ทัวร์ยุโรป : BEST OF ALPS (LX/OS)
กำหนดการเดินทาง : 29 ธันวาคม 2566 – 07 มกราคม 2567
ประเทศ : สวิตเซอร์แลนด์
สายการบิน : สายการบินสวิส เที่ยวบินที่ LX 181
ราคา : 216,800 บาท
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพ – ซูริค
10.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว 3 เคาน์เตอร์ G สายการบินสวิส (LX) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อน
13.20 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซูริค โดย สายการบินสวิส เที่ยวบินที่ LX 181
19.25 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม HILTON ZURICH AIRPORT หรือเทียบเท่า
วันที่สองของการเดินทาง
ซูริค – หมู่บ้านแอพเพนเซล – แซงต์ กัลเลน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านแอพเพนเซล (APPENZELL) (95 กิโลเมตร) ซึ่งตั้งอยู่ในมลรัฐ
หมู่บ้านแอพเพนเซล (APPENZELL)
เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่า “ประตูสู่เทือกเขาแอลป์” เป็นหมู่บ้านชนบทเล็กๆน่ารัก ร่มรื่นและเงียบสงบที่ยังอนุรักษ์วัฒนธรรม และประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณอยู่ บ้านเรือนก็ยังคงสไตล์ดั้งเดิม ซึ่งมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวด้วยจั่วหน้าบ้านลักษณะโค้งมน และหลังคาที่ทำจากกระเบื้องที่มีชื่อเสียง แถมยังมีสีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเมือง ภายในหมู่บ้านจะพบกับโบสถ์คริสต์เก่าแก่ที่ถูก สร้างขค้นเมือ่ปีค.ศ. 1071 ที่อุทิศให้กับ St. Maurice ปราสาทเก่าที่เป็นของตระกูล Sutter หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงมีการอนุรักษ์เทศกาลต้อนวัวอยู่ ของที่ระลึกที่ขึ้นชื่อของที่นี่จึงเป็นกระดิ่งคอวัวให้นักท่องเที่ยวซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึก อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องชีสและเบียร์ที่รสชาติเยี่ยมยี่ห้อเดียวกับชื่อเมืองอีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองแซงต์ กัลเลน (ST. GALLEN) (25 กิโลเมตร) เป็นเมืองโบราณเก่าแก่
ทางตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์
แซงต์ กัลเลน (ST. GALLEN)
เป็นเมืองเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม เมืองนี้ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 และยังได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกด้วย นำท่านชมเขตเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนเป็นแบบเฉพาะในสไตล์บาร็อค ถ่ายภาพกับมหาวิหารเซนต์ กัลเลน (Stiftskirche St.Gallen Cathedral) เป็นมหาวิหารอารามหลวงทรงหอคอยคู่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983 ถนน Multergasse ถนนช้อปปิ้งสายหลักของเมือง ที่มีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านนาฬิกา ร้านเสื้อผ้า และของที่ระลึกต่างๆ ถนน Spisergasse อีกหนึ่งถนนสายช้อปปิ้งที่มีอาคารบ้านเรือนสไตล์บาร็อคสวยๆ ตลอดทั้งถนน และบริเวณโซนสีแดง “Stadtlounge” (Red Carpet) จุดนั่งเล่นพักผ่อนแบบปูพรมแดงเก๋ๆๆที่ไม่ควรพลาด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RADISSON BLU ST. GALLEN หรือเทียบเท่า
วันที่สามของการเดินทาง
แซงต์ กัลเลน – โรมันส์ฮอร์น – ล่องเรือ – ลินเดา – เบรเกนซ์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโรมันส์ฮอร์น (ROMANSHORN) (25 กิโลเมตร) ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง และด้วยการก่อสร้างท่าเรือและทางรถไฟ ทำให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง
เดินทางถึง เมืองโรมันส์ฮอร์น นำท่าน ล่องเรือชมความงดงามทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance)
ล่องเรือทะเลสาบคอนสแตนซ์
ทะเลสาบคอนสแตนซ์ หรือโบเดนซีในภาษาเยอรมัน
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นทะเลสาบที่เกิดจากแม่น้ำไรน์ (Rhine) เป็นทะเลสาบที่ทอดยาวไปตามชายฝั่งของสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และออสเตรีย ซึ่งการล่องเรือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการชมทะเลสาบที่ท่านไม่ควรพลาด นำท่านล่องเรือเป็นเวลา 40 นาที จนกระทั่งเดินทางถึง เมืองเฟรดดริคฮาฟเฟ่น (FRIEDRICHSHAFEN)
เฟรดดริคฮาฟเฟ่น (FRIEDRICHSHAFEN)
เมืองสวยริมทะเลสาบคอนสแตนซ (Lake Constance) หรือทะเลสาบโบเดน (Bodensee) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับที่สามของยุโรป โดยทะเลสาบตั้งบนความสูงที่ 400 เมตรเหนือระดับนํ้าทะเลปานกลาง มีขนาดประมาณ 539 ตารางกิโลเมตร เป็นจุดบรรจบกันของประเทศเยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลินเดา (LINDAU) (25 กิโลเมตร)
ลินเดา (LINDAU)
เมืองเก่าสไตล์บาวาเรียน เมืองที่มีลักษณะเป็นเกาะ โดยมีทะเลสาบคอนสแตนซ์โอบล้อมเอาไว้ อีกทั้งฉากหลังของเมืองมีเทือกเขาแอลป์ ทําให้มีทัศนียภาพอันงดงาม เดินเล่นตามถนนแมกซิมิเลียน ชมบ้านเรือนที่งดงามมากมาย ถ่ายภาพกับศาลาว่าการเมืองเก่า (ALTE RATHAUS) สถาปัตยกรรมในแถบหุบเขาไรน์ของเทือกเขาแอลป์ที่ผสมผสานกันระหว่างศิลปะสไตล์กอธิค และเรอเนสซองส์ที่งดงาม ได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเบรเกนซ์ (BREGENZ) (10 กิโลเมตร)
เบรเกนซ์ (BREGENZ)
เมืองสวยริมทะเลสาบคอนสแตนซ (Lake Constance) หรือทะเลสาบโบเดน (Bodensee) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับที่สามของยุโรป โดยทะเลสาบตั้งบนความสูงที่ 400 เมตรเหนือระดับนํ้าทะเลปานกลาง มีขนาดประมาณ 539 ตารางกิโลเมตร เป็นจุดบรรจบกันของประเทศเยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม MESSMER หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง
เบรเกนซ์ – เลค อัม อัลเบิร์ก – วาดุซ – บาด รากาซ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเลค อัม อัลเบิร์ก (LECH AM ARLBERG) (95 กิโลเมตร)
เลค อัม อัลเบิร์ก (LECH AM ARLBERG)
เมืองสกีรีสอร์ทที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นจุดหมายปลายทางแห่งสกีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นถิ่นกำเนิดของเทคนิคสกีแถบเทือกเขาแอลป์ในปัจจุบัน
สัมผัสกับเนินสกีชั้นเลิศ ชมทิวทัศน์อันตระการตาของเทือกเขา และพบคำตอบว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่ที่บรรดาผู้มั่งคั่งและมีชื่อเสียงต่างมากัน นำท่านเดินเล่นชมเมือง ชมโบสถ์จากศตวรรษที่ 14 พร้อมเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพตามอัธยาศัย หรือผ่อนคลายไปกับ Glühwein หรือไวน์ร้อนแบบดั้งเดิม ด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นภายในเมือง และสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพสำหรับนักสกี เมืองนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางแห่งเทือกเขาแอลป์ที่ท่านไม่ควรพลาดมาเยือน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (VADUZ) (75 กิโลเมตร) เมืองหลวงของประเทศลิกเตนสไตน์
วาดุซ (VADUZ) / ชมเมือง
ลิกเตนสไตน์ ประเทศที่มีขนาดเล็กเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีพื้นที่ทั้งหมดเพียง 160 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ แม่น้ำสายสำคัญของยุโรป เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์แห่งเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ระหว่างประเทศออสเตรีย และสวิสเซอร์แลนด์ มีประชากรเพียง 37,000 คน เท่านั้น แต่กลับเป็นประเทศที่ร่ำรวยและมีผลิตภัณฑ์หรือรายได้รวมต่อประชากรสูงเป็นอันดับสองของโลก นำท่านเ ถ่ายภาพกับปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) ปราสาที่สามารถชมวิวเมืองได้แทบทุกทิศทาง เนื่องจากตัวปราสาทนั้นตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันในย่านใจกลางเมือง ปัจจุบันใช้เป็นตำหนักของเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์จาดนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น และถ่ายภาพบริเวณย่านใจกลางเมืองตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบาด รากาซ (BAD RAGAZ) (20 กิโลเมตร)
บาด รากาซ (BAD RAGAZ)
เป็นเมืองชนบทที่มีลักษณะเฉพาะ ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์อันสวยงาม ล้อมรอบด้วยทะเลสาบ และภูเขา มีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย จุดเด่นอย่างหนึ่งของเมือง คือ บ่ออาบน้ำร้อน และศูนย์สุขภาพของที่นี่ จะมีน้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียสที่ดุดมไปด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต แคลเซียม แมกนีเซียม และฟลูออรีน เป็นฟองผุดขึ้นมาจากภูเขาภายในช่องเขาลึกลับในเมือง เป็นอีกเมืองหนึ่งของสวิสที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำร้อนและสปาเพื่อสุขภาพมายาวนาน และควรค่าแก่การมาเยือน เดินทางถึง เมืองบาด รากาซ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม SORELL TAMINA BAD RAGAZ. (CONFIRMED)
วันที่ห้าของการเดินทาง
บาด รากาซ – กลอเรนซา – เมราโน – ชิมไวน์ – โบลซาโน่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือกลอเรนซา (GLORENZA) หรือ GLURNS ในภาษาเยอรมัน (130 กิโลเมตร)
กลอเรนซา (GLORENZA)
เมืองที่ถูกจัดว่ามีขนาดเล็กที่สุดทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ทางตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์ มีขนาดพื้นที่เพียงแค่ 13 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรไม่ถึง 1,000 คน เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดโบลซาโน (Bolzano) ซึ่งยังคงเก็บรักษารูปแบบของประเพณี วัฒนธรรมอันเก่าแก่เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เดินทางถึง เมือกลอเรนซา
กลอเรนซา / ชมเมือง
นำท่านเดินเล่นชมความงดงามของกำแพงเมืองเก่า ที่มีความโดดเด่นไปด้วยประตู จำนวน 3 ประตู ซึ่งแต่ละประตูล้วนถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างเฉพาะตัว โดยเฉพาะอาคารหอคอยอันสูงตระหง่านกับหลังคาทรงแหลม ที่ปัจจุบันได้กลายเป้นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ และได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี บริเวณใจกลางเมือง ท่านจะพบกับความงดงามของเหล่าคฤหาสน์สไตล์เรเนสซอง ซึ่งบางอาคารได้มีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือแม้แต่ร้านกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปตามท้องถนนอันเก่าแก่ ชมความงดงามของ โบสถ์เซนต์ ปานคราซิโอ (St. Pankrazio Church) คริสตจักรที่สร้างขึ้นแบบอาคารสไตล์โกธิค และมีหอระฆังบาร็อคอันโดดเด่น ภายใน โบสถ์ตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม โดยเฉพาะภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับ “คำพิพากษาสุดท้าย”
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเมราโน หรือเมอแรน (MERANO/MERAN) (55 กิโลเมตร)
เมราโน หรือเมอแรน (MERANO/MERAN)
เมืองแสนสวยที่อยู่กลางหุบเขา ปรากฎหลักฐานการอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปีค.ศ.857 อยู่ติดกับแคว้นทีโรลของอาณาจักรออสเตรียในอดีต จึงมีการสร้างปราสาทต่างๆ ขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของเหล่าเชื้อพระวงศ์ ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการมาพักผ่อน เนื่องจากตั้งอยู่ในหุบเขาจึงมีสภาพอากาศที่ดีตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีน้ำแร่ธรรมชาติสำหรับดูแลสุขภาพอีกด้วย เดินทางถึง เมืองเมราโน
นำท่าน ลิ้มลองไวน์ชั้นดีของเมือง พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบพาโนราม่าที่ท่านจะต้องประทับใจ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน่ (BOLZANO) (35 กิโลเมตร)
โบลซาโน (BOLZANO)
เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์
โบลซาโน่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ (South Tyrol) ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่า ทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขา Dolomites ในทางทิศตะวันออกนั้นเหมาะกับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายอย่างยิ่ง เมืองโบลซาโน่รู้จักกันทั่วไปเมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่ายทำสารคดีการค้นพบซากมนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และนำร่างนั้นมาไว้ที่เมืองโบลซาโน่ เรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน่ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก เดินทางถึง เมืองโบลซาโน่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม FOUR POINTS BY SHERATON BOLZANO หรือเทียบเท่า
วันที่หกของการเดินทาง
โบลซาโน่ – ออร์ติเซ่ – ALPE DI SIUSI – ทะเลสาบคาเรซซา – โบลซาโน่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองออร์ติเซ่ (ORTISEI) (40 กิโลเมตร)
ออร์ติเซ่ (ORTISEI)
เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงามยิ่งนัก โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมสวยราวกับบ้านตุ๊กตา สีสันพาสเทล พร้อมศิลปะและวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากออสเตรีย เดินทางถึง เมืองออร์ติเซ่ (ORTISEI)
จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า ALPE DI SIUSI นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเรียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป
SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE
ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่นมีเส้นทางเดินลัดเลาะ สู่จุดชมวิวต่างๆ ให้ท่านมีเวลาเก็บภาพสวยๆ อันประทับใจก่อนท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดที่จะบรรยาย อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง
หมายเหตุ : หากสภาพอากาศไม่อำนวยหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบคาเรซซา (LAGO DI CAREZZA) (55 กิโลเมตร)
ทะเลสาบคาเรซซา (LAGO DI CAREZZA)
ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ วิวหลักล้าน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานโดโลไมท์มีอีกชื่อคือ “Lec de ergobando” แปลว่า ทะเลสาบสายรุ้ง ตั้งชื่อตามสีของน้ำในทะเลสาบที่มีหลายเฉดสี ทั้ง สีเขียว สีฟ้าเทอร์คอย และสีน้ำเงิน ผสมกันสวยงาม มีฉากหลังเป็นป่าสนและเทือกเขาสูงเสียดฟ้า สะท้อนสีสันที่หลากหลายของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกจุดแวะถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองโบลซาโน่ (BOLZANO) (30 กิโลเมตร) นำท่านเดินชมเมืองเก่า ชมวิหาร Duomo โบสถ์ Chiesa dei Domenican และอนุสาวรีย์ที่จัตุรัสกลางเมือง Piazza delle Erbe แถบถนนคนเดิน Piazza Walther และย่านอาเขตโบลซาโน ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม FOUR POINTS BY SHERATON BOLZANO หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
โบลซาโน่ – เลียนซ์ – ชมเมือง – คิทซ์บูเฮล – ชมเมือง – รูห์พอลดิง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเลียนซ์ (LIENZ) (150 กิโลเมตร) เมืองเล็กๆ ของออสเตรีย ตั้งอยู่บนเชิงเขาโดโลไมท์
เลียนซ์ (LIENZ)
เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมเศรษฐกิจ นำท่านเดินชมย่าน จัตุรัสลิเอนส์ ที่มีชื่อเสียงของเมืองลิเอนส์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่หลักสำหรับทุกกิจกรรมคอนเสิร์ตการแสดงตลาดและการแข่งขันกีฬา และบริเวณโดยรอบยังมี คาเฟ่บาร์ และร้านค้าสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ให้ท่านเดินชมตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคิทซ์บูเฮล (KITZBUHEL) (95 กิโลเมตร)
เมืองคิทซ์บูเฮล (KITZBUHEL)
เป็นเมืองสกีรีสอร์ทสุดสวยท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาแอลป์ในแคว้นทิโรล ประเทศออสเตรีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขาแอลป์เพียง 100 กม.เท่านั้น อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของสกี และเป็นสกีรีสอร์ทเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย เดินทางถึง เมืองคิทซ์บูเฮล นำท่าน เดินเล่นชมเมือง และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพบ้านเรือนที่มีสีสันสะดุดตาของเมืองเล็กน่ารักแห่งนี้ตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองรูห์พอลดิง (RUHPOLDING) (60 กิโลเมตร) เขตเทือกเขาแอลป์ ติดกับชายแดนออสเตรีย เพื่อนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม AJA – RUHPOLDING หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
โรพอลดิง – กมุนเดน – ชมเมือง – เวียนนา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกมุนเดน (GMUNDEN) (120 กิโลเมตร) เมืองสวยริมทะเลสาบ Traun อันงดงาม
กมุนเดน (GMUNDEN) / ชมเมือง
เป็นเมืองที่รู้จักในเรื่องโบสถ์ที่สวยงาม และปราสาทอายุกว่า 200 ปี รายล้อมด้วยอาคารบ้านเรือน บ้านพักตากอากาศที่มีบรรยากาศน่าเดินเล่นตลอดริมฝั่ง บริเวณย่านใจกลางเมือง (Rathausplatz) มีอาคารสมัยยุคกลางให้พบเห็นพร้อมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันน่าประทับใจของภูเขาโดยรอบ เมืองนี้ยังถูกเรียกว่าเป็น เมืองเซรามิก เนื่องจากมีโรงงานเซรามิกที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1492 ผลิตสินค้าแบรนด์ Gmunden Keramik เซรามิกทำมือที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (VIENNA) (240 กิโลเมตร) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย
กรุงเวียนนา (VIENNA)
เป็นนครที่มีความทันสมัยแฝงอยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมคลาสสิคอันทรงคุณค่า อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปตะวันตกและตะวันออก มีพรหมแดนติดกับ 8 ประเทศด้วยกัน เยอรมัน เช็ค สโลวัค ฮังการี สโลเวเนีย อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และ ลิกเตนสไตน์ และไม่มีทางออกสู่ทะเล เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กมาก มีขนาดเล็กกว่าประเทศไทยถึง 6 เท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมเพลิดเพลินกับดนตรีขับกล่อม
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม HILTON VIENNA PARK หรือเทียบเท่า
เวียนนา – พระราชวังหลวงฮอฟบวร์ก – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – กรุงเทพ ฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน เข้าชมพระราชวังหลวงฮอฟบวร์ก (HOFBURG IMPERIAL PALACE)
พระราชวังหลวงฮอฟบวร์ก (HOFBURG IMPERIAL PALACE)
พระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา ที่มีอายุมากกว่า 600 ปี ในอดีตเป็นที่พักของราชวงศ์ฮอฟบวร์กทุกพระองค์ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้าย ภายในตกแต่งด้วยสไตล์บารอคที่สวยงามตระการตาประกอบด้วยปีกอาคารกว่า 18 ส่วนและห้องมากกว่า 2,000 ห้อง ซึ่งมีทั้งห้องจัดแสดงเครื่องประดับล้ำค่าของพระคลังสมบัติหลวงที่งดงามและหรูหรา รวมถึงศิลปะและสถาปัตยกรรมต่างๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ถ้ามาเยือนออสเตรีย
จากนั้นนำท่าน ชมกรุงเวียนนา (VIENNA)
เวียนนา / ชมเมือง
เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางการเศรษฐกิจและการปกครอง และเป็นเมืองหลวงแห่งเพลงวอลซ์นครแสนสวยงามร่มรื่นด้วยเหล่าไม้ดอก ไม้ประดับใกล้แม่น้ำดานูบ เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค และร็อคโคโคที่เป็นแบบของออสเตรียที่งดงามที่สุดในยุโรป สักขีพยานแห่งความรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสมัยจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์เบิร์กในอดีต และรวมคีตกวีเอกของโลก เช่น โมซาร์ท บีโทเฟน โยฮันสเตราท์ ชมสถานที่สำคัญรอบถนนวงแหวน อาทิ โรงละครโอเปร่า อาคารรัฐสภา เป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง MARCHFELDERHOF
บ่าย จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งบริเวณถนนคาร์ทเนอร์ (KARNTNERSTRASSE)
คาร์ทเนอร์ (KARNTNERSTRASSE)
ถนนคาร์ทเนอร์ (KARNTNERSTRASSE) เป็นถนนการค้าใจกลางเมืองที่เชื่อมระหว่างถนวงแหวนริงสตราเซ่กับจัตุรัสสเตฟาน ซึ่งเป็นย่าน WALKING STREET เป็นถนนชอปปิ้งสายสำคัญของเวียนนา ที่มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆมากมายเรียงรายตลอดสองข้างทางของถนน อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าชั้นนำของยุโรป แบรนด์เนม ยอดนิยม ของที่ระลึกต่างๆ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
20.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบินออสเตรียน เที่ยวบินที่ OS 015
กรุงเทพ ฯ
11.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ