07-15 เม.ย. 67 , 12-21 เม.ย. 67
วันเดินทาง
สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ (SQ)
สายการบิน
แอฟริกาใต้
ประเทศ

ทัวร์แอฟริกา : BEST IN GREATS . AFRICA (SQ)

กำหนดการเดินทาง : 07 – 15 เม.ย. 2567 , 12 – 21 เม.ย. 2567

ประเทศ : แอฟริกาใต้

สายการบิน : สิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ)

ราคา : 195,800 บาท

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

วันแรกของการเดินทาง

กรุงเทพฯ โจฮันเนสเบิร์ก

16.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 5 แถว K เคาน์เตอร์ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

20.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก โดย สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ 713/478 (แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติสิงคโปร์ชางงี เวลา 23.30 – 01.30 น.)

2

วันที่สองของการเดินทาง

โจฮันเนสเบิร์ก – กิจกรรมขับรถ ATVมัลเดอร์สดริฟต์

06.30 น. เดินทางถึง เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ LION & SAFARI PARK (45 กิโลเมตร) สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และเป็นเขตอนุรักษ์ ซึ่งช่วยปกป้องสัตว์ป่าแอฟริกาที่หายากในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นสวนสัตว์สไตล์ซาฟารี ที่มีสิงโตเจ้าป่าเป็นจุดขายหลักของสวนสัตว์แห่งนี้

นำท่านทำกิจกรรมขับรถ ATV หรือ QUAD BIKE  ส่องสัตว์หลากหลายชนิดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ให้ท่านได้ดูแบบไม่รู้เบื่อ สามารถหาจุดพักรถเพื่อชมสัตว์ป่าได้ทุกที่ หรือจะใช้กล้องส่องทางไกลชมอยู่ห่างๆ เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ในสวนสัตว์ LION & SAFARI PARK ประเทศแอฟริกาใต้เท่านั้น!!!

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม KLOOFZICHT LODGE & SPA ระดับ 5 ดาว

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในโรงแรม

บ่าย อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยในโรงแรมที่พักหรูหรา ระดับ 5 ดาว

RELAX IN 5 STAR HOTEL 

KLOOFZICHT LODGE & SPA  อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยในโรงแรมที่พักหรูหราระดับ 5 ดาว ที่มีการตกแต่งผสมผสานกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ และมีสระว่ายน้ำวิวพาโนรามาที่ท่านจะได้ดื่มด่ำวิวอันสวยงามที่มีธรรมชาติรายรอบตัว ทั้งสายน้ำและเทือกเขา ที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ภัตตาคารคาร์นิวอร์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารคาร์นิวอร์ (THE CARNIVORE) ซึ่งแปลว่า “MEAT EATER” ปัจจุบัน

ไม่มีเมนูที่ใช้สัตว์ป่า หรือสัตว์อนุรักษ์ เป็นวัตถุดิบ แต่จะมีเนื้อหลากหลายชนิด ให้ท่านเลือกชิม และลิ้มลอง ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อแกะ อาทิเช่น RUMP STAKE / PORK SPARERIBS / CHICKEN  YAKITORI / TURKEY LAMB CHOPS / CHICKEN LIVERS / CHICKEN GIZZARDS ส่วนเมนูเนื้อแปลกๆ หรือที่เรียกว่า EXOTIC MEAT อาทิ เนื้อจระเข้ เนื้ออูฐ และเนื้อนกกระจอกเทศ ก็มีให้ลิ้มลองเช่นกัน

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก KLOOFZICHT LODGE & SPA  หรือเทียบเท่า

3

วันที่สามของการเดินทาง

HOT AIR BALLOONอุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก – GAME DRIVE

05.00 น. MORNING WAKE UP CALL  ให้ท่านเตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรม HOT AIR BALLOON

06.00 – 07.00 น. ท่านขึ้นบอลลูนชมวิว ซึ่งนอกจากจะได้เห็นทิวทัศน์ และความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ยังจะได้เห็นชีวิตของเหล่าสัตว์ต่างๆ อีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การขึ้นบอลลูน ส่วนมากนิยมกันตอนเช้าตรู่และตอนเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตก การขึ้นบอลลูน ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาดจะได้ทั้งความทรงจำ และภาพความประทับใจดีๆกลับไป ปิดท้ายด้วยจิบไวน์และรับ CERTIFICATE

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า และพักผ่อนตามอัธยาศัย

10.30 น. นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก (165 กิโลเมตร) PILANESBERG NATIONAL PARK

อุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ด้วยเนื้อที่กว่า 550 ตารางกิโลเมตร มีสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่อาศัยรวมตัวกันอยู่บริเวณป่าแห่งนี้ อาทิเช่น ยีราฟ ม้าลาย วิลเดอร์บีสต์ นกนานาชนิด และสัตว์ป่าอีกกว่า 220 ชนิด เพื่อทำกิจกรรมส่องสัตว์ (GAME DRIVE)

นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก IVORY TREE GAME LODGE ภายในอุทยานแห่งชาติพีลาเนสเบิร์ก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยกับบรรยากาศซาฟารี ระดับ LUXURIOUS  จนได้เวลาสมควร นำท่านทำกิจกรรม GAME DRIVE

GAME DRIVE

กิจกรรมส่องสัตว์ ในดินแดนแห่งซาฟารี สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทายความมันส์ และเพลิดเพลินกับ การนั่งรถเปิดประทุนส่องสัตว์ เพื่อค้นหา BIG 5  สัตว์ป่าผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นสัญลักษณ์ของแอฟริกใต้ นั้นก็คือ สิงโต, เสือ, แรด, ควายป่า และช้างป่า ท่ามกลางป่าซาฟารีในประเทศแอฟริกาใต้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการส่องสัตว์ พร้อมเก็บภาพเป็นที่ระลึก จนกระทั่งได้เวลาสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก IVORY TREE GAME LODGE หรือเทียบเท่า

4

วันที่สี่ของการเดินทาง

MORNING GAME DRIVETHE PALACE OF THE LOST CITY

04.30 น. MORNING WAKE UP CALL  ให้ท่านเตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรมส่องสัตว์

05.30 น. นำท่านนั่งรถบุกป่า ส่องสัตว์ (GAME DRIVE) เดินทางสู่ ดินแดนแห่งซาฟารี นำท่าน ชมภาพชีวิตสัตว์ป่าแอฟริกันที่หาชมได้ยากในยามเช้า อาทิเช่น แอนเทโลป เสือ สิงโต ม้าลาย ช้าง แรด ยีราฟ ฯลฯ สนุกสนานตื่นเต้น และเพลิดเพลินกับการค้นหา 5 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งป่าแอฟริกาใต้ (ควายป่า ช้าง สิงโต แรด และเสือดาว) ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ โรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ SUN CITY หรือ THE PALACE OF THE LOST CITY  (40 กิโลเมตร)

THE PALACE OF THE LOST CITY     

เมืองลับแลแห่งหุบเขาแสงตะวัน THE SUN CITY เป็นเมืองที่ถูกเนรมิตขึ้นจากความคิดของอภิมหาเศรษฐีที่ชื่อว่า ซอล เคิร์ซเนอร์ (SOL KERZNER) ที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 25,000 ล้านบาท และใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 18 ปี และความพยายามอีกล้นเหลือในการเนรมิตผืนดินอันว่างเปล่า แห้งแล้งให้กลายเป็นเมืองแห่งความสำราญบันเทิงทุกรูปแบบ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พัก THE PALACE OF THE LOST CITY  ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน และตกแต่งภายในในสไตล์แอฟริกัน

FREE TIME AT LEISURE

นำท่านชม สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และทะเลน้ำจืดเทียมขนาดใหญ่ยักษ์ที่เรียกว่า VALLEY OF WAVE ที่มีลักษณะเหมือนทะเลจริงๆ แวดล้อมด้วยขุนเขา และต้นไม้ที่จัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบสวยงาม รวมไปถึงคลื่นยักษ์เทียมที่คอยโถมกระหน่ำสร้างความตื่นเต้นให้กับท่านได้ไม่รู้เบื่อ ใกล้ๆ กันคือ สะพานแห่งกาลเวลา THE BRIDGE OF TIME สองข้างสะพานมีช้างแกะสลักเรียงรายอยู่ สะพานนี้เชื่อมต่อกับกองหินมหึมาที่เชื่อว่าเป็น THE LOST CITY ที่สูญหายไป และเพื่อเป็นการตอกย้ำระลึกถึงความทรงจำจึงสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้น และทุกๆ หนึ่งชั่วโมงสะพานจะถูกเขย่าเสมือนแผ่นดินไหว โรงภาพยนตร์ ร้านค้า ดิสโก้เธค คาสิโนที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เมืองนี้ไม่เคยหลับใหล

ที่สำคัญเมื่อท่านจะเดินไปมาที่ใดในอาณาจักรแห่งนี้อย่าลืมพกบัตรผ่าน (กุญแจห้องพัก) ไปด้วย เพราะบางสถานที่ และกิจกรรมบางประเภทถูกสงวนไว้สำหรับแขกที่มาพักที่ THE PALACE เท่านั้น

*** ท่านสามารถกลับสู่ที่พักได้โดยรถรับ-ส่งภายในเมืองลับแลที่มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง ภายในซันซิตี้ คอมเพล็กซ์ ***

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ สไตล์ AFRICAN PRIVATE BUSH DINNER ณ ภัตตาคาร THE WALLOW BUSH VENUE พร้อมชมโชว์พื้นเมือง

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE PALACE OF THE LOST CITY   โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราสุดอลังการพร้อมด้วยสระว่ายน้ำ จุดชมวิวบนหอคอย ห้องอาหารสุดหรู และยังสามารถเชื่อมต่อกับโรงแรม และจุดท่องเที่ยวภายใน SUN CITY ได้อย่างครบวงจร

5

วันที่ห้าของการเดินทาง

THE PALACE OF THE LOST CITY – พรีทอเรีย – เคปทาวน์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่ เมืองพรีทอเรีย (PRETORIA) (160 กิโลเมตร)

PRETORIA

เมืองพรีทอเรีย เมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้โดยตั้งชื่อเมืองตามชื่อของแอนดีส์ พรีทอรีอัส (ANDRIES PRETORIUS) วีรบุรุษของการต่อสู้รบระหว่างพวกบัวร์ (BOER) กับชนพื้นเมืองผิวดำ ภายในเมืองมีการจัดวางผังเมืองอย่างดี สวยงามเป็นระเบียบ

นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมือง บริเวณจัตุรัสกลางเมือง (CHURCH SQUARE) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ พอล ครูเกอร์ (PAUL KRUGER MONUMENT) ประธานาธิบดีของรัฐอิสระชาวบัวร์ ผ่านชม ทำเนียบประธานาธิบดี (UNION BUILDING) ที่ทำการของรัฐบาลที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับพระราชวัง จนติดอันดับว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่สวยที่สุดในโลก

ผ่านชม อนุสาวรีย์วูร์เทรคเกอร์ (VOORTREKKER MONUMENT) ศูนย์รวมจิตใจของชนผิวขาวเชื้อสายดั้งเดิมของชาวบัวร์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเดินทางอพยพของพวกบัวร์จากปลายแหลมของทวีปเข้าสู่ใจกลางประเทศแอฟริกาใต้

จนได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก (54 กิโลเมตร)

14.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเคปทาวน์ โดย สายการบิน SOUTH AFRICAN AIRWAYS เที่ยวบินที่ SA343

16.20 น. เดินทางถึง เมืองเคปทาวน์ (CAPE TOWN) เมืองตากอากาศที่ติดอันดับสวยงามที่สุดแห่งของโลก ตั้งอยู่ปลายสุดของแอฟริกาใต้ ถูกโอบล้อมด้วยมหาสมุทรอินเดีย และแอตแลนติก ด้านหน้าหันเข้าหามหาสมุทรทั้งสอง ส่วนด้านหลังมีเทือกเขาสูงเป็นฉากหลัง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN CAPE TOWN หรือเทียบเท่า

6

วันที่หกของการเดินทาง

เคปทาวน์ TABLE MOUNTAINชมฝูงแมวน้ำ – เฮลิคอปเตอร์ – ช้อปปิ้ง VICTORIA & ALFRED WATERFRONT

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านสู่ TABLE MOUNTAIN

TABLE MOUNTAIN

ภูเขาโต๊ะ เป็นภูเขาซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งหินทรายตัดตรง มีความสูง 1,086 เมตร ตั้งตระหง่านโอบล้อมด้วยตัวเมืองที่กว้างไกล นำท่านขึ้นชมทิวทัศน์จากยอดเขาด้วยกระเช้า ที่ทันสมัยหมุนรอบตัวเอง 360 องศา โดยใช้เวลาเพียง 6 นาที (ถ้าอากาศอำนวย) ค้นหาแดสซี่ (DASSIE) กระต่ายหิน หน้าตาคล้ายหนูตะเภามีสีน้าตาล ขนฟูๆ หูสั้นๆ ปากยื่นๆ ยาวประมาณ 1 ฟุต และยังมีป่าไม้พุ่มซึ่งเป็นแหล่งรวมของพืช 1,500 สายพันธุ์ นกเฉพาะถิ่นอย่าง คีรีบูนโพรเทีย ภูเขาโต๊ะถูกขนาบสองด้านด้วยยอดเขา LION HEAD และ DEVIL PEAK ที่สวยงาม ให้ท่านได้มีเวลาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จนได้เวลาอันสมควร

SEAL ISLAND

จากนั้นนำท่าน ชมความงามของชายฝั่งบริเวณ CAPE PENNINSULA ลัดเลาะสู่ชายหาดที่สวยสะดุดตา ข้ามยอดเขาอันสวยงามที่มีชื่อเสียงก้องโลก CHAPMAN’S PEAK ท่านจะได้ชมภูมิประเทศที่แปลกตาอันน่าประทับใจ จากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ HOUT BAY เพื่อนำท่าน นั่งเรือชมฝูงแมวน้ำ ที่แสนน่ารัก นอนอาบแดดอุ่นๆ นับพันตัวที่ เกาะดุยเกอร์ (DUIKER ISLAND หรือ SEAL ISLAND)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  (เมนูกุ้งมังกร 200 G.CRAYFISH)

บ่าย นำท่านชมย่านชุมชนชาวมลายูที่อพยพมาอยู่ที่แอฟริกาใต้ในเมืองเคปทาวน์มีชื่อว่า ชุมชน BO-KAAP

BO-KAAP

เป็นย่านที่มีสีสันที่สุดของเมือง ตั้งอยู่บริเวณทางลาดของเนินเขา SIGNAL HILL ชุมชนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส และที่ชุมชนแห่งนี้มีการจัดตั้งองค์กรไม่หวังผลกำไรชื่อว่า MONKEYBIZ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีการจัดให้ผู้หญิงยากจนในชุมชนได้มีรายได้ โดยแจกจ่ายลูกปัดให้สำหรับทำเป็นตุ๊กตา หรืองานฝีมืออื่นๆ เพื่อที่ผลกำไรที่ได้จากการจำหน่ายจะได้กลับไปสู่ชุมชน

HELICOPTER RIDES

จากนั้นนำท่าน สัมผัสการชมเมืองแบบพาโนราม่าวิว โดยการนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมเมือง เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ท่านไม่ควรพลาด จนได้เวลาอันสมควร

นำท่านสู่ เมืองเคปทาวน์ (CAPE TOWN) นำท่านเดินทางสู่ แหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัยที่สุดในเมืองเคปทาวน์ VICTORIA & ALFRED WATERFRONT

VICTORIA & ALFRED WATERFRONT

แหล่งรวมสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อกว่า 400 ร้านค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตซีกโลกใต้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง หรือสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก ให้ท่านเลือกซื้อสินค้ากับร้านรวงต่างๆ มากมาย รวมทั้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่มาจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ ARMANI, BURBERRY, GUCCI เป็นต้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN CAPE TOWN หรือเทียบเท่า

7

วันที่เจ็ดของการเดินทาง

CAPE SIDECAR ADVENTURES  – ชิมไวน์ – ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จุดนัดพบ เพื่อทำกิจกรรม ขับรถ SIDECAR ชมวิว บริการอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งหมวกกันน๊อค แจ๊คเกตหนัง รวมถึงผ้าโพกหัวเก๋ๆ ที่มอบให้แก่ทุกท่านเป็นที่ระลึก

CAPE SIDECAR ADVENTURES

นำท่าน ขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทาง THE ATLANTIC SEABOARD ที่รู้จักกันในนาม เส้นทาง CAPE TOWN’S RIVIERA (THE MOST BEAUTIFUL SCENIC ROAD OF THE WORLD) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเทเบิลเมาน์เทนอันกว้างใหญ่ เดินทางไปตามเส้นทาง CHAPMAN’S PEAK DRIVE อันตระการตา ซึ่งตัดผ่านรอบๆ ภูเขา และมองเห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของผืนน้ำมหาสมุทรในเบื้องล่าง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ  45 นาที จนกระทั่งเดินทางถึงนอร์ดฮุค (NOORDHOEK FARM VILLAGE) ปลายเหนือสุดของแหลมเพนนินซูลาในชานเมืองด้านใต้ของเคปทาวน์ เป็นที่เลื่องลือสำหรับแนวชายฝั่ง และชายหาดที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยอยู่ใกล้ๆ กับเขตสงวนธรรมชาติอันน่าทึ่ง และชื่นชมบ้านเรือนที่น่ารักหันหน้าไปหาผืนน้ำ ผ่อนคลายบนผืนทรายขาวของนอร์ดฮุคบีชโดยมองเห็นวิวทิวเขาขนาบข้างผืนทรายที่ทอดยาว 8 กิโลเมตร แวดล้อมด้วยลักษณะทางธรรมชาติที่งดงาม

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ ไร่องุ่น และโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้

เที่ยง นำท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในไร่ไวน์ GROOT CONSTANTIA

บ่าย จากนั้นนำท่าน ชิมไวน์เลิศรสที่ได้รับรางวัล พร้อมชมโรงเก็บเหล้าองุ่น และเยี่ยมชมอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่า 330 ปี ท่ามกลางหุบเขาคอนสแตนเทียอันเขียวชอุ่มแห่งนี้

GROOT CONSTANTIA WINERY

ที่นี่ตั้งอยู่บนพื้นที่อุดมสมบูรณ์กว่า 408 เอเคอร์ ในหุบเขาคอนสแตนเทีย โรงกลั่นเหล้าองุ่นแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1685 โดย ไซมอน แวน เดอ สเตล (SIMON VAN DER STEL) ผู้ว่าการอาณานิคมเคปคนแรกซึ่งเป็นชาวดัตซ์ นำท่าน ชมห้องเก็บไวน์ต่างๆ และสัมผัสความเป็นมาของที่นี่พร้อมลิ้มรสไวน์ชั้นเลิศ เรียนรู้กระบวนการทำไวน์แบบต้นจนจบ ตั้งแต่การเก็บองุ่นไปจนถึงการบรรจุขวด และการจัดจำหน่าย ศึกษาเกี่ยวกับดินชนิดต่างๆ และองุ่นหลายสายพันธุ์ที่ปลูกที่นี่ ได้แก่ ชาร์ดอนเนย์ (CHARDONNAY) แมร์โล (MERLOT) เซมิลยอง (SEMILLON) และ ซีราส (SHIRAZ) สำหรับคอไวน์ ท่านสามารถซื้อไวน์ซีราส และไวน์ GOUVERNEUR’S RESERVE อันโด่งดังได้จากที่นี่

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ V&A เพื่อนำท่าน ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน (SUNSET BOAT CRUISE) กับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคในอ่าวเทเบิ้ลพร้อมทัศนียภาพริมมหาสมุทรแอตแลนติค

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN CAPE TOWN หรือเทียบเท่า

8

วันที่แปดของการเดินทาง

SIMON’S TOWN – ชมฝูงนกเพนกวิน – แหลมกู๊ดโฮป – SIGNAL HILL

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บริเวณ SIMON’S TOWN (45 กิโลเมตร)

SIMON’S TOWN

เป็นอาณานิคมของ ฝูงนกเพนกวินพันธุ์แอฟริกัน JACKASS ขนาดเล็กแสนน่ารักนับพันตัวที่ หาดโบว์เดอร์ (BOULDERS BEACH) มีลักษณะเท้าเป็นสีดำ เปลือกตาสีชมพู เป็น 1 ใน 15 ชนิดในโลกที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ให้ท่านได้ชมความน่ารักของฝูงนกเพนกวน จนได้เวลาสมควร

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแหลมกู๊ดโฮป (CAPE OF GOOD HOPE NATURE RESERVE) (45 กิโลเมตร) ปลายสุดของแหลมจะมีประภาคารขนาดใหญ่ ซึ่งท่านจะได้เห็นรอยตะเข็บระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแอตแลนติคที่มาบรรจบกันได้อย่างชัดเจนบนผิวน้ำที่แตกต่าง

CAPE OF GOOD HOPE

นำท่านขึ้นรถราง (FUNICULAR) เพื่อไปชมทิวทัศน์อันสวยงามที่ CAPE POINT จุดเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรอินเดีย กับ มหาสมุทรแอตแลนติก ตามความเชื่อของนักเดินเรือในอดีต จากนั้นนำท่าน เดิน TREKKING แบบง่ายๆ ไปตามเส้นทางเดินริมทะเลช่วงขาลง เดินลัดเลาะชมวิวทิวทัศน์ และดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติริมฝั่งทะเล ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จนกระทังเดินทางถึง แหลมแห่งความหวัง CAPE OF GOOD HOPE ที่เป็นที่เลื่องลือทางประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งการค้นพบเส้นทางการค้าจากโลกตะวันตก สู่โลกตะวันออก จนได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านสู่ THE CAPE POINT OSTRICH FARM (25 กิโลเมตร)

บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่าน เข้าชมการเลี้ยงนกกระจอกเทศที่ทันสมัย สัมผัสวงจรชีวิตของนกกระจอกเทศอย่างใกล้ชิดสนุกกับการป้อนอาหาร สัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับนกกระจอกเทศที่มีฉากเบื้องหลังของ TABLE MOUNTAIN ที่สวยงาม และเลือกชมสินค้าแปลกตาจากนกกระจอกเทศ เช่น เข็มขัด กระเป๋าหนัง หรือเปลือกไข่นกกระจอกเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ ตัวเมืองเคปทาวน์  อิสระให้ท่านได้เลือกชม และเลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกที่ THE DIAMOND WORKS กระทั่งได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านสู่ SIGNAL HILL (LION’S RUMP) เป็นเนินเขาที่อยู่ติดกับ LION’S HEAD

SIGNAL HILL

มีลักษณะเป็นเนิน อดีตเคยมีการใช้ธงเป็นสัญญาณบอกสภาพอากาศ หรือคำเตือนสำหรับนักเดินเรือบริเวณอ่าว ด้านบนของ SIGNAL HILL มีถนนเรียบไปตามยอดเขาไปจนถึงจุดสูงสุดของเนินเขา ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเคปทาวน์ได้ชัดเจน และชมความงดงามของพระอาทิตย์ตกดิน ได้จากที่นี่ ให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น NOBU ภัตตาคารในโรงแรม THE ONE AND ONLY

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN CAPE TOWN หรือเทียบเท่า

9

วันที่เก้าของการเดินทาง

เคปทาวน์ – กรุงเทพ ฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ

10.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ 479 / SQ 706

(แวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์เวลา 06.10 – 07.10 น.)

10

วันที่สิบของการเดินทาง

กรุงเทพ ฯ

08.35 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…