรก็ตามรายการนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
- สตรีมีครรภ์ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อการตรวจสอบขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีเกิดความเสียหาย หรือสูญหาย สำหรับกระเป๋าเดินทาง
กระเป๋าใบเล็ก หรือของมีค่าส่วนตัวของท่านระหว่างการเดินทาง
การยกเลิก *** กรณีที่ท่านจองและจ่ายค่ามัดจำแล้วมีการยกเลิก (ก่อนเงื่อนไขตามกำหนดวันที่ทำการยกเลิก
ด้านล่าง) บริษัทฯ ขอคิดค่าทำงานท่านละ 1,000.- บาท พร้อมด้วยค่าใช้จ่ายอย่างอื่นตามความเป็นจริง (ถ้ามี) ***
- ยกเลิกก่อน 31-60 วันทำการ เก็บ 50% ของค่ามัดจำทั้งหมด
- ยกเลิกก่อน 15-30 วันทำการ เก็บค่ามัดจำทั้งหมด
- ยกเลิกก่อน 8-14 วันทำการ เก็บ 50% ของค่าทัวร์ทั้งหมด
- ยกเลิกก่อน 1-7 วันทำการ เก็บ 100% ของค่าทัวร์ทั้งหมด
( หมายเหตุ : บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ยกเว้นเงื่อนไขในการยกเลิกการเดินทางตามกำหนดวันที่ระบุข้างต้น
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ และขอคิดค่าใช้จ่ายในการยกเลิกตามความเป็นจริง
เนื่องจากเป็นช่วง Peak Period ทางโรงแรม , สายการบิน และบริษัทรถโค้ช ฯลฯ ค่อนข้างแน่น
และเรียกเก็บค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 100% ซึ่งไม่สามารถทำการยกเลิกได้ )
การโอนเงิน ผ่านธนาคาร บริษัท เร้นจ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แทรเวล จำกัด
ธนาคารกรุงเทพฯ / สาขาโชคชัย 4 / บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 230-0-19191-9
เมื่อท่านจองทัวร์และชำระค่ามัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในเงื่อนไขและรายละเอียดที่ทางบริษัทแจ้งไว้ทั้งหมด |
*** บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ อันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน เหตุการณ์ทางการเมือง
สภาพดินฟ้าอากาศ การปฏิเสธการเข้าเมือง การโดนกักตัว หรือถูกส่งตัวกลับ โดยการพิจารณาของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้บริษัทฯ จะยืดถือผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ***