ทัวร์แอฟริกา : BEST IN GREAT S.AFRICA 10 DAYS (SQ)
กำหนดการเดินทาง : 29 ธันวาคม 2566 – 07 มกราคม 2567
ประเทศ : แอฟริกาใต้
สายการบิน : สิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ)
ราคา : 199,800 บาท
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพฯ – โจฮันเนสเบิร์ก
16.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 5 แถว K เคาน์เตอร์สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
20.10 น. เดินทางสู่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ 713/478 (แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติสิงคโปร์ชางงี เวลา 23.30 – 01.30 น.)
วันที่สองของการเดินทาง
โจฮันเนสเบิร์ก – กิจกรรมขับรถ ATV – มัลเดอร์สดริฟต์
06.10 น. เดินทางถึง เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Lion & Safari Park (45 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และเป็นเขตอนุรักษ์ ซึ่งช่วยปกป้องสัตว์ป่าแอฟริกาที่หายากในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นสวนสัตว์สไตล์ซาฟารี ที่มีสิงโตเจ้าป่าเป็นจุดขายหลักของสวนสัตว์แห่งนี้
เพื่อนำท่านทำกิจกรรมขับรถ ATV หรือ QUAD BIKE ส่องสัตว์หลากหลายชนิดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ให้ท่านได้ดูแบบไม่รู้เบื่อ สามารถหาจุดพักรถเพื่อชมสัตว์ป่าได้ทุกที่ หรือจะใช้กล้องส่องทางไกลชมอยู่ห่างๆ ก็ได้ เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ในสวนสัตว์ Lion & Safari Park ประเทศแอฟริกาใต้เท่านั้น!!!
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม KLOOFZICHT LODGE & SPA ระดับ 5 ดาว (ห้องพัก DELUXE SUITE): Kromdraai Rd, Krugersdorp, 1739 South Africa. Tel: +27 11 317 0600 https://guvonhotels.co.za/kloofzicht-lodge/
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
บ่าย อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยในโรงแรมที่พักหรูหรา ระดับ 5 ดาว
อิสระตามอัธยาศัย
อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยในโรงแรมที่พักหรูหรา ระดับ 5 ดาว ที่มีการตกแต่งผสมผสานกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบและมีสระว่ายน้ำวิวพาโนรามาที่ท่านจะดื่มด่ำวิวธรรมชาติรอบตัว ทั้งสายน้ำและเทือกเขาที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
18.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ภัตตาคารคาร์นิวอร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารคาร์นิวอร์ (THE CARNIVORE) ซึ่งแปลว่า “MEAT EATER” ปัจจุบัน
ไม่มีเมนูที่ใช้สัตว์ป่าหรือสัตว์อนุรักษ์เป็นวัตถุดิบเลยมีเนื้อหลากหลาย ให้ท่านเลือกชิม และลิ้มลอง ทั้ง
เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อแกะ อาทิเช่น Rump Stake / PorkSpareribs/ Chicken Yakitori/ Turkey Lamb Chops/Chicken Livers Chicken Gizzards ส่วนเมนูเนื้อแปลกๆ หรือที่เรียกว่า “Exotic Meat” อาทิ เนื้อจระเข้ เนื้ออูฐ และเนื้อนกกระจอกเทศ ก็มีให้ลิ้มลองเช่นกัน
วันที่สามของการเดินทาง
มัลเดอร์สดริฟต์ – Hot Air Balloon – พริทอเรีย SUN CITY (THE LOST CITY)
04.30 น. MORNING WAKE UP CALL // ให้ท่านทำธุระส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรม Hot Air Balloon
06.00 – 07.00 น. นำท่านขึ้นบอลลูนชมวิว ซึ่งนอกจากจะได้เห็นทิวทัศน์ และความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ยังจะได้เห็นชีวิตของเหล่าสัตว์ต่างๆ อีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การขึ้นบอลลูน ส่วนมากนิยมกันตอนเช้าตรู่และตอนเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตก การขึ้นบอลลูน ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาดจะได้ทั้งความทรงจำ และภาพความประทับใจดีๆกลับไป ปิดท้ายด้วยจิบไวน์และรับ Certificate
นำท่านเดินทางกลับสู่ โรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า และพักผ่อนอิริยาบถตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ พรีทอเรีย (PRETORIA) (64 กิโลเมตร)
พริทอเรีย (PRETORIA) / ชมเมือง
เป็นเมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้ โดยตั้งชื่อเมืองตามชื่อของแอนดีส์ พรีทอรีอัส (Andries Pretorius) วีรบุรุษ ของการต่อสู้รบระหว่างพวกบัวร์ (Boer) กับชนพื้นเมืองผิวดำภายในเมืองมีการจัดวางผังเมืองอย่างดี และสวยงามเป็นระเบียบ
นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมือง บริเวณจัตุรัสกลางเมือง (CHURCH SQUARE) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ พอล ครูเกอร์ (Paul Kruger Monument) ประธานาธิบดีของ
รัฐอิสระชาวบัวร์ ผ่านชมทำเนียบประธานาธิบดี (UNION BUILDING) ที่ทำการของรัฐบาลที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับพระราชวัง จนติดอันดับว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่สวยที่สุดในโลก
ผ่านชมอนุสาวรีย์วูร์เทรคเกอร์ (VOORTREKKER MONUMENT) ศูนย์รวมจิตใจของชนผิวขาวเชื้อสายดั้งเดิมของชาวบัวร์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเดินทางอพยพของพวกบัวร์จากปลาย แหลมของทวีปเข้าสู่ใจกลางประเทศแอฟริกาใต้และร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีของการสู้รบกับชาวพื้นเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ นครลับแล SUN CITY หรือ THE LOST CITY (158 กิโลเมตร)
นครลับแล SUN CITY หรือ THE LOST CITY
เมืองลับแลแห่งหุบเขาแสงตะวัน เป็นเมืองที่ถูกเนรมิตขึ้นจากความคิดของอภิมหาเศรษฐีที่ชื่อว่า ซอล เคิร์ซเนอร์
(SOL KERZNER) ที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 25,000 ล้านบาท และใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 18 ปี และความพยายามอีกล้นเหลือในการเนรมิต ผืนดินอันว่างเปล่า และแห้งแล้งให้กลายเป็นเมืองแห่งความสำราญบันเทิงทุกรูปแบบ เดินทางถึง นครลับแล THE SUN CITY
นำท่านเช็คอิน ณ THE PALACE OF THE LOST CITY (LUXURY ROOM) ระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า
ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน และตกแต่งภายในในสไตล์แอฟริกัน
อิสระตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่าน ชมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และทะเลน้ำจืดเทียมขนาดใหญ่ยักษ์ที่เรียกว่า Valley of Wave มีลักษณะเหมือนทะเลจริงๆ แวดล้อมด้วยขุนเขา และต้นไม้ที่จัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบสวยงามรวมไปถึงคลื่นยักษ์เทียมที่คอยโถมกระหน่ำสร้างความตื่นเต้นให้กับท่านได้ไม่รู้เบื่อ ใกล้ๆ กันคือ สะพานแห่งกาลเวลา The Bridge of time สองข้างสะพานมีช้างแกะสลักเรียงรายอยู่ สะพานนี้เชื่อมต่อกับกองหินมหึมาที่เชื่อว่าเป็น The Lost City ที่สูญหายไป และเพื่อเป็นการตอกย้ำระลึกถึงความทรงจำจึงสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้น และทุกๆ หนึ่งชั่วโมงสะพานจะถูกเขย่าเสมือนแผ่นดินไหวโรงภาพยนตร์ ร้านค้า ดิสโก้เธคคาสิโนที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เมืองนี้ไม่เคยหลับใหล ที่สำคัญเมื่อท่านจะเดินไปมาที่ใดในอาณาจักรแห่งนี้อย่าลืมพกบัตรผ่าน (กุญแจห้องพัก) ไปด้วย เพราะบางสถานที่และกิจกรรมบางประเภทถูกสงวนไว้สำหรับแขกที่มาพักที่ The Palace เท่านั้น *** ท่านสามารถกลับสู่ที่พักได้โดยรถรับ-ส่งภายในเมืองลับแลที่มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง ภายในซันซิตี้ คอมเพล็กซ์
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำกาล่าดินเนอร์แบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ณ ภัตตาคาร CRYSTAL COURT ต้อนรับด้วย SPALKING WINE และระหว่างรับประทานอาหาร ชม LIVE ENTERTAINMENT เสริมสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานเต็มไปด้วยความสุขเพื่อรอเฉลิมฉลองการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ไปด้วยกัน
23.59 น. เตรียมนับเคาท์ดาวน์ปีใหม่และชมการจุดพลุไฟ ที่สวยงามอลังการ บริเวณ THE VALLEY OF WAVES
วันที่สี่ของการเดินทาง
THE PALACE OF THE LOST CITY – อุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก GAME DRIVE
04.00 น. WAKE UP CALL
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก (PILANESBERG NATIONAL PARK) ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ด้วยเนื้อที่กว่า 550 ตารางกิโลเมตร และสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่อาศัยรวมตัวกันอยู่บริเวณป่าแห่งนี้ เพื่อทำกิจกรรมส่องสัตว์ (GAME DRIVE)
กิจกรรมส่องสัตว์ (GAME DRIVE)
นำท่านสู่ ดินแดนแห่งซาฟารี สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทายความมันส์ และเพลิดเพลินกับ การนั่งรถเปิดประทุนส่องสัตว์ เพื่อค้นหา BIG 5 สัตว์ป่ายิ่งใหญ่ และเป็นสัญลักษณ์ของแอฟริกใต้ นั้นก็คือ สิงโตเสือ, แรด, ควายป่า และช้างป่า ท่ามกลางป่าซาฟารีในประเทศแอฟริกาใต้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการส่องสัตว์ พร้อมเก็บภาพเป็น ที่ระลึก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE PALACE OF THE LOST CITY (LUXURY ROOM): โรงแรมระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า ที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราสุดอลังการพร้อมด้วยสระว่ายน้ำ จุดชมวิวบนหอคอย ห้องอาหารสุดหรูและยังสามารถเชื่อมต่อกับโรงแรมและจุดท่องเที่ยวภายใน Sun City ได้อย่างครบวงจร
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม The Sun City หรืออิสระตามอัธยาศัย
อิสระตามอัธยาศัย
อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย มีเวลาเต็มที่ในการเที่ยวชม THE SUN CITY ภายใน Sun City นั้นประกอบไปด้วยโรงแรมทั้งหมด 4 โรงแรม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ชายหาดคลื่นเทียม คาสิโน ร้านอาหารสุดหรู ฟาร์มจระเข้ เขาวงกต โรงละคร สนามกอล์ฟ บอลลูนลมร้อนและอุทยานซาฟารีสำหรับส่องสัตว์ป่านานาชนิด ที่พร้อมให้ผู้เข้าพักในโรงแรมและนักท่องเที่ยว
ขาจรเลือกพักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่
*** ท่านสามารถกลับสู่ที่พักได้โดยรถรับ-ส่งภายในเมือง ลับแลที่มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง ภายในซันซิตี้ คอมเพล็กซ์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ถึงเวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก (PILANESBERG NATIONAL PARK) ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ด้วยเนื้อที่กว่า 550 ตารางกิโลเมตร และสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่อาศัยรวมตัวกันอยู่บริเวณป่าแห่งนี้ เพื่อทำกิจกรรมส่องสัตว์ (GAME DRIVE)
กิจกรรมส่องสัตว์ (GAME DRIVE)
นำท่านสู่ ดินแดนแห่งซาฟารี สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทายความมันส์ และเพลิดเพลินกับ การนั่งรถเปิดประทุนส่องสัตว์ เพื่อค้นหา BIG 5 สัตว์ป่ายิ่งใหญ่ และเป็นสัญลักษณ์ของแอฟริกใต้ นั้นก็คือ สิงโตเสือ, แรด, ควายป่า และช้างป่า ท่ามกลางป่าซาฟารีในประเทศแอฟริกาใต้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการส่องสัตว์ พร้อมเก็บภาพเป็น ที่ระลึก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปยัง ภัตตาคาร THE WALLOW VENUE
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ สไตล์ AFRICAN PRIVATE BUSH DINNER ณ ภัตตาคาร THE WALLOW VENUE
พร้อมชมโชว์พื้นเมือง
นำท่านกลับเข้าสู่ โรงแรมที่พัก THE PALACE OF THE LOST CITY (LUXURY ROOM) หรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง
THE PALACE OF THE LOST CITY – เคปทาวน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเช้าอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาเดินทางสู่ สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก (205 กิโลเมตร)
14.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเคปทาวน์ โดย สายการบิน South African Airways เที่ยวบินที่ SA343
16.20 น. เดินทางถึง เมืองเคปทาวน์ (CAPE TOWN) เมืองตากอากาศที่ติดอันดับสวยงามที่สุดแห่งของโลก ตั้งอยู่ปลายสุดของแอฟริกาใต้ ถูกโอบล้อมด้วยมหาสมุทรอินเดีย และแอตแลนติก ด้านหน้าหันเข้าหามหาสมุทรทั้งสอง ส่วนด้านหลังมีเทือกเขาสูงเป็นฉากหลัง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก PEPPER CLUB HOTEL CAPETOWN 5 ดาว: Corner of Loop Street and, Pepper St, Cape Town City Centre, Cape Town, 8005 South Africa. Tel: +27 21 812 8888
วันที่หกของการเดินทาง
เคปทาวน์ – Table Mountain – เฮลิคอปเตอร์ – ชมฝูงแมวน้ำ ช้อปปิ้ง VICTORIA & ALFRED WATERFRONT
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Table Mountain (20 กิโลเมตร)
Table Mountain ภูเขาซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งหินทรายตัดตรงสูง 1,086 เมตร ตั้งตระหง่านโอบล้อมด้วยตัวเมืองที่กว้างไกล
นำท่านขึ้นชมทิวทัศน์จากยอดเขาด้วยกระเช้าทันสมัยหมุนรอบตัวเอง 360 องศาใช้เวลาเพียง 6 นาที (ถ้าอากาศอำนวย) ค้นหาแดสซี่ (Dassie) กระต่ายหิน หน้าตาคล้ายหนูตะเภามีสีน้าตาล ขนฟูๆ หูสั้นๆปากยื่นๆยาวประมาณ 1 ฟุต และยังมีป่าไม้พุ่มซึ่งเป็นแหล่งรวมของพืช 1,500 สายพันธุ์นกเฉพาะถิ่นอย่างคีรีบูนโพรเทีย ภูเขาโต๊ะถูกขนาบสองด้านด้วยยอดเขา Lion Head และ Devil Peak ที่สวยงาม ให้ท่านได้มีเวลาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จนได้เวลาอันสมควร
HOUT BAY / นั่งเรือชมฝูงแมวน้ำ
จากนั้นนำท่านชมความงามของชายฝั่งบริเวณ CAPE PENNINSULA ลัดเลาะสู่ชายหาดที่สวยสะดุดตา ข้ามยอดเขาอันสวยงามที่มีชื่อเสียงก้องโลก CHAPMAN’S PEAK ท่านจะได้ชมภูมิประเทศที่แปลกตาอันน่าประทับใจ ซึ่งในปัจจุบันเป็นสถานทีตั้งของที่พักตากอากาศอันหรูหรา จากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ HOUT BAY เพื่อนำท่าน นั่งเรือชมฝูงแมวน้ำ ที่แสนน่ารักนอนอาบแดดอุ่นนับพันตัวที่ เกาะดุยเกอร์ (DUIKER ISLAND หรือ SEAL ISLAND)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมนูกุ้งมังกร 200 GRAM CRAYFISH)
บ่าย นำท่าน สัมผัสการชมเมืองแบบพาโนราม่าวิว โดยการนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมเมือง เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ท่านไม่ควรพลาด จนได้เวลาอันสมควรแล้วนำท่านสู่ เมืองเคปทาวน์ (CAPE TOWN) นำท่านเดินทางสู่ แหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัยที่สุดใน
เมืองเคปทาวน์ VICTORIA & ALFRED WATERFRONT
VICTORIA & ALFRED WATERFRONT
แหล่งรวมสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อกว่า 400 ร้านค้าซึ่งเป็นหนึ่งในย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตซีกโลกใต้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง หรือสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ท่านเพลิดเพลินเลือกซื้อสินค้ากับร้านรวงต่างๆมากมาย ทั้งภัตตาคาร ผับ ร้านอาหาร คาเฟ่ สินค้าพื้นเมือง Art & Craft รวมทั้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่มาจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ ARMANI, BURBERRY, GUCCI เป็นต้น
ชุมชน Bo-Kaap
ซึ่งถือเป็นย่านที่มีสีสันที่สุดของเมือง ตั้งอยู่บริเวณทางลาดของเนินเขา Signal Hill ชุมชนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส และที่ชุมชนแห่งนี้มีการจัดตั้งองค์กรไม่หวังผลกำไรชื่อว่า Monkeybiz ซึ่งเป็นองค์กรที่มีการจัดให้ผู้หญิงยากจนในชุมชนได้มีรายได้ โดยแจกจ่ายลูกปัดให้สำหรับทำเป็นตุ๊กตา หรืองานฝีมืออื่นๆ เพื่อที่ผลกำไรที่ได้จากการจำหน่ายจะได้กลับไปสู่ชุมชน
จากนั้นนำท่านสู่ Signal Hill (Lion’s Rump) เป็นเนินเขาที่อยู่ติดกับ Lion’s Head
Signal Hill (Lion’s Rump)
มีลักษณะเป็นเนิน อดีตเคยมีการใช้ธงเป็นสัญญาณบอกสภาพอากาศหรือคำเตือนสำหรับนักเดินเรือบริเวณอ่าว ด้านบนของ Signal Hill มีถนนเรียบไปตามยอดเขาไปจนถึงจุดสูงสุดของเนินเขา ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเคปทาวน์ได้ชัดเจน และชมความงดงามของพระอาทิตย์ตกดินได้จากที่นี่ ให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก PEPPERCLUB HOTEL CAPE TOWN 5 ดาว
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
Cape Sidecar Adventures – ชิมไวน์ – ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จุดนัดพบ เพื่อทำกิจกรรมขับรถ Sidecar ชมวิว บริการอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งหมวกกันน๊อค แจ๊คเกตหนัง รวมถึงผ้าโพกหัวเก๋ๆที่มอบให้แก่ทุกท่านเป็นที่ระลึก
Cape Sidecar Adventures
นำท่าน ขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทาง The Atlantic Seaboard ที่รู้จักกันในนาม เส้นทาง CAPE TOWN’S RIVIERA (THE MOST BEAUTIFUL SCENIC ROAD OF THE WORLD) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเทเบิลเมาน์เทนอันกว้างใหญ่ เดินทางไปตามเส้นทางChapman’s Peak Drive อันตระการตา ซึ่งตัดผ่านรอบๆ ภูเขา และมองเห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของผืนน้ำมหาสมุทรในเบื้องล่าง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45 นาที จนกระทั่งเดินทางถึงนอร์ดฮุค (Noordhoek Farm Village) ปลายเหนือสุดของแหลมเพนนินซูลาในชานเมืองด้านใต้ของเคปทาวน์ เขตนี้มองเห็นเฮาท์เบย์ (Hout bay) บนชายฝั่งแอตแลนติก ตั้งอยู่ที่เชิงเขาแชปแมนส์พีค (Chapman’s Peak) ที่สูงตระหง่าน เป็นที่เลื่องลือสำหรับแนวชายฝั่งและชายหาดที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยอยู่ใกล้ๆ กับเขตสงวนธรรมชาติอันน่าทึ่งและชื่นชมบ้านเรือนที่น่ารักหันหน้าไปหาผืนน้ำ ผ่อนคลายบนผืนทรายขาวของนอร์ดฮุคบีชโดยมองเห็นวิวทิวเขาขนาบข้างผืนทรายที่ทอดยาว 8 กิโลเมตร แวดล้อมด้วยลักษณะทางธรรมชาติที่งดงาม
นำท่านเดินทางต่อสู่ ไร่องุ่นและโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้
เที่ยง นำท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร SIMON’S ภายในไร่ไวน์ Groot Constantia
บ่าย จากนั้นนำท่าน ชิมไวน์เลิศรสที่ได้รับรางวัล พร้อมชมโรงเก็บเหล้าองุ่น และเยี่ยมชมอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่า 330 ปี ท่ามกลางหุบเขาคอนสแตนเทียอันเขียวชอุ่มแห่งนี้
Groot Constantia / ชิมไวน์
ตั้งอยู่ทางใต้ของตัวเมืองเคปทาวน์ไปประมาณ20 กม. ซึ่งมีบริษัทไม่แสวงผลกำไรเป็นเจ้าของ ที่นี่ตั้งอยู่บนพื้นที่อุดมสมบูรณ์กว่า 408 เอเคอร์ ในหุบเขาคอนสแตนเทียโรงกลั่นเหล้าองุ่นแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1685 โดย ไซมอน แวน เดอ สเตล (Simon van der Stel) ผู้ว่าการอาณานิคมเคป (Cape Colony)คนแรกซึ่งเป็นชาวดัตซ์ นำท่าน ชมห้องเก็บไวน์ต่างๆ แล้วสัมผัสความเป็นมาของที่นี่พร้อมลิ้มรสไวน์ชั้นเลิศ เรียนรู้กระบวนการทำไวน์แบบต้นจนจบ ตั้งแต่การเก็บองุ่นไปจนถึงการบรรจุขวดและการจัดจำหน่าย ศึกษาเกี่ยวกับดินชนิดต่างๆ และองุ่นหลายสายพันธุ์ที่ปลูกที่นี่ ได้แก่ ชาร์ดอนเนย์(Chardonnay) แมร์โล (Merlot) เซมิลยอง (Semillon) และซีราส (Shiraz) สำหรับคอไวน์ ท่านสามารถซื้อไวน์ซีราสและไวน์ Gouverneur’s Reserve อันโด่งดังได้จากที่นี่
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ V&A เพื่อนำท่าน ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน (SUNSET BOAT CRUISE) กับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคในอ่าวเทเบิ้ลพร้อมทัศนียภาพริมมหาสมุทรแอตแลนติค (คณะส่วนตัว)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก PEPPER CLUB HOTEL CAPE TOWN 5 ดาว
วันที่แปดของการเดินทาง
SIMON’S TOWN – ชมฝูงนกเพนกวิน – เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ แหลมกู๊ดโฮป
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแหลมกู๊ดโฮป (CAPE OF GOOD HOPE NATURE RESERVE) (25 กิโลเมตร) ปลายสุดของแหลมจะมีประภาคารขนาดใหญ่ ซึ่งท่านจะได้เห็นรอยตะเข็บระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแอตแลนติคที่มาบรรจบกันได้อย่างชัดเจนบนผิวน้ำที่แตกต่าง แหลมแห่งความหวัง (CAPE OF GOOD HOPE)
นำท่านขึ้นรถราง (FUNICULAR) เพื่อไปชมทิวทัศน์อันสวยงามที่ CAPE POINT จุดเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแอตแลนติกตามความเชื่อของนักเดินทางเรือในอดีต
จากนั้นนำท่าน เดิน TREKKING แบบง่ายๆไปตามเส้นทางเดินริมทะเลช่วงขาลง เดินลัดเลาะชมวิวทิวทัศน์และดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติริมฝั่งทะเล ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จนกระทังเดินทางถึง แหลมแห่งความหวัง CAPE OF GOOD HOPE ที่เป็นที่เลื่องลือทางประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งการค้นพบเส้นทางการค้าจากโลกตะวันตกสู่โลกตะวันออก จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านสู่ THE CAPE POINT OSTRICH FARM (25 กิโลเมตร)
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารใน CAPE POINT OSTRICH FARM
จากนั้นนำท่าน เข้าชมการเลี้ยงนกกระจอกเทศที่ทันสมัย สัมผัสวงจรชีวิตของนกกระจอกเทศอย่างใกล้ชิด สนุกกับการป้อนอาหาร สัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับนกกระจอกเทศที่มีฉากเบื้องหลังของ TABLE MOUNTAIN ที่สวยงาม และเลือกชมสินค้าแปลกตาจากนกกระจอกเทศ เช่น เข็มขัด กระเป๋าหนัง หรือเปลือกไข่นกกระจอกเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บริเวณ SIMON’S TOWN (45 กิโลเมตร)
SIMON’S TOWN / ชมฝูงนกเพนกวิน เป็นอาณานิคมของฝูงนกเพนกวินพันธุ์แอฟริกัน JACKASS ขนาดเล็กแสนน่ารักนับพันตัวที่ หาดโบว์เดอร์ (BOULDERS BEACH) มีลักษณะเท้าเป็นสีดำ เปลือกตาสีชมพู เป็น 1 ใน 15 ชนิดในโลกที่ใกล้จะสูญพันธุ์ จนได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ ตัวเมืองเคปทาวน์ อิสระให้ท่านได้เลือกชม และเลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกที่ The Diamond Works กระทั่งได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น NOBU ภัตตาคารในโรงแรม THE ONE AND ONLY
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก THE WESTIN CAPE TOWN ระดับ 5 ดาว
วันที่เก้าของการเดินทาง
เคปทาวน์ – กรุงเทพ ฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
10.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ 479 / SQ 706 (แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติสิงคโปร์ชางงี เวลา 06.10-07.15 น.)
วันที่สิบของการเดินทาง
กรุงเทพ ฯ
08.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ……