ทัวร์ยุโรป : บอลติก ฟินแลนด์ – เอสโทเนีย – ลัตเวีย – ลิทัวเนีย 8 วัน (AY)
กำหนดการเดินทาง : 19 – 26 ตุลาคม 2562
ประเทศ : ฟินแลนด์ – เอสโทเนีย – ลัตเวีย – ลิทัวเนีย
สายการบิน : สายการบินฟินน์แอร์ (AY)
ราคา : 79,900 บาท
เฮลซิกิง – ปอร์วู – ทาลลินน์ – พระราชวังรันดาเล – ริก้า – ปราสาททราไค – วิลนีอุส
แนะนำเส้นทางที่ท่านจะต้องประทับใจตลอดการเดินทาง กับเส้นทางกลุ่มบอลติคที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี สวยงามกว่าที่ท่านคิด ดีกว่าหลายเมืองที่ท่านเคยไป
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพ ฯ – เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)
20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ทางเข้าที่ 4 แถว G เคาน์เตอร์สายการบินฟินน์แอร์ (AY) เจ้าหน้าที่จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
23.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดย สายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY 144
วันที่สองของการเดินทาง
เฮลซิงกิ – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง
05.55 น. เดินทางถึง ถึง กรุงเฮลซิงกิ (HELSINKI) ประเทศฟินแลนด์ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์เจ้าของนาม “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” นครลูกครึ่งที่มีประชากรกว่าสี่แสนคนที่นี่มีทั้งชาวฟินน์ และสวีดิช เนื่องจากฟินแลนด์เคยอยู่ในอารักขาของสวีเดนในอดีต ต่อมาในสมัยพระเจ้าชาร์ของรัสเซีย ได้ทรงขยายอำนาจเข้ามาในฟินแลนด์ และได้ย้ายเมืองหลวงมาตั้งอยู่ที่เฮลซิงกินับแต่นั้นมา หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย
จากนั้นนำท่าน ชมกรุงเฮลซิงกิเมืองหลวงของประเทศฟินน์แลนด์ ที่มีเอกลักษณ์ของตนเองท่านจะประทับใจไปกับสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียที่จัตุรัสหน้าโบสถ์ อันเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลออสการ์เรื่อง “เรดส์” โดยใช้ฉากมโหฬารของเฮลซิงกิแทนกรุงเลนินกราดในสหภาพโซเวียต
ถ่ายภาพกับมหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) ซึ่งในอดีตเรียกว่า โบสถ์นิโคลัส เป็นมหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ตั้งเด่นตระหง่านจนเรียกว่าเป็นจุดแลนด์มาร์กของเฮลซิงก็ว่าได้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่งดงามคลาสสิคอย่างยิ่ง ได้เวลาอันสมควร
นำท่าน ถ่ายภาพกับน้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก (Havis Amanda) ถือว่าน้ำพุแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเฮลซิงกิ และเป็นที่มาของฉายานาม ธิดาแห่งทะเลบอลติก อีกด้วยน้ำพุ แห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908และได้รับการออกแบบโดย นายวิลเลย์วาเกน โดยได้ทำการปั้นรูปปั้นสาวงามว่าให้นางเป็นตัวแทนของเฮลซิงกิ ส่วนบอลติกก็คือคาบสมุทรที่เมืองนี้ตั้งอยู่นั่นเองนอกจากน้ำพุแห่งนี้จะเป็นที่นิยมของการมาถ่ายรูปคู่ด้วยแล้ว ก็ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับน้ำพุแห่งนี้ด้วยว่าสาวงามผู้นี้ยังเป็นตัวแทนเสี่ยงทายสำหรับนักเรียน และนักศึกษา ที่ว่ากันว่าหากใครสามารถโยนหมวกขึ้นไปสวมบนศีรษะของสาวงามได้ก็จะมีอนาคตทางหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้า ได้เวลาอันสมควร
นำท่าน ถ่ายภาพกับอนุสาวรีย์ชองเซเบลลุส (Sibelius Monument) ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า กระทั่งได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ TEMPPELIAUKIO CHURCH หรือ ROCK CHURCH เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแปลกกว่าที่อื่น โดยแต่เดิมพื้นที่ของโบสถ์นี้เป็นเนินเขาและผู้ออกแบบได้ใช้วิธีสร้างโบสถ์ที่น่าสนใจ คือระเบิดเนินหินตรงกลาง เพื่อสร้าง โบสถ์ในนั้น โบสถ์นี้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น โบสถ์แห่งความรัก และมีความเชื่อว่าเมื่อใครก็ตามจุดเทียนอธิฐานเรื่องเกี่ยวกับความรักในโบสถ์นี้แล้วจะสมหวังในสิ่งที่อธิษฐาน คนฟินแลนด์มีความเชื่อเรื่องนี้เนื่องจากโบสถ์นี้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511และเสร็จเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป และนั่นคือสาเหตุที่หนุ่มสาวชาวเฮลซิงกินิยมเลือกมาจัดงานแต่งงานกันที่โบสถ์แห่งโดยโบสถ์แห่งนี้ยังเป็นหนึ่งใน “Helsinki’s most popular tourist attractions” อีกด้วย กระทั่งได้เวลาอันสมควร จากนั้นอิสระให้ท่าน ช้อปปิ้งบริเวณถนนเอสปลานาดิ (Esplanadi) ย่านถนนคนเดินสำหรับนักช้อปที่ต้องไม่พลาดมาเยือน เป็นแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองซึ่งมีทั้งสินค้าพื้นเมือง จากนั้นอิสระให้ท่าน ช้อปปิ้งบริเวณห้างสรรพสินค้าสต๊อกแมนน์ (STOCKMANN) ห้างใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย ได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม GLO ART ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่สามของการเดินทาง
เฮลซิงกิ – ทาลลินน์ (เอสโทเนีย) – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ
10.30 น. นำท่าน นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามทะเลบอลติก มุ่งหน้าสู่ เมืองทาลลินน์ (TALLINN) ประเทศเอสโทเนีย เมืองหลวงของเอสโทเนียประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่งริมทะเลบอลติก หรือทะเลเหนือ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
12.30 น. เรือเทียบท่า เมืองทาลลินน์ (TALLINN) ประเทศเอสโทเนีย
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตนำท่าน
จากนั้น ชมเมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโทเนีย ซึ่งผ่านการครอบครองโดยหลายเชื้อชาติในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเดนมาร์ค สวีเดน รัสเซีย และได้เป็นไทแก่ตัวจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1994 ชมจัตุรัสเมืองเก่าของทาลลินน์ (TALLINN OLD TOWN SQUARE) ย่านศูนย์กลางของเมืองในอดีตเป็นสถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ใช้เป็นที่เฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆของเมือง รวมทั้งเป็นที่ประหารชีวิตนักโทษอีกด้วย ผ่านชมศาลาว่าการเมืองทัลลิน (TALLIN’S TOWN HALL) เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิคและเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมือง ศาลาว่าการเมืองทาลลินน์นี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสเมืองเก่า สร้างขึ้นเมื่อสมัยศตวรรษที่ 13 และเพิ่งฉลองครบรอบ 600 ปีไปเมื่อปี ค.ศ. 2004
ถ่ายภาพกับโบสถ์อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้ (ALEXANDER NEVSKY CATHEDRAL) โบสถ์ใหญ่ที่มียอดโดมใหญ่ที่สุดในเมืองทาลลินน์เป็นโบสถ์คริสต์ออร์โธด็อกซ์ที่สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1900 ในช่วงที่เอสโทเนียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิซาร์แห่งรัสเซีย สถาปนิกผู้ออกแบบโบสถ์แห่งนี้ก็คือ MIKHAIL PREOBRAZHENSKI
จากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โบสถ์นี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ยาโรสลาวิทซ์ เนฟสกี้ (PRINCE ALEXANDER YAROSALVITZ NEVSKY) ด้านบนของโบสถ์ท่านจะพบกับหอระฆังใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยระฆังถึง 11 อัน รวมถึงอันที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซึ่งมีน้ำหนักถึง 15 ตัน ได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม HESTIA EUROPA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง
ทาลลินน์ – โบสถ์เซนต์เบอร์กีต้า – พาร์นู – ริก้า (ลัตเวีย)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน ผ่านชมชายหาด Pirita ชายหาดตากอากาศที่มีหาดทรายสีขาวยาว 3 กิโลเมตรอยู่ในเขต Pirita linnaosa (Pirita District) 1 ใน 8 เขตปกครองของทาลลินน์ แหล่งพักผ่อนตากอากาศในฤดูร้อน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวเมือง มีทั้งบ้านพักตากอากาศ ท่าเรือยอร์ชป่าสน สวนพฤกษศาสตร์ และศูนย์กีฬาขนาดใหญ่ ผ่านชมโบสถ์เซนต์เบอร์กีต้า (ST.BIRGITTACONVENT) ถูกสร้างขึ้นในปี 1436 แม้ในปัจจุบันจะไม่สามารถบูรณะซากปรักหักพังให้ได้คงเดิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองพาร์นู (PARNU) (135 กิโลเมตร) เป็นเมืองท่าทางทะเลของประเทศเอสโตเนีย บนอ่าวพาร์นู เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมท่องเที่ยวในฤดูร้อน มีรีสอร์ต โรงแรม ร้านอาหาร และชายหาดหลายแห่ง ตั้งเป็นเมืองราวปี 1251 โปแลนด์ได้ยึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1561 ต่อจากนั้นสวีเดนได้ยึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1629 และรัสเซียเข้ายึดครองระหว่างปีค.ศ. 1710-1918 เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ท ตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของเอสโตเนีย ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน เมืองพาร์นูจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย เดินทางถึง เมืองพาร์นู
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองริก้า (RIGA) (180 กิโลเมตร) เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย ตั้งอยู่ริมทะเลบอลติก เป็นเมืองที่มีส่วนผสมของอิทธิพลแบบลัตเวียน รัสเซียน และเยอรมันรวมกันโดยมีหลักฐานการอยู่อาศัยของชาวเยอรมันในช่วง 6 ศตวรรษแรกของการค้นพบเมืองริก้าในปี ค.ศ. 1158 และหลังจากนั้นก็ได้ไปตกอยู่ภายใต้การปกครองของโปแลนด์ สวีเดน และรัสเซียตามลำดับ และบริเวณย่านเมืองเก่าของเมืองริก้ายังได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1977 อีกด้วย เดินทางถึง เมืองริก้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RADISSON BLU LATVIJA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง
ริก้า – พระราชวังรันดาเล – ริก้า – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังรันดาเล (RUNDALE PALACE) (80 กิโลเมตร) พระราชวังที่ตั้งอยู่ในเขต BAUSKA REGION อยู่ห่างจากเมืองริก้าไปประมาณ 65 กิโลเมตร สร้างและออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลีชื่อ FRANCHESCO BARTOLOMEO RASTRELLI ซึ่งเป็นคนเดียวกับคนออกแบบพระราชวังฤดูหนาวในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของประเทศรัสเซีย สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1736 และสร้างเสร็จเมื่อปี 1740 โดยเจ้าของคนแรกของพระราชวังแห่งนี้ก็คือ ERNST JOHAN BIRON สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงจักรพรรดินีแห่งรัสเซียชื่อ ANNA JAONOVNA พระราชวังแห่งนี้มีทั้งหมด 138 ห้อง ล้อมรอบไปด้วยสวนแบบบาร็อคที่งดงาม ได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองริก้า (RIGA) นำท่าน ชมเมืองริก้า ผ่านชมอนุสาวรีย์อิสรภาพ (FREEDOM MONUMENT) อนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองริก้า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1935 ในช่วงของการเรียกร้องอิสรภาพของประเทศลัตเวียระหว่างปีค.ศ. 1918 – 1940 โดยมีชื่อเรียกหญิงสาวคนนี้ว่า “MILDA” โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ออกแบบโดย ERNESTS SHTALBERGS มีความสูงประมาณ 42 เมตร ด้านบนประดับด้วยรูปปั้นของหญิงสาวที่ถือดาว 3 ดวงไว้ ซึ่งสื่อความหมายถึงภูมิภาคทั้งสามของประเทศลัตเวีย นั่นก็คือ KURZEME, VIDZEME และ LATGALE ในช่วงเปเรสตรอยก้า (PERESTROIKA) อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ หลักสำหรับชุมนุมเรื่องการเมืองในปี1994 อดีต ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาบิล คลินตันได้ใช้สถานที่แห่งนี้ประกาศสนับสนุนการเรียกร้องอิสรภาพของภูมิภาคบอลติกในนามของอเมริกาอีกด้วย
ถ่ายภาพกับโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (ST.PETER’S CHURCH) หนึ่งในโบสถ์กอธิคที่สำคัญสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองริก้า ในอดีตโบสถ์แห่งนี้มีชื่อว่า “โบสถ์พ่อค้า” (MERCHANTS CHURCH) เนื่องจากเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดประชุมของเหล่าพ่อค้าในยุคนั้นๆโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ เป็นโบสถ์แบบกอธิคมาจนถึงปี ค.ศ. 1523 จนกระทั่งถึงช่วงการเปลี่ยนนิกาย
จากคาทอลิกมาเป็นแบบลูเธอรัน โบสถ์แห่งนี้จึงเปลี่ยนมาเป็นโบสถ์สไตล์บาร็อคแทน ได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RADISSON BLU LATVIJA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่หกของการเดินทาง
ริก้า – ชัวเลย์ (ลิทัวเนีย) – เนินเขาไม้กางเขน – วิลนีอุส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชัวเลย์ (SIAULIAI) (135 กิโลเมตร)
เพื่อนำท่านชมความงดงามแบบมีมนต์ขลัง ณ เนินเขาไม้กางเขน (Hill of Crosses) เป็นสถานที่ที่มีไม้กางเขนจำนวนนับแสนชิ้นถูกนำมาปักไว้รวมกัน เล่ากันว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากการปักไม้กางเขนหลังการประท้วงของกลุ่มชาวนาในช่วงปี 1831-1863 และหลังจากนั้นเมื่อใดที่มีสงคราม เมื่อใดที่เกิดการต่อสู้ และเมื่อใดที่ชาวเมืองรวมตัวเรียกร้องสิทธิเสรีภาพก็จะพากันนำไม้กางเขนหลากหลายขนาดมาวางไว้แทนสัญลักษณ์แห่งการเรียกร้องนั่นเอง ปัจจุบันนี้ชาวลิทัวเนีย และชาวคริสต์จากทั่วโลกเมื่อมาเที่ยวชมบริเวณเนินเขาไม้กางเขนแห่งนี้ก็จะอธิษฐานขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสมอ การชมเนินเขาไม้กางเขนจะให้ความรู้สึกต่างกันมากระหว่างช่วงกลางวัน และกลางคืน อิสระให้ท่านถ่ายภาพ และเดินชมความหลากหลายของไม้กางเขนทีละชิ้นจะเห็นได้ว่ามีทั้งชิ้นใหญ่ และชิ้นเล็ก ตลอดทางเดินและบันไดทอดกลางเนินเขาละลานตลอดข้างทาง จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองวิลนีอุส (VILNIUS) (230 กิโลเมตร) เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าใหญ่ และสวยงามที่สุดของประเทศลิทัวเนีย ค้นพบในปีค.ศ. 1323 ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำวิลเนีย และแม่น้ำเนริส อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ. 1994 อีกด้วย เดินทางถึง เมืองวิลนีอุส จากนั้นนำท่าน เดินเล่นบริเวณถนนคนเดิน Pilies เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายของที่ระลึก และคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ตลอดสองฝากฝั่งถนนก็เต็มไปด้วยร้านค้าขายของ ที่ระลึก หากมาเที่ยวเมืองแถบบอลติก ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะซื้ออำพัน (Amber) สินค้าขึ้นชื่อซึ่งมีราคาไม่แพง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน กระทั่งได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RADISSON BLU LIETUVA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
วิลนีอุส – ชมเมือง – ทราไค – ปราสาททราไค – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน ชมย่านเมืองเก่าของเมืองวิลนีอุส (VILNIUS OLD TOWN) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเขตเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในเขตยุโรปกลาง มีตึกอาคารเก่าแก่งดงามที่ย้อนยุคไปในช่วงศตวรรษที่ 15 – 16 นำท่าน แวะถ่ายภาพกับประตูเมืองวิลนีอุส (Gate of Dawn) เป็นประตูเมืองเก่าทางทิศใต้ที่หลงเหลือเพียงแห่งเดียวในเมือง เพราะผลจากการถูกทำลายในช่วงสงคราม
จากนั้นนำท่าน เข้าชมมหาวิหารแห่งวิลนีอุส (Vilnius Cathedral) ซึ่งเป็นมหาวิหารสำคัญของเมือง หากใครมาเที่ยวเมืองวิลนีอุสแล้วไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน โดยมหาวิหารเดิมถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1251 ในสไตล์โกธิค แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1387 และได้มีการปรับให้เป็นแบบสไตล์คลาสสิก เนื่องจากได้ถูกทำลายในสมัยสตาลิน ช่วงที่สหภาพโซเวียตเรืองอำนาจ แต่ตอนหลังชาวเมืองได้บูรณะใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ภายในมหาวิหาร มีภาพเก่าแก่ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 14 ซึ่งถือได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในลิทัวเนียอีกด้วย บริเวณลานกว้างของมหาวิหาร ท่านจะพบกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์องค์แรก และองค์เดียวของวิลนีอุสพระนามว่า พระเจ้าเกดิมินัส (Gediminas Grand Duke of Lithuania) ได้ทรงย้ายเมืองหลวงเดิมจากเมืองทราไค (Trakai) มาเป็นวิลนีอุส เนื่องจากทรงพระสุบินว่า ได้เห็นสุนัขจิ้งจอกเหล็กมาบอกให้สร้างเมืองใหม่ใกล้กับแม่น้ำวิลเนีย พอหลังตื่นจากพระบรรทม พระเจ้าเกดิมินัส ก็ได้ออกมาสำรวจตรงสถานที่ตามนิมิต พบว่าเป็นตำแหน่งที่มีชัยภูมิที่ดีต่อการป้องกันข้าศึกศัตรู พระองค์จึงทรงตัดสินใจ ย้ายราชธานี และสร้างความเจริญให้กับวิลนีอุสจวบจนถึงปัจจุบัน อิสระให้ท่านถ่ายภาพความสวยงามตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทราไค (TRAKAI)(30 กิโลเมตร) เมืองเก่าแก่ที่มีประชากรจากหลายเชื้อชาติมาอยู่รวมกัน อาทิ ลิทัวเนียนโดยแท้ รัสเซียน ทาทาร์ จิวซ์ และโปลซ์ เป็นต้น เป็นเมืองพักตากอากาศติดริมทะเลสาบที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกเมืองหนึ่งของประเทศลิทัวเนียอีกด้วย เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยทะเลสาบมากกว่า 200 แห่งโดยเฉพาะทะเลสาบ GALVE ทะเลสาบที่มีความลึกที่สุด และยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติทางประวัติศาสตร์ของเมืองทราไค (TRAKAI HISTORICAL NATIONAL PARK) อีกด้วย ถึง เมืองทราไค
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่าน เข้าชมปราสาททราไค (TRAKAI CASTLE) หรือ “LITTLE MARIENBURG” ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเกาะริมทะเลสาบ GALVE เป็นปราสาทที่สร้างจากหินล้วนๆ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่14 และก่อสร้างเสร็จสิ้นในปีค.ศ. 1409 โดยจักรพรรดิ VYTAUTAS ผู้ที่ต่อมาได้เสียชีวิตลงภายในปราสาทแห่งนี้ในปีค.ศ. 1430
จากนั้นมาเมืองทราไคจึงกลายเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของลิทัวเนียมาตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน อิสระให้ท่านชมความงดงามของปราสาท และชื่นชมกับธรรมชาติของวิวทิวทัศน์ที่ท่านจะต้องประทับใจมิรู้ลืม จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
18.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเฮลซิงกิ โดย สายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY 1106
19.20 น. เดินทางถึง สนามบินเฮลซิงกิ
วันที่แปดของการเดินทาง
กรุงเทพฯ
00.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY 143
14.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..
หมายเหตุ : บริษัทฯ ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงราคากรณี ผู้ร่วมเดินทางน้อยกว่า 20 ท่าน
: เนื่องจากเป็นการวางซีรีส์ทั้งปี รายการและราคาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนกรุณาเช็ครายละเอียด
ทุกกรุ้ป ก่อนตัดสินใจทำการจองหรือวางเงินมัดจำ
อัตรานี้รวม · ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นทัศนาจรตามที่ระบุในรายการ
- ค่าโรงแรมที่พักที่ระบุในรายการ / ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ / ค่าวีซ่า
- ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญงาน คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
- ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์
- ค่าทิปคนขับรถ 2 ยูโร / คน / วัน
- น้ำดื่มบนรถ วันละ 1 ขวด / คน / วัน
- ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรมที่พัก IN/OUT @ 1 ใบ / 1 ท่าน
อัตรานี้ไม่รวม · ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้ระบุในรายการ
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % / ทิปหัวหน้าทัวร์คนไทย
การจอง และชำระเงิน กรุณาส่งสำเนา PASSPORT หน้าแรก แฟกซ์มายังบริษัทฯ พร้อมชำระเงินค่ามัดจำ
ท่านละ 30,000 บาท สำหรับส่วนที่เหลือทั้งหมด กรุณาชำระก่อนการเดินทาง 30 วัน
( หากไม่ชำระภายในเวลาที่กำหนด ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ยินดีให้บริษัทฯทำการยกเลิกและยินยอมให้ยึดเงินมัดจำทันที)
***** กรณีที่ยังไม่ทราบผลวีซ่าก่อนการเดินทาง 15 วันทำการ
ทางบริษัทฯ ขออนุญาตเก็บค่าทัวร์ที่เหลือทั้งหมดก่อน ตามเงื่อนไขการชำระเงิน *****
การไม่รับจองทัวร์ : บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับจองทัวร์สำหรับลูกค้าดังต่อไปนี้
- เด็กที่มีอายุระหว่างแรกเกิดถึง 2 ขวบ
- ผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นต้องใช้วีลแชร์ หรือ ไม้เท้า
- ผู้เดินทางที่บ่งบอกการเป็นบุคคลไร้ความสามารถ
หมายเหตุ · บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย
จนไม่อาจแก้ไขได้ โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
- หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์ และจะไม่
รับผิดชอบต่อค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้ว ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
- รายการนี้เป็นเพียงการเสนอราคาที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรอง
ที่นั่งกับสายการบินและโรงแรมที่พักอย่างไรก็ตามรายการนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
- สตรีมีครรภ์ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อการตรวจสอบขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีเกิดความเสียหาย หรือสูญหาย สำหรับกระเป๋าเดินทาง
กระเป๋าใบเล็ก หรือของมีค่าส่วนตัวของท่านระหว่างการเดินทาง
การยกเลิก *** กรณีที่ท่านจองและจ่ายค่ามัดจำแล้วมีการยกเลิก (ก่อนเงื่อนไขตามกำหนดวันที่ทำการยกเลิก
ด้านล่าง) บริษัทฯ ขอคิดค่าทำงานท่านละ 1,000.- บาท พร้อมด้วยค่าใช้จ่ายอย่างอื่นตามความเป็นจริง (ถ้ามี) ***
- ยกเลิกก่อน 31-60 วันทำการ เก็บ 50% ของค่ามัดจำทั้งหมด
- ยกเลิกก่อน 15-30 วันทำการ เก็บค่ามัดจำทั้งหมด
- ยกเลิกก่อน 8-14 วันทำการ เก็บ 50% ของค่าทัวร์ทั้งหมด
- ยกเลิกก่อน 1-7 วันทำการ เก็บ 100% ของค่าทัวร์ทั้งหมด
( หมายเหตุ : บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ยกเว้นเงื่อนไขในการยกเลิกการเดินทางตามกำหนดวันที่ระบุข้างต้น
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ และขอคิดค่าใช้จ่ายในการยกเลิกตามความเป็นจริง
เนื่องจากเป็นช่วง Peak Period ทางโรงแรม , สายการบิน และบริษัทรถโค้ช ฯลฯ ค่อนข้างแน่น
และเรียกเก็บค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 100% ซึ่งไม่สามารถทำการยกเลิกได้ )
การโอนเงิน ผ่านธนาคาร บริษัท เร้นจ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แทรเวล จำกัด
ธนาคารกรุงเทพฯ / สาขาโชคชัย 4 / บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 230-0-19191-9
เมื่อท่านจองทัวร์และชำระค่ามัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในเงื่อนไขและรายละเอียดที่ทางบริษัทแจ้งไว้ทั้งหมด |
*** บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ อันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน เหตุการณ์ทางการเมือง
สภาพดินฟ้าอากาศ การปฏิเสธการเข้าเมือง การโดนกักตัว หรือถูกส่งตัวกลับ โดยการพิจารณาของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้บริษัทฯ จะยืดถือผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ***