25 ธ.ค 2565 – 03 ม.ค. 2566
วันเดินทาง
สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ (SQ)
สายการบิน
แอฟริกาใต้
ประเทศ

ทัวร์แอฟริกา : BEST IN GREAT S. AFRICA 10 วัน (SQ)

กำหนดการเดินทาง : 25 ธ.ค 2565 – 03 ม.ค. 2566

ประเทศ : แอฟริกาใต้

สายการบิน : สิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ)

ราคา : 199,800 บาท

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

วันแรกของการเดินทาง

กรุงเทพฯ – โจฮันเนสเบิร์ก

17.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 5 แถว K เคาน์เตอร์ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก ให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

20.10 น.เดินทางสู่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ โดย สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ 713/478(แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติสิงคโปร์ชางงี เวลา 23.30 – 01.30 น.)

2

วันที่สองของการเดินทาง

โจฮันเนสเบิร์ก –  เหมืองเพชรคัลลินาน  – พริทอเรีย – มัลเดอร์สดริฟต์

06.10 น. เดินทางถึง เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว

 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เหมืองเพชรคัลลินาน (Cullinan Mine) (80 กิโลเมตร)

เหมืองเพชรคัลลินาน

เป็นเหมืองเพชรที่มีชื่อเสียงที่สุดเหมืองแร่ที่จะดำเนินการตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท De Beers นำท่านชมภายในเหมืองเพชรที่มีการทำงานอย่างน่าทึ่ง

ชมแบบจำลองเพชรต่างๆ THE CULLINAN Iเป็นเพชรรูปหยดน้ำเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “THE STAR OF AFRICA”  อิสระให้ท่านในการเก็บภาพบรรยากาศภายในเหมืองเพชรแห่งนี้ จนได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองพริทอเรีย (PRETORIA) (40 กิโลเมตร)

พริทอเรีย (PRETORIA)  / ชมเมือง

เป็นเมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้ โดยตั้งชื่อเมืองตามชื่อของแอนดีส์ พรีทอรีอัส (Andries Pretorius) วีรบุรุษของการต่อสู้รบระหว่างพวกบัวร์ (Boer) กับชนพื้นเมืองผิวดำ ภายในเมืองมีการจัดวางผังเมืองอย่างดี และสวยงามเป็นระเบียบ

นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมือง บริเวณจัตุรัสกลางเมือง (CHURCH SQUARE) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พอล ครูเกอร์ (Paul Kruger Monument) ประธานาธิบดีของ

รัฐอิสระชาวบัวร์ ผ่านชมทำเนียบประธานาธิบดี (UNION BUILDING) ที่ทำการของรัฐบาลที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับพระราชวัง จนติดอันดับว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่สวยที่สุดในโลก

ผ่านชมอนุสาวรีย์วูร์เทรคเกอร์ (VOORTREKKER MONUMENT) ศูนย์รวมจิตใจของชนผิวขาวเชื้อสายดั้งเดิมของชาวบัวร์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเดินทางอพยพของพวกบัวร์จากปลาย แหลมของทวีปเข้าสู่ใจกลางประเทศแอฟริกาใต้และร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีของการสู้รบกับชาวพื้นเมือง

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม KLOOFZICHT LODGE & SPA ระดับ 5 ดาว

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

3

วันที่สามของการเดินทาง

มัลเดอร์สดริฟต์ Hot Air Balloon – THE IVORY TREE GAME LODGE  ส่องสัตว์

05.00 น. MORNING WAKE UP CALL // ให้ท่านทำธุระส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรม Hot Air Balloon

06.00 – 07.00 น. นำท่านขึ้นบอลลูนชมวิว ซึ่งนอกจากจะได้เห็นทิวทัศน์ และความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ยังจะได้เห็นชีวิตของเหล่าสัตว์ต่างๆ อีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การขึ้นบอลลูน ส่วนมากนิยมกันตอนเช้าตรู่และตอนเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตก การขึ้นบอลลูน ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาดจะได้ทั้งความทรงจำ และภาพความประทับใจดีๆกลับไป ได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางกลับสู่ โรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า และพักผ่อนอิริยาบถตามอัธยาศัย

10.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ IVORY TREE GAME LODGE ภายในอุทยานแห่งชาติพีลาเนสเบิร์ก (AT PILANESBERG NATIONAL PARK) ที่พักระดับ Luxurious ระหว่างทางผ่านชมความเป็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ด้วยเนื้อที่กว่า 550 ตารากิโลเมตร และสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่อาศัยรวมตัวกันอยู่บริเวณป่าแห่งนี้ จนกระทั่งเดินทางถึง IVORY TREE GAME LODGE (160 กิโลเมตร)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก

บ่าย จากนั้น ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย กับบรรยากาศซาฟารี ระดับ 5 ดาว

15.00 น. นำท่าน ทำกิจกรรมส่องสัตว์ (GAME DRIVE)

กิจกรรมส่องสัตว์ (GAME DRIVE)

นำท่านสู่ ดินแดนแห่งซาฟารี สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทายความมันส์ และเพลิดเพลินกับ การนั่งรถเปิดประทุนส่องสัตว์ เพื่อค้นหา BIG 5 สัตว์ป่ายิ่งใหญ่ และเป็นสัญลักษณ์ของแอฟริกใต้ นั้นก็คือ สิงโตเสือ, แรด, ควายป่า และช้างป่า ท่ามกลางป่าซาฟารีในประเทศแอฟริกาใต้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการส่องสัตว์ พร้อมเก็บภาพเป็นที่ระลึก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักโรงแรม IVORY TREE GAME LODGE

4

วันที่สี่ของการเดินทาง

THE IVORY TREE GAME LODGE THE PALACE OF THE LOST CITY

04.30 น. MORNING WAKE UP CALL // ให้ท่านทำธุระส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรมส่องสัตว์

05.00-08.00 น. นำท่านนั่งรถบุกป่า ส่องสัตว์ (GAME DRIVE) เดินทางสู่ ดินแดนแห่งซาฟารี นำท่าน ชมภาพชีวิตสัตว์ป่าแอฟริกันที่หาชมได้ยากในยามเช้า อาทิเช่น แอนเทโลป เสือ สิงโต ม้าลาย ช้าง แรด ยีราฟ ฯลฯ สนุกสนานตื่นเต้น และเพลิดเพลินกับการค้นหา 5 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งป่าแอฟริกาใต้ (ควายป่า ช้าง สิงโต แรด และเสือดาว) ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ โรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า

09.30 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครลับแล SUN CITY หรือ THE LOST CITY (145 กิโลเมตร)

นครลับแล SUN CITY หรือ THE LOST CITY

เมืองลับแลแห่งหุบเขาแสงตะวัน เป็นเมืองที่ถูกเนรมิตขึ้นจากความคิดของอภิมหาเศรษฐีที่ชื่อว่า ซอล เคิร์ซเนอร์ (SOL KERZNER) ที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 25,000 ล้านบาท และใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 18 ปี และความพยายามอีกล้นเหลือในการเนรมิต ผืนดินอันว่างเปล่า และแห้งแล้งให้กลายเป็นเมืองแห่งความสำราญบันเทิงทุกรูปแบบ เดินทางถึง นครลับแล THE SUN CITY

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีนใน THE SUN CITY

บ่าย จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พัก THE PALACE OF THE LOST CITY  ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรม แบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน และตกแต่งภายในในสไตล์แอฟริกัน

อิสระตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่าน ชมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และทะเลน้ำจืดเทียมขนาดใหญ่ยักษ์ที่เรียกว่า Valley of Wave มีลักษณะเหมือนทะเลจริงๆ แวดล้อมด้วยขุนเขา และต้นไม้ที่จัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบสวยงามรวมไปถึงคลื่นยักษ์เทียมที่คอยโถมกระหน่ำสร้างความตื่นเต้นให้กับท่านได้ไม่รู้เบื่อ ใกล้ๆ กันคือ

สะพานแห่งกาลเวลา The Bridge of time สองข้างสะพานมีช้างแกะสลักเรียงรายอยู่ สะพานนี้เชื่อมต่อกับกองหินมหึมาที่เชื่อว่าเป็น The Lost City ที่สูญหายไป และเพื่อเป็นการตอกย้ำระลึกถึงความทรงจำจึงสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้น และทุกๆ หนึ่งชั่วโมงสะพานจะถูกเขย่าเสมือนแผ่นดินไหวโรงภาพยนตร์ ร้านค้า ดิสโก้เธคคาสิโนที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เมืองนี้ไม่เคยหลับใหล ที่สำคัญเมื่อท่านจะเดินไปมาที่ใดในอาณาจักรแห่งนี้อย่าลืมพกบัตรผ่าน (กุญแจห้องพัก) ไปด้วย เพราะบางสถานที่และกิจกรรมบางประเภทถูกสงวนไว้สำหรับแขกที่มาพักที่ The Palace เท่านั้น *** ท่านสามารถกลับสู่ที่พักได้โดยรถรับ-ส่งภายในเมืองลับแลที่มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง ภายในซันซิตี้ คอมเพล็กซ์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายใน THE PALACE OF THE LOST CITY  

5

วันที่ห้าของการเดินทาง

THE PALACE OF THE LOST CITY – เคปทาวน์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

อิสระให้ท่านพักผ่อนอิริยาบถในบริเวณที่พักตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

10.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก (200 กิโลเมตร)

14.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเคปทาวน์ โดย สายการบิน South African Airways เที่ยวบินที่ SA343

16.20 น. เดินทางถึง เมืองเคปทาวน์ (CAPE TOWN) เมืองตากอากาศที่ติดอันดับสวยงามที่สุดแห่งของโลก ตั้งอยู่ปลายสุดของแอฟริกาใต้ ถูกโอบล้อมด้วยมหาสมุทรอินเดีย และแอตแลนติก ด้านหน้าหันเข้าหามหาสมุทรทั้งสอง ส่วนด้านหลังมีเทือกเขาสูงเป็นฉากหลัง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

 จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN ระดับ 5 ดาว

6

วันที่หกของการเดินทาง

เคปทาวน์ Table Mountainชมฝูงแมวน้ำ  – ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านสู่ Table Mountain (20 กิโลเมตร)

Table Mountain

ภูเขาซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งหินทรายตัดตรงสูง 1,086 เมตร ตั้งตระหง่านโอบล้อมด้วยตัวเมืองที่กว้างไกล

นำท่านขึ้น ชมทิวทัศน์จากยอดเขาด้วยกระเช้าทันสมัยหมุนรอบตัวเอง 360 องศาใช้เวลาเพียง 6 นาที

(ถ้าอากาศอำนวย) ค้นหาแดสซี่ (Dassie) กระต่ายหิน หน้าตาคล้ายหนูตะเภามีสีน้าตาล ขนฟูๆ หูสั้นๆปากยื่นๆยาวประมาณ 1 ฟุต และยังมีป่าไม้พุ่มซึ่งเป็นแหล่งรวมของพืช 1,500 สายพันธุ์นกเฉพาะถิ่นอย่างคีรีบูนโพรเทีย ภูเขาโต๊ะถูกขนาบสองด้านด้วยยอดเขา Lion Head และ Devil Peak ที่สวยงามให้ท่านได้มีเวลาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

จากนั้นนำท่านชมความงามของชายฝั่งบริเวณ CAPE PENNINSULA ลัดเลาะสู่ชายหาดที่สวยสะดุดตา ข้ามยอดเขาอันสวยงามที่มีชื่อเสียงก้องโลก CHAPMAN’S PEAK ท่าน

จะได้ชมภูมิประเทศที่แปลกตาอันน่าประทับใจ ซึ่งในปัจจุบันเป็นสถานทีตั้งของที่พักตากอากาศอันหรูหรา จากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ HOUT BAY เพื่อนำท่าน นั่งเรือชมฝูงแมวน้ำ ที่แสนน่ารักนอนอาบแดดอุ่นนับพันตัวที่ เกาะดุยเกอร์ (DUIKER ISLAND หรือ SEAL ISLAND)

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  (เมนูกุ้งมังกร 200 GRAM CRAYFISH)

บ่าย  นำท่าน ชมย่านชุมชนชาวมลายูที่อพยพมาอยู่ที่แอฟริกาใต้ในเมืองเคปทาวน์มีชื่อว่าชุมชน Bo-Kaap

ชุมชน Bo-Kaap

ซึ่งถือเป็นย่านที่มีสีสันที่สุดของเมือง ตั้งอยู่บริเวณทางลาดของเนินเขา Signal Hill ชุมชนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส และที่ชุมชนแห่งนี้มีการจัดตั้งองค์กรไม่หวังผลกำไรชื่อว่า Monkeybiz ซึ่งเป็นองค์กรที่มีการจัดให้ผู้หญิงยากจนในชุมชนได้มีรายได้ โดยแจกจ่ายลูกปัดให้สำหรับทำเป็นตุ๊กตา หรืองานฝีมืออื่นๆ เพื่อที่ผลกำไรที่ได้จากการจำหน่ายจะได้กลับไปสู่ชุมชน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ V&A เพื่อนำท่าน ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน (SUNSET BOAT CRUISE) กับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคในอ่าวเทเบิ้ลพร้อมทัศนียภาพริมมหาสมุทรแอตแลนติค

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN ระดับ 5 ดาว

7

วันที่เจ็ดของการเดินทาง

Cape Sidecar Adventures  – ชิมไวน์ – V&A WATERFRONT 

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จุดนัดพบ เพื่อทำกิจกรรมขับรถ Sidecar ชมวิว บริการอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งหมวกกันน๊อค แจ๊คเกตหนัง รวมถึงผ้าโพกหัวเก๋ๆที่มอบให้แกทุกท่านเป็นที่ระลึก

Cape Sidecar Adventures

นำท่าน ขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทาง The Atlantic Seaboard ที่รู้จักกันในนาม เส้นทาง CAPE TOWN’S RIVIERA (THE MOST BEAUTIFUL SCENIC ROAD OF THE WORLD) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเทเบิลเมาน์เทนอันกว้างใหญ่ เดินทางไปตามเส้นทาง Chapman’s Peak Drive อันตระการตา ซึ่งตัดผ่านรอบๆ ภูเขา และมองเห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของผืนน้ำมหาสมุทรในเบื้องล่าง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ  45 นาที จนกระทั่งเดินทางถึง นอร์ดฮุค (Noordhoek Farm Village) ปลายเหนือสุดของแหลมเพนนินซูลาในชานเมืองด้านใต้ของเคปทาวน์ เขตนี้มองเห็นเฮาท์เบย์ (Hout bay) บนชายฝั่งแอตแลนติก ตั้งอยู่ที่เชิงเขาแชปแมนส์พีค (Chapman’s Peak) ที่สูงตระหง่าน เป็นที่เลื่องลือสำหรับแนวชายฝั่งและชายหาดที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยอยู่ใกล้ๆ กับเขตสงวนธรรมชาติอันน่าทึ่ง และชื่นชมบ้านเรือนที่น่ารักหันหน้าไปหาผืนน้ำ ผ่อนคลายบนผืนทรายขาวของนอร์ดฮุคบีชโดยมองเห็นวิวทิวเขาขนาบข้าง ผืนทรายที่ทอดยาว 8 กิโลเมตร แวดล้อมด้วยลักษณะทางธรรมชาติที่งดงาม

นำท่านเดินทางต่อสู่ Groot Constantia ไร่องุ่นและโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้

เที่ยง นำท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในไร่ไวน์ Groot Constantia

บ่าย  จากนั้นนำท่าน  ชิมไวน์เลิศรสที่ได้รับรางวัล พร้อมชมโรงเก็บเหล้าองุ่น และเยี่ยมชมอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่า 330 ปี ท่ามกลางหุบเขาคอนสแตนเทียอันเขียวชอุ่มแห่งนี้

Groot Constantia / ชิมไวน์

ตั้งอยู่ทางใต้ของตัวเมืองเคปทาวน์ไปประมาณ 20 กิโลเมตร

มีบริษัทไม่แสวงผลกำไรเป็นเจ้าของ ที่นี่ตั้งอยู่บนพื้นที่อุดมสมบูรณ์กว่า 408 เอเคอร์ ในหุบเขาคอนสแตนเทีย โรงกลั่นเหล้าองุ่นแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1685 โดย ไซมอน แวน

เดอ สเตล (Simon van der Stel) ผู้ว่าการอาณานิคมเคป (Cape Colony)คนแรกซึ่งเป็นชาวดัตซ์ นำท่าน ชมห้องเก็บไวน์ต่างๆ แล้วสัมผัสความเป็นมาของที่นี่พร้อมลิ้มรสไวน์ชั้นเลิศ เรียนรู้กระบวนการทำไวน์แบบต้นจนจบ ตั้งแต่การ

เก็บองุ่นไปจนถึงการบรรจุขวดและการจัดจำหน่าย ศึกษาเกี่ยวกับดินชนิดต่างๆ และองุ่นหลายสายพันธุ์ที่ปลูกที่นี่

ได้แก่ ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) แมร์โล (Merlot) เซมิลยอง (Semillon) และซีราส (Shiraz) สำหรับคอไวน์ ท่านสามารถซื้อไวน์ซีราสและไวน์ Gouverneur’s Reserve อันโด่งดังได้จากที่นี่

จากนั้นนำท่านสู่ เมืองเคปทาวน์ (CAPE TOWN) นำท่านเดินทางสู่ แหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัยที่สุดในเมืองเคปทาวน์ VICTORIA & ALFRED WATERFRONT

VICTORIA & ALFRED WATERFRONT

แหล่งรวมสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อกว่า 400 ร้านค้าซึ่งเป็นหนึ่งในย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตซีกโลกใต้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง หรือสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ท่านเพลิดเพลินเลือกซื้อสินค้ากับร้านรวงต่างๆมากมาย ทั้งภัตตาคาร ผับ ร้านอาหาร คาเฟ่ สินค้าพื้นเมือง Art & Craft รวมทั้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่มาจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ ARMANI, BURBERRY, GUCCI เป็นต้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านสัมผัสบรรยากาศงานเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะดีแค่ไหนถ้าท่านได้นับถอยหลังในเมืองที่อากาศดี วิวห้าดาว ไม่หนาว ไม่ร้อน ในเมืองสุดฮอตยอดฮิตเมืองหนึ่งของโลกอย่างเคปทาวน์ ด้วยแสงสีเสียงสวย ตระการตาในค่ำคืนนี้ เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ท่านไม่ควรพลาด จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

 จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN ระดับ 5 ดาว

8

วันที่แปดของการเดินทาง

SIMON’S TOWN – ชมฝูงนกเพนกวิน – เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแหลมกู๊ด

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

SIMON’S TOWN / ชมฝูงนกเพนกวิน

เป็นอาณานิคมของฝูงนกเพนกวินพันธุ์แอฟริกัน JACKASS ขนาดเล็กแสนน่ารักนับพันตัวที่ หาดโบว์เดอร์ (BOULDERS BEACH) มีลักษณะเท้าเป็นสีดำ เปลือกตาสีชมพู เป็น 1 ใน 15 ชนิดในโลกที่ใกล้จะสูญพันธุ์        จนได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแหลมกู๊ดโฮป (CAPE OF GOOD HOPE NATURE RESERVE) (25 กิโลเมตร) ปลายสุดของแหลมจะมีประภาคารขนาดใหญ่ ซึ่งท่านจะได้เห็นรอยตะเข็บระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแอตแลนติคที่มาบรรจบกันได้อย่างชัดเจนบนผิวน้ำที่แตกต่างแหลมแห่งความหวัง (CAPE OF GOOD HOPE)

นำท่าน ขึ้นรถราง (FUNICULAR) เพื่อไปชมทิวทัศน์อันสวยงามที่ CAPE POINT จุดเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแอตแลนติกตามความเชื่อของนักเดินทางเรือในอดีต จากนั้นนำท่าน เดิน TREKKING แบบง่ายๆไปตามเส้นทางเดินริมทะเลช่วงขาลง เดินลัดเลาะชมวิวทิวทัศน์และดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติริมฝั่งทะเล ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จนกระทังเดินทางถึง แหลมแห่งความหวัง CAPE OF GOOD HOPE ที่เป็นที่เลื่องลือทางประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งการค้นพบเส้นทางการค้าจากโลกตะวันตกสู่โลกตะวันออก จนได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านสู่ THE CAPE POINT OSTRICH FARM (25 กิโลเมตร)

บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่าน เข้าชมการเลี้ยงนกกระจอกเทศที่ทันสมัย สัมผัสวงจรชีวิตของนกกระจอกเทศอย่างใกล้ชิด สนุกกับการป้อนอาหาร สัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับนกกระจอกเทศที่มีฉากเบื้องหลังของ TABLE MOUNTAIN ที่สวยงาม และเลือกชมสินค้าแปลกตาจากนกกระจอกเทศ เช่น เข็มขัด กระเป๋าหนัง หรือเปลือกไข่นกกระจอกเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ ตัวเมืองเคปทาวน์  อิสนะให้ท่านได้เลือกชม และเลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกที่ The Diamond Works กระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านสู่ Signal Hill (Lion’s Rump) เป็นเนินเขาที่อยู่ติดกับ Lion’s Head

Signal Hill  (Lion’s Rump)

มีลักษณะเป็นเนิน อดีตเคยมีการใช้ธงเป็นสัญญาณบอกสภาพอากาศหรือคำเตือนสำหรับนักเดินเรือบริเวณอ่าว ด้านบนของ Signal Hill มีถนนเรียบไปตามยอดเขาไปจนถึงจุดสูงสุดของเนินเขา ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเคปทาวน์ได้ชัดเจน และชมความงดงามของพระอาทิตย์ตกดิน ได้จากที่นี่ ให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น NOBU ภัตตาคารในโรงแรม THE ONE AND ONLY

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN ระดับ 5 ดาว

9

วันที่เก้าของการเดินทาง

เคปทาวน์ – กรุงเทพ ฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน

10.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ 479 / 706

  *** แวะรับผู้โดยสารที่สนามบินโจฮีนเนสเบิร์ก ลูกค้าลงไปรอที่ Gate จนถึงเวลา 13.45 น.

 *** ใช้เวลาแวะที่สนามบินโจฮีนเนสเบิร์ก 1 ชั่วโมง 5 นาทีโดยประมาณ แล้วจึงบินต่อ นั่งเครื่องเดิม

10

วันที่สิบของการเดินทาง

กรุงเทพ ฯ

(แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ เวลา 06.10 – 07.10 น.)

08.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ