27 ธันวาคม 2566 – 05 มกราคม 2567
วันเดินทาง
สายการบินไทย (TG)
สายการบิน
สวิตเซอร์แลนด์
ประเทศ

ทัวร์ยุโรป : ความสวยงามแห่งอัลซาส สายการบินไทย 10 วัน (TG)

กำหนดการเดินทาง : 27 ธันวาคม 2566 – 05 มกราคม 2567

ประเทศ : สวิตเซอร์แลนด์ – เยอรมัน

สายการบิน : การบินไทย (TG)

ราคา : 198,800 บาท

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

วันแรกของการเดินทาง

กรุงเทพฯ – ซูริค

21.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้า 4-5 เคาน์เตอร์ H-J สายการบินไทย (TG) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อน

2

วันที่สองของการเดินทาง

ซูริค – อาเรา ชมเมือง – ไรน์เฟลเดน – ชมเมือง – บาเซิล – ชมเมือง

00.35 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซูริค โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG970

06.55 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอาเรา (AARAU) (50 กิโลเมตร) เมืองที่มีชายคาที่สวยที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์

อาเรา (AARAU)

เป็นเมืองหลวงของรัฐอาร์เกา (Aargau) รัฐที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนที่ราบสูงสวิส (Swiss plateau) และตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองซูริค เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในรัฐอาร์เกา ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในยุคกลาง (Middle Ages) หรือราวๆปี ค.ศ. 1240 ปัจจุบันเมืองอาเราได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป้นอันดับต้นๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จากนั้นนำท่าน ชมเมืองอาเราบริเวณย่านเมืองเก่า (OLD TOWN) ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รวมของอาคารสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง

ชมบริเวณย่านเมืองเก่า (OLD TOWN)

อาคารส่วนใหญ่ในเขตเมืองเก่านั้นมีความเก่าแก่มาก อาคารบางหลังถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16-18 โดยสถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ต้องไม่พลาดไปเยือน คือ ปราสาทขนาดเล็ก (Schlossli) เป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดในเมือง, ศาลาว่าการเมือง (City hall) ประตูเมือง (Gate Tower) และโบสถ์ประจำเมือง (City Church) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่จะต้องไม่พลาดมาเยือนทั้งสิ้น จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองไรน์เฟลเดน (RHEINFELDEN) (40 กิโลเมตร) เมืองเล็กน่ารักริมแม่น้ำไรน์ชายแดนสวิส-เยอรมัน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน เข้าชมโรงเบียร์เบราเออเรย์ เฟลด์ชลอสเซ่น (Brauerei Feldschlossen) โรงเบียร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1876 ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเบียร์ที่สวยที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย จากนั้น เดินเล่นชมเมือง และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพตามอัธยาศัย

ไรน์เฟลเดน (RHEINFELDEN) / ชมเมือง

เป็นเมืองแห่งเบียร์ที่ขายดีที่สุดของสวิส Feldschlösschen ตัวเมืองมีขนาดเล็กกะทัดรัดน่ารัก มีจำนวนพลเมืองเพียงแค่หมื่นกว่าคน มีถนนคนเดินใจกลางเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมน่าสนใจหลายแห่ง ในตัวเมืองเก่านี้จดบันทึกเป็นเขตมรดกทางประวัติศาสตร์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีอาคารสถานที่หลายแห่งที่บันทึกเป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ อาทิ ป้อมปราการและโบสถ์ St. Martin’s Church ที่ภายนอกดูเรียบง่าย แต่สถาปัตยกรรมภายในมีการตกแต่งสวยงามมาก กระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองบาเซิล (BASEL) (20 กิโลเมตร)

บาเซิล (BASEL)  / ชมเมือง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  PULLMAN BASEL EUROPE ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

3

วันที่สามของการเดินทาง

บาเซิล – ทิทิเซ่ – ชมเมือง – ไฟรบวร์ก – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ (TITISEE) (90 กิโลเมตร) เมืองเล็กๆริมทะเลสาบในเขตป่าดำ

ทิทิเซ่ (TITISEE) / ชมเมือง

ชื่อเต็มของเมืองนี้ คือ Titisee-Neustadt เป็นเมืองตากอากาศเล็กๆ ทางตอนใต้ของเยอรมัน ชื่อทิทิเซ่ เป็นชื่อของทะเลสาบเล็กๆ ที่มาจากชื่อของ จักรพรรดิโรมันองค์หนึ่ง คือ Titus ไฮไลต์ของเมืองนี้ นอกจากเป็นเมืองต้นกำเนิดของเค้กแบล็กฟอเรสต์รสเลิศแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิต นาฬิกากุ๊กกู ที่ดีที่สุดในโลก นาฬิกากุ๊กกูที่เมืองทิติเซ่ ถ้าเป็นของแท้จะทำจากไม้สนแกะสลักถ่วงด้วยตุ้มน้ำหนัก มีฟังก์ชันการทำงานทั้งตีบอกเวลาบางเรือนมีนกร้อง กล่องดนตรี ตุ๊กตาเต้นรำ และคนเลื่อยไม้ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวทิทิเซ่ นอกจากกุ๊กกูแฮนด์เมดแล้วตอนนี้กำลังมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง คือการเป็นเมืองรีสอร์ตสุขภาพ ในการรักษาโรคหัวใจที่ติดอันดับโลก อิมระให้เดินเล่ยเพลิดเพลินกับบรรยกาศริมทะเลสาบ พร้อมเลือกซื้อนาฬิกากุ๊กกูเป็นของฝากตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไฟรบวร์ก (FREIBURG) (90 กิโลเมตร)

ไฟรบวร์ก (FREIBURG)

เมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเขตป่าดำ (Sudschwarzwald) อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นบาเดน-เวือร์ทเทมแบร์กใกล้ชายแดนฝรั่งเศสและสวิส นอกจากขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์แบบป่าดำที่สวยงามแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีอากาศดีมีแดด และอบอุ่นที่สุดในเยอรมนีอีกด้วย เป็นเมืองเก่าที่ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1120 และเป็นหนึ่งในเมืองแห่งตลาดเสรีที่มีชื่อเสียง และมีความเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของประเทศ

ชมเมืองไฟรบวร์ก

จากนั้นนำท่าน เข้าชมความสวยงามของโบสถ์แห่งเมืองไฟรบวร์ก (Freiburg Muenster) เป็นโบสถ์ใหญ่ประจำเมืองที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 313 ปี และมีความสูงถึง 116 เมตร โบสถ์นี้รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ตัวเมืองถูกทำลายลงถึง 90% อิสระให้ท่านถ่ายภาพความสวยงามตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก DORINT THERMENHOTEL FREIBURG SPA & WELLNESS (CONFIRMED)

4

วันที่สี่ของการเดินทาง

ไฟรบวร์ก – ไกเซอร์สแบร์ก – ทุร์กไกม์ – อองกีไชม์ – กอลมาร์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ แคว้นอัลซาส (ALSACE) เพื่อนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านสวยไกเซอร์สแบร์ก(KAYSERSBERG) (65 กิโลเมตร)

หมู่บ้านไกเซอร์สแบร์ก (KAYSERSBERG)

เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายในช่วงสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย และยังเป็นสถานที่ผลิตไวน์ชั้นยอดของฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของนายแพทย์อัลแบรต์ ชไวต์เซอร์ (Albert Schweitzer) เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพอีกด้วย เดินทางถึง หมู่บ้านไกเซอร์สแบร์ก

เดินเล่นชมเมือง

นำท่านเดินเล่นชมเมืองสวยสไตล์อัลสาซที่ได้รับการ

โหวตให้เป็นหมู่บ้านสวยที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวฝรั่งเศสมากทีสุดในปี 2017 หมู่บ้านยุคกลางแห่งนี้มีชื่อเสียงจากความสวยงามของบ้านสไตล์ Half-Timbered ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามเส้นทาง อัลซาส และทางตะวันตกของเยอรมนี นำท่านเดิน ลัดเลาะในหมู่บ้านไปตาม ถนนหินขรุขระในบรรยากาศย้อนยุคที่ดูคลาสสิคทุกมุมมอง ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่มีสไตล์ภายในเมืองบวกกับความสวยงามของเส้นทางเดินเท้า และความเป็นมิตรของคนในท้องถิ่น จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดหมู่บ้านนี้จึงถูกใจชาวฝรั่งเศสด้วยกันมากที่สุด อิสระให้ท่านเดินเล่น และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพความสวยงามตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านทุร์กไกม์ (TURCKHEIM) (15 กิโลเมตร) อันเก่าแก่ตั้งอยู่บริเวณหุบเขา Münster Valley เพื่อนำท่านเดินเล่นชมเมืองที่ยังคงรักษาเสน่ห์ของยุคเก่าไว้ได้อย่างงดงาม

ทุร์กไกม์ (TURCKHEIM) / ชมเมือง เป็นหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองกอลมาร์มากนัก และผู้คนที่นี่จะมีอาชีพปลูกองุ่นเกือบทั้งหมู่บ้าน นำท่านเดินเล่นลัดเลาะไปตามถนนที่ปูด้วยหิน และสีสันของบ้านเรือนที่เรียงรายไปด้วยบานไม้สีสันสดใส โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ ป้อมปราการ ประตูเมืองที่ล้อมรอบเมืองเก่า โบสถ์สไตล์กอธิค และอาคารสไตล์บาร็อคที่งดงาม จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอองกีไชม์ (EGUISHEIM) (10 กิโลเมตร)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินเล่น และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพภายในหมู่บ้านอองกีไชม์ ตามอัธยาศัย

หมู่บ้านอองกีเชม (EGUISHEIM)

หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” ที่ได้รับความนิยมในหมู่นัก ท่องเที่ยวของแคว้นอัลซาสอีกด้วย เดินชมความงดงามไปตามถนนก้อนกรวดอันคดเคี้ยวของหมู่บ้านตื่นตาไปกับความงดงามของเหล่าอาคารบ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี  ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใสและชมลานน้ำพุที่สร้างในแบบเรเนสซองส์ อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่หลายคนอาจบ่นเสียดาย ถ้าหากไม่ได้ไปเยือน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (COLMAR) (10 กิโลเมตร)

กอลมาร์ (COLMAR)

เมืองเล็กๆอันเป็นเมืองบ้านเกิดของจิตรกร และช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์

บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รักมัก จะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกันด้วยบรรยากาศที่สวยงาม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ จึงทำให้เมืองกอลมาร์ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝันของใครอีกหลายคน  เดินทางถึง เมืองกอลมาร์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม THE GRAND BRISTIL, COLMAR. (CONFIRMED)

5

วันที่ห้าของการเดินทาง

กอลมาร์ชมเมือง – ปราสาทโอต์-โคนิกซ์บูร์ก – ริควีร์ – ชิมไวน์ – กอลมาร์

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่าน เพลิดเพลินกับการเดินเล่นชมเมือง และล่องเรือชมทัศนียภาพไปตามลำคลองของเมือง

กอลมาร์  / ชมเมือง / ล่องเรือ

นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกราบ้านช่องสวยงาม มีจุดเด่นอยู่ที่ความงามของดอกไม้ ที่มีอยู่ทั่วเมือง จัดเป็นอีก

เมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก จนได้รับการขนานนามว่าลิตเติ้ลเวนิซ ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรม และบรรยากาศของเมืองโบราณ มีบ้านเรือนที่สวยงาม และได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดีบ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า Colombage (ฝรั่งเศส)หรือFachwerkhaus (เยอรมัน) เป็นบ้านครึ่งไม้ซุงซึ่งเป็นแบบบ้านที่เป็นเอกลักษณ์และเห็นได้ทั่วไปในแคว้นอัลซาส ลักษณะพิเศษของบ้านจะขึ้นโครงบ้านด้วยไม้ทั้งหลังรวมทั้งหลังคาก่อน จากนั้นก็จะโบกปูนระหว่างช่องไม้แล้วทาทับด้วยสีสันสวยงามตามใจเจ้าของบ้าน เมืองนี้ยังมีคลองน้ำไหลผ่าน ซึ่งบริเวณนี้ถูกเรียกว่า Little Venice เป็นมุมบังคับที่นักท่องเที่ยวส่วนมากต้องมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก จนได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่าน เพลิดเพลินกับการเดินเล่นชมเมือง และล่องเรือชมทัศนียภาพไปตามลำคลองของเมือง

นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกราบ้านช่องสวยงาม มีจุดเด่นอยู่ที่ความงามของดอกไม้ ที่มีอยู่ทั่วเมือง จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก จนได้รับการขนานนามว่าลิตเติ้ลเวนิซ ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรม และบรรยากาศของเมืองโบราณ มีบ้านเรือนที่สวยงาม และได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดีบ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า Colombage (ฝรั่งเศส)หรือFachwerkhaus (เยอรมัน) เป็นบ้านครึ่งไม้ซุงซึ่งเป็นแบบบ้านที่เป็นเอกลักษณ์และเห็นได้ทั่วไปในแคว้นอัลซาส ลักษณะพิเศษของบ้านจะขึ้นโครงบ้านด้วยไม้ทั้งหลังรวมทั้งหลังคาก่อน จากนั้นก็จะโบกปูนระหว่างช่องไม้แล้วทาทับด้วยสีสันสวยงามตามใจเจ้าของบ้าน เมืองนี้ยังมีคลองน้ำไหลผ่าน ซึ่งบริเวณนี้ถูกเรียกว่า Little Venice เป็นมุมบังคับที่นักท่องเที่ยวส่วนมากต้องมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก จนได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอซวิลเย (Orschwiller) (30 กิโลเมตร) เมืองเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาในเขตเทือกเขาโวจส์ (Vosges) เพื่อนำท่าน เข้าชมปราสาทโอต์-โคนิกซ์บูร์ก (Chateau du Haut-Koenigsbourg) ปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาสูงที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้กลาย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญบนเส้นทางของแคว้นอัลซาส(Chateau du Haut-Koenigsbourg)เป็นปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1147 และในภายหลังปราสาทนี้ก็ตกเป็นของราชวงศ์ฮับสบูรก์ต่อมาทำสงครามรบกับสวีเดน และเป็นฝ่ายได้ชัยชนะและเผาปราสาทจนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากในปี 1633 หลังจากนั้นปราสาทก็ได้ถูกทิ้งร้างไว้นานนับร้อยปี กระทั่งปี 1862 ก็ได้รับเลือกเป็นอนุสรณ์สถานและกลับมาเป็นสมบัติของฝรั่งเศสในปี 1865 ต่อมาได้ให้บูรณะปราสาทแห่งนี้ครั้งใหญ่ โดยมอบหมายให้Bodo Ebhardt สถาปนิกฝีมือเยี่ยมดูแลตลอด 8 ปีเต็ม ตั้งแต่ปี 1900 – 1908 ซึ่งทำให้ปราสาทที่เคยถูกเผาแห่งนี้กลับมายิ่งใหญ่และตั้งตระหง่านบนเทือกเขาโวจส์ได้อีกครั้ง หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 สนธิสัญญาแวร์ซายส์กำหนดให้เมืองอัลซาสคืนกลับมาเป็นของฝรั่งเศส ปราสาทจึงกลับมาเป็นสมบัติของฝรั่งเศสในปี 1919 ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และเป็นมรดกสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเอย่างมาก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านริควีร์ (Riquewihr) (20 กิโลเมตร)

หมู่บ้านริควีร์ (Riquewihr) / ชิมไวน์

เป็นหมู่บ้านเล็กๆในชนบทตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นอัลซาส และเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส (Les plus beaux villages de France) เดินทางถึง หมู่บ้านริควีร์ นำท่าน เดินเล่นชมหมู่บ้านที่มีลักษณะบ้านเรือนคล้ายๆกับกอลมาร์ แต่บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆเต็มไปหมด นำท่าน ลองลิ้มชิมไวน์ที่ขึ้นชื่อของแคว้นได้จากที่นี่

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองกอลมาร์ (COLMAR) (15 กิโลเมตร) เพื่อนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม THE GRAND BRISTIL, COLMAR. (CONFIRMED)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

6

วันที่หกของการเดินทาง

กอลมาร์ – เซเลสแตท – ดามบาช ลา วิลล์  – โอเบอร์ไน – สตราสบูร์ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซเลสแตท (SELESTAT) (30 กิโลเมตร)

เซเลสแตท (SELESTAT)

เมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมมากมาย จึงถูกจัดให้เป็น “Ville d’Art et d’Histoire” (City of Art and History) ที่ได้รับรางวัลสามดาว “Ville Fleurie” ผ่านชม Maison du Pain d’Alsace พิพิธภัณฑ์กึ่งร้านขนมปังอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์อัลซาส อิสระให้ท่านเดินเล่นกับบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยเทศกาลและความรื่นเริงตามอัธาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองดามบาช ลา วิลล์ (DAMBACH-LA-VILLE) (10 กิโลเมตร)

ดามบาช ลา วิลล์ (DAMBACH-LA-VILLE)

เมืองที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 เป็นเมืองที่เก่าแก่มากที่สุดเมืองหนึ่ง สิ่งปลูกสร้างที่เด่นชัดคือประตูเมือง ศาลากว่าการเมืองที่สร้างในแบบเรอเนซองส์สมัยศตวรรษที่ 17, น้ำพุกลางเมืองในแบบสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ รวมถึงบ้านเรือนในสไตล์ half-timbered ที่ประดับด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอเบอร์ไน (OBERNAI) (25 กิโลเมตร)

โอเบอร์ไน (OBERNAI)

หนึ่งในเมืองที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงที่สุดในฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของเศรษฐกิจ ประชากร หรือการขยายอาณาเขตของเมือง ท่านจะพบกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในสมัยยุคโกธิคและเรอเนสซองส์บริเวณจัตุรัส Place du Marché ศูนย์รวมร้านค้าและอาคารเก่าแก่มากมาย รวมถึงศาลากลางที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-เรอเนสซองส์ และ Church of Saints Peter and Paul โบสถ์ที่มีการสร้างใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1867ด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค จนได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (STRASBOURG) (30 กิโลเมตร) เป็นเมืองหลวงของแคว้น อัลซาส ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำไรน์ บนพรมแดนติดกับประเทศเยอรมนีได้ชื่อว่าเป็นหัวใจของยุโรป

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม HILTON STRASBOURG ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

7

วันที่เจ็ดของการเดินทาง

สตราสบูร์ก – ชมเมือง – พระราชวังโรฮัน  – ห้องเก็บไวน์ – ช้อปปิ้ง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ชมเมืองสตราสบูร์ก

สตราสบูร์ก (STRASBOURG)

จากนั้นนำท่าน เดินเล่นชมย่านเมืองเก่าที่เรียกว่า LE PETITE FRANCE ผ่านชมมหาวิหารนอทเทรอดามที่ยิ่งใหญ่ (Strasbourg Cathedral) ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

พระราชวังโรฮัน (Palais Rohan)

พระราชวังโรฮันหรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Rohan Palace สถาปัตยกรรมแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างนาน 10 ปี โดยสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1732 – 1742  ออกแบบโดยนายโรเบิร์ต เดอ คอตเต (Robert de cotte) จัดเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อกที่งดงามที่สุดในสมัยศตวรรษที่ 18 ด้วยการตกแต่งตามแบบฝรั่งเศสอย่างแท้จริง ทำให้ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ขึ้นในปี  ค.ศ.1920 โดยกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส โครงสร้างส่วนใหญ่ของตัวอาคารทำจากหินทรายสีเหลือง และสีชมพู มีประติมากรรมรูปปั้นประดับอยู่ตามบนผนังกำแพงทางเข้าอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ประเทศฝรั่งเศสจำนวนหลายพระองค์ อาทิ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 (Louis XV), ราชินีมารี อองตัวแนต (Marie Antoinette),จักรพรรดินโปเลียน และเจ้าชายบิชอป ปัจจุบันได้กลายมาเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ต่างๆที่สำคัญในเมือง จากนั้นนำท่านชมความสวยงามตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  จากนั้นนำท่าน  ชมห้องเก็บไวน์ CAVE HISTORIQUE DES HOSPICES DE STRASBOURG

CAVE HISTORIQUE DES HOSPICES DE STRASBOURG

นำท่าน ชมห้องเก็บไวน์ของโรงพยาบาลเมืองสตราสบูร์ก ซึ่งมีประวัติยาวนานมากกว่า 600 ปี ซึ่งถือเป็นสถานที่ๆ ห้ามพลาด ท่านสามารถเลือกซื้อไวน์รสเลิศที่บ่ม และเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์ของโรงพยาบาล รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ไวน์อื่นๆ ที่มาจากพื้นที่การเกษตรของโรงพยาบาลในแคว้นอัลซาส ได้เวลาอันสมควร

ช้อปปิ้ง แกลเลอรี่ลาฟาแยต

จากนั้น ให้ท่าน ช้อปปิ้งอย่างจุใจ ณ ห้างแกลเลอรี่ลาฟาแยต (Galleries Lafayette) ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง และใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส เป็นห้างเก่าแก่อยู่คู่ฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 1893 มีสาขากระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ มีสินค้าแบรนด์เนม ให้เลือกซื้อหาหลากหลาย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม HILTON STRASBOUR ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

8

สตราสบูร์ก – สเปเยอร์ มหาวิหารสเปเยอร์ – ไฮเดลเบิร์กปราสาทไฮเดลเบิร์ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสเปเยอร์ (SPEYER) (120 กิโลเมตร) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ตอนบน (Rhine River) และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนี

สเปเยอร์ / ชมเมือง

เป็นเมืองที่มีโบสถ์ วิหารมากมาย โดยเฉพาะ มหาวิหารสเปเยอร์ (Speyer Cathedral) มหาวิหารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเมืองสเปเยอร์ ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้มหาวิหารแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี 1981 นำท่านเข้าชมภายในมหาวิหาร และเพลิดเพลินกับการเดินเล่นบนถนน Maximillian บริเวณหน้ามหาวิหาร มีร้านค้า ร้านกาแฟ เรียงรายอยู่มากมาย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก  (HEIDELBURG) (40 กิโลเมตร)

ไฮเดลเบิร์ก (HEIDELBERG) เป็นเมืองที่แสดงความ เป็นตัวตนของความเป็นเยอรมันโรแมนติกได้ดีที่สุด ตั้งอยู่บนชายป่าโอเดนวาลด์ (ODENWALD MOUNTAIN CHAIN) ที่ซึ่งแม่น้ำเนคการ์ (NECKAR RIVER) ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำไรน์ (RHINE RIVER) และตัวเมืองตั้งเด่นเป็นตระง่านอยู่บนเนินริมฝั่งแม่น้ำ ไฮเดลเบิร์กเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ของโกธิคสมัยกลาง และเคยถูกกองทัพฝรั่งเศสบุกเข้าทำลายเมื่อปีค.ศ 1689 และในปีค.ศ 1693 เดินทางถึง เมืองไฮเดลเบิร์ก

ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (HEIDELBER CASTLE)

ในอดีตเป็นป้อมปราการ และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทเมื่อปีค.ศ 1544 แม้ปราสาทแห่งนี้จะเคยถูกเผาและทำลายไปบ้างในสมัยสงคราม และก็ยังคงสภาพความสวยงามอยู่เหนือแม่น้ำเนคการ์ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ อิสระให้ท่านตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของปราสาท ถ่ายภาพความงดงาม พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำ และเมืองไฮเดลเบิร์ก ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่ท่านไม่ควรพลาด จนได้เวลาอันสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก NH COLLECTION HEIDELBERG ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

9

ไฮเดลเบิร์ก  – แฟรงค์เฟิร์ท – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – กรุงเทพ ฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) (90 กิโลเมตร)

แฟรงค์เฟิร์ต (FRANKFURT)

เมืองที่ได้รับการพัฒนาจนกลายมาเป็นชั้นแนวหน้าเมืองนานาชาติ เป็นที่ตั้งของโลกทางด้านเศรษฐกิจ ตึกสูงระฟ้าที่มีธนาคารต่างชาติ และสถาบันการเงินต่างๆตั้งอยู่ รวมไปถึงสถาบันทางการเงินมากมาย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเมืองแฟรงค์เฟิร์ต บริเวณจัตุรัสรือเมอร์ (ROMERBERG)

ชมเมืองแฟรงค์เฟิร์ต / ช้อปปิ้ง

ชมเมืองแฟรงค์เฟิร์ต บริเวณจัตุรัสรือเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง ศิลปะแบบโกธิค ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่าออสไซเล่อ”(OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเก็บได้ทุกรายละเอียด ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ย่านดัง Goethestrasse  อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

Goethestrasse

 Goethestrasse ถนนที่หรูหราที่สุดของแฟรงก์เฟิร์ต และมักเรียกกันว่า Luxusgasse (ถนนสุดเลิศหรู) ถนนสายนี้เปรียบได้กับร้านบูติกดีไซเนอร์ชั้นนำระดับโลกขนาดยักษ์ที่รวบรวมแบรนด์ต่างๆ เช่น Miu Miu, Tiffany, Cartier และ Gucci นอกจากนี้ถนนที่ใกล้กันนี้ ถนน Opernplatz ยังเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหลังจากช้อปปิ้ง ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งอย่างจุใจ

20.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923

10

กรุงเทพ ฯ

13.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…