14 – 24 ก.ค / 28 ก.ค – 07 ส.ค. / 12 – 21 ส.ค.  08 – 18 ก.ย. / 06 – 16 ต.ค. 2565
วันเดินทาง
การบินไทย (TG)
สายการบิน
สวิตเซอร์แลนด์
ประเทศ

ทัวร์ยุโรป : GREAT EXPERIENCE IN SWISS 11 วัน (LX)

กำหนดการเดินทาง : 14 – 24 ก.ค / 28 ก.ค – 07 ส.ค. / 12 – 21 ส.ค.  08 – 18 ก.ย. / 06 – 16 ต.ค. 2565

ประเทศ : สวิตเซอร์แลนด์

สายการบิน : สวิส เที่ยวบินที่ LX 181

ราคา :  241,800 บาท

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

วันแรกของการเดินทาง

กรุงเทพฯ – ซูริค

11.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบินสวิส (LX) เจ้าหน้าที่

จากบริษัทเร้นจ์ฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อน

13.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซูริค โดย สายการบินสวิส เที่ยวบินที่ LX 181

19.35 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  RADISSON BLU ZURICH AIRPORT  ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

2

วันที่สองของการเดินทาง

ซูริค – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง – หมู่บ้านแอพเพนเซล – แซงต์ กัลเลน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ชมเมือง และเพลิดเพลินกับการช้ออปิ้งในเมืองซูริค

/

ซูริค (ZURICH) / ชมเมือง / ช้อปปิ้ง

เมือง ซูริค (Zurich) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิส และมีแม่น้ำลิมมัตเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด เมืองซูริคไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ ธนาคาร และวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย พร้อมนำท่านชมเมือง

ถ่ายภาพกับมหาวิหารคู่บ้านคู่เมือง กรอส มุนเตอร์ (GROSSMUNTE CHURCH) ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองซูริค ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของ

ซูริค ถัดไปไม่ไกล ท่านจะพบกับโบสถ์อีกแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า PETERSKIRCHE โดย ด้านบนสุดของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นเป็นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ติดอันดับ หน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งบริเวณ ถนน BAHNHOFSTRASSE ย่านช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดในเมืองซูริค และใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ถนนสายนี้ไม่ใช่ถนนสายที่ดีที่สุดในสวิสอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นถนนที่ดีที่สุดในยุโรปด้วย อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านแอพเพนเซล (APPENZELL) (100 กิโลเมตร) ซึ่งตั้งอยู่ในมลรัฐ

Appenzell Innerrhoden

หมู่บ้านแอพเพนเซล (APPENZELL)

เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่า “ประตูสู่เทือกเขาแอลป์” เป็นหมู่บ้านชนบทเล็กๆน่ารัก ร่มรื่นและเงียบสงบที่ยังอนุรักษ์วัฒนธรรม และประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณอยู่ บ้านเรือนก็ยังคงสไตล์ดั้งเดิม ซึ่งมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวด้วยจั่วหน้าบ้านลักษณะโค้งมน และหลังคาที่ทำจากกระเบื้องที่มีชื่อเสียง แถมยังมีสีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเมือง ภายในหมู่บ้านจะพบกับโบสถ์คริสต์เก่าแก่ที่ถูก สร้างขค้นเมือ่ปีค.ศ. 1071 ที่อุทิศให้กับ St. Maurice ปราสาทเก่าที่เป็นของตระกูล Sutter หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงมีการอนุรักษ์เทศกาลต้อนวัวอยู่ ของที่ระลึกที่ขึ้นชื่อของที่นี่จึงเป็นกระดิ่งคอวัวให้นักท่องเที่ยวซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึก อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องชีสและเบียร์ที่รสชาติเยี่ยมยี่ห้อเดียวกับชื่อเมืองอีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองแซงต์ กัลเลน (ST. GALLEN) (25 กิโลเมตร) เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ทาง  ตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์

แซงต์ กัลเลน (ST. GALLEN)

เป็นเมืองเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม เมืองนี้ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 และยังได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกด้วย นำท่านชมเขตเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนเป็นแบบเฉพาะในสไตล์บาร็อค ถ่ายภาพกับมหาวิหารเซนต์ กัลเลน (Stiftskirche St.Gallen Cathedral) เป็นมหาวิหารอารามหลวงทรงหอคอยคู่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983 ถนน Multergasse ถนนช้อปปิ้งสายหลักของเมือง ที่มีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านนาฬิกา ร้านเสื้อผ้า และของที่ระลึกต่างๆ ถนน Spisergasse อีกหนึ่งถนนสายช้อปปิ้งที่มีอาคารบ้านเรือนสไตล์บาร็อคสวยๆ ตลอดทั้งถนน และบริเวณโซนสีแดง “Stadtlounge” (Red Carpet) จุดนั่งเล่นพักผ่อนแบบปูพรมแดงเก๋ๆๆที่ไม่ควรพลาด

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RADISSON BLU  ST. GALLEN ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

3

วันที่สามของการเดินทาง

แซงต์ กัลเลน – กิจกรรม HILKING  ชมวิวหุบเขาอีเบนนาลพ์  ฟลิมส์

เช้า นอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานี Wasserauen-Ebenalp  (25 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นจุดที่สามารถนำท่าน

นั่งกระเช้าขึ้นไปบนหุบเขาอีเบนนาลพ์ (Ebenalp)

HIKING หุบเขาอีเบนนาลพ์ (Ebenalp)

หุบเขาอีเบนนาลพ์ (Ebenalp) อยู่ทางตอนเหนือสุดของ Alpstein และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,644 เมตร โดยการขึ้นกระเช้าจากสถานีในหมู่บ้าน Wasserauen สู่ ยอดเขาอีเบนนาลพ์ (Ebenalp) (โดยกระเช้าจะมีทุก 15 นาที ใช้เวลาเพียง 6 นาที ก็ถึงยอดเขา) สัมผัสบรรยากาศบนยอดเขาอันเงียบสงบ ในวันที่ท้องฟ้าเปิดจะเห็นชาวสวิสมากระโดดร่มกันจากบนยอดเขานี้ ไฮไลท์ของ ของที่นี่ คือการได้ไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ของโรงแรมริมหน้าผา (Aescher hotel) เป็นหนึ่งในภาพโปสการ์ดของสวิส หนึ่งในโรงแรม Unseenที่ถูกเผยแพร่มากที่สุดในโลก โรงแรมนี้มีลักษณะพิเศษเนื่องจากตัวโรงแรมนั้นจะตั้งอยู่ริมหน้าผา บนภูเขาสูง 1,454 เมตร ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบ และทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นช่วงขาลง นำท่านทำกิจกรรม HIKING ลงมาที่ทะเลสาบ Seealpsee ซึ่งเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่ไม่ค่อยเหนื่อยมากนักโดยระหว่างทาง ผ่านถ้ำโบสถ์คริสต์ (Wildkirchli) และถ่ายภาพความสวยงามของวิวทะเลสาบ Seealpsee ที่รายล้อมด้วยเทือกเขาสูงชัน *** ใช้เวลาเดินลงประมาณ 3 ชั่วโมง (5.4 กม.) ***

** หากไม่ต้องการทำกิจกรรม HIKING ช่วงขาลง ท่านสามารถนั่งกระเช้าลงมารอกรุ๊ปที่สถานี Wasserauen ได้เช่นกัน **

*** หมายเหตุ *** ท่านที่เดินลงเส้นทางนี้ควรมีความฟิตของร่างกายระดับปานกลาง เครื่องกันหนาวตามฤดูกาลและที่สำคัญมาก คือ ร้องเท้าสำหรับเดินเขาที่กันลื่นได้ดี และช่วยลดแรงกระแทก

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่  เมืองฟลิมส์ (FLIMS) (100 กิโลเมตร)

ฟลิมส์  (FLIMS)

เมืองฟลิมส์ (FLIMS) เมืองเล็กๆในเขต Graubünden ภูมิประเทศในเขตนี้เกิดจากภัยธรรมชาติ ที่รู้จักกันในนาม FLIMS ROCKSLIDE ทำให้เกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตา และยังเป็นสวรรค์ของการพักผ่อนสำหรับชาวสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม WALDHAUS FLIMS ALPINE GRAND HOTEL AND SPA หรือเทียบเท่า

4

วันที่สี่ของการเดินทาง

ฟลิมส์ – หุบเขาเวียมาลา – เซนต์มอริทซ์ – นั่งรถม้าชิมวิว – ชมเมือง

 เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาเวียมาลา (VIAMALA GORGE) (35 กิโลเมตร)

หุบเขาเวียมาลา (VIAMALA GORGE)

หุบเขาเวียมาลา (VIAMALA GORGE) หุบเขาลึกลงไป กว่า 300 เมตร อดีตใช้เป็นที่สัญจรของพ่อค้าจากทางเหนือและใต้ของประเทศ

แต่ปัจจุบันเป็นจุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวให้ได้มาสัมผัสความงดงามของหุบเขาเวียมาลาแห่งนี้ อีกทั้งยังมีสะพานเก่าแก่ที่สร้างในปี 1739 ตั้งอยู่ภายในหุบเขา อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเส้นทางผ่านบันไดกว่า 300 ขั้นเพื่อชมความน่าอัศจรรย์ของหุบเขาเวียมาลา

จากนั้นออกเดินทางสู่เมือง เซนต์มอริทซ์ (ST.MORITZ) (65 กิโลเมตร)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน ถ่ายรูปความงดงามของทะเลสาบเซนต์มอริทซ์ (LAKE ST.MORITZ) โดยการนั่งรถม้าชมวิวไปตามริมทะเลสาบ ซึ่งหากท่านมาในช่วงฤดูร้อนจะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกต

จากนั้นให้ท่านได้พักผ่อนอิริยาบถ โดบการเดินเล่นชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจภายในเมืองหรือริมทะเลสาบเซนต์มอริทซ์ตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม LAUDINELLA หรือเทียบเท่า

5

วันที่ห้าของการเดินทาง

เซนต์มอริทซ์ – ลูกาโน่ ล่องเรือ ชมเมือง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูกาโน่ (LUGANO) (180 กิโลเมตร) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐตีชีโน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนติดกับประเทศอิตาลี

ลูกาโน่ (LUGANO)

ลูกาโนกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญในทุกช่วงฤดู ตัวเมืองถูกล้อมรอบไว้ด้วยภูเขา ที่สำคัญยังตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูกาโน ที่นี่จึงเป็นเมืองที่ทั้งน่ารักและสุนทรีย์เมืองหนึ่ง จึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางถึง เมืองลูกาโน่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่าน ชมเมือง และล่องเรือริมทะเลสาบลูกาโน

ลูกาโน / ล่องเรือ / ชมเมือง

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือริมทะเลสาบลูกาโน พบกับภาพความงดงามของลูกาโนที่ค่อยๆ เป็นภาพที่คมชัดขึ้นเรื่อยๆว่า ลูกาโนเป็นเมืองสุนทรีย์ริมทะเลสาบ ซึ่งทุกอย่างไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย จนได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่าน เดินเล่นชมเมืองสไตล์ชิลล์ๆ อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่จะเลื้อยไล่ไปบนภูเขา บรรยากาศโดยรวมและอาคารบ้านเรือนของเมืองนี้จะมีสีสันที่ได้รับอิทธิพลหลายอย่างมาจากอิตาลี จัตุรัสที่อยู่ใจกลางเมืองก็จะเป็นสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เมืองเก่าเป็นที่ตั้งของย่านการค้า นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของตัวเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี พร้อมเพลิดเพลินกับการเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู้ที่พักโรงแรม  DE LA PAIX หรือเทียบเท่า

6

วันที่หกของการเดินทาง

ลูกาโน – สเตรซ่า – โบสถ์ริมผา S.Caterina del Sasso  – สเตรซ่า

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสเตรซ่า (STRESA) (105 กิโลเมตร) เมืองตากอากาศน่ารักๆริมทะเลสาบ Maggiore (Lago Maggiore) ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในเขตแดนของสองประเทศ คือ สวิส และอิตาลี่

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือสู่ เกาะ Isola Bella ซึ่งมีสวนแบบอิตาเลี่ยนที่มีชื่อเสียง และวิลล่าหรูหราศิลปะแบบ Baroque ของตระกูล  Borromeo

ล่องเรือสู่ เกาะ Isola Bella

เป็นเกาะอยู่ในทะเลสาบ Maggiore ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีตระกูล Borromeo เป็นเจ้าของเกาะ แปลตามตัวว่า เกาะที่สวยงาม โดยพื้นที่สองในสามของเกาะเป็นสวนบาร็อคสไตล์อิตาเลี่ยนซึ่งประดับไว้ด้วยรูปปั้น น้ำพุ ต้นไม้หายาก และ ไม้ดอกนานานาพันธุ์ อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Ocean Twelve อีกด้วย สวนบนเกาะจัดเป็นลานระเบียงซ้อนกันสิบชั้นมีความสูงถึง 120 ฟุต คล้ายกับเนินเขาย่อมๆ การออกแบบดังกล่าวได้เชื่อมพื้นที่ระดับต่างๆเข้ากับอาคารในตัววัง  ทำให้สวน และวังดูเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเกาะโดยรอบ มองเห็นทัศนียภาพที่ไกลออกไป อาทิ แนวเทือกเขาสูง และหมู่บ้านต่างๆที่กระจายอยู่ตามไหล่เขาทุกทิศทาง อิสระให้ท่านเดินชมความสวยงาม พร้อมเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพบรรยากศในสวนริมน้ำตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านล่องเรือกลับสู่ฝั่ง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่าน ล่องเรือเฟอร์รี่ สู่  โบสถ์ริมหน้าผา ซานต้า คาเทรีนา (Santa Caterina del Sasso)

โบสถ์ซานต้า คาเทรีนา (Santa Caterina del Sasso)

เป็นอาคารที่ตั้งอยู่บนหินผาที่ยื่นออกมาในทะเลในอ่าวบอร์โรเมโอ เป็นสถานที่ที่มีมนต์สเน่ห์หน้าหลงใหล เนื่องจากเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนทะเลสาบมัจโจเร ความโดดเด่นของโบสถ์แห่งนี้ก็คือ สถานที่ตั้งที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเหนือพื้นน้ำ ถูกค้นพบในศตวรรษที่ 12 โดยพ่อค้าชื่อว่า Alberto Besozzi แห่งเมือง Leggiuno ในตอนนั้นเรือเขาเกิดแตกที่บริเวณนี้จึงต้องอพยพมาอาศัยอยู่ในถ้ำและอุทิศตัวให้กับนักบุญแคเธอริน ปัจจุบันนี้โบสถ์แห่งนี้ได้รับการดูแลโดยชุมชนนักบุญเบเนดิกต์ ประกอบไปด้วยอาราม 3 หลัง ที่เป็นอาคารในสมัยปลายศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นศตวรรษที่ 14 ทางใต้จะเป็นสำนักแม่ชีหลังใหญ่ และหลังเล็ก ทางเข้าโบสถ์จะมีลักษณะเป็นระเบียงทางเข้ารูปโค้งมีเสาหินแกรนิตได้รับการประดับตกแต่งหน้ามุขรูปโค้ง ห้องโถงจะอยู่ชั้นใต้ดิน ส่วนห้องพักของนักบวชจะอยู่ชั้นหนึ่ง บนหน้าต่างห้องของนักบวชจะมีภาพเขียนบนกำแพงของแคเธอรินแห่งอะเล็กซานเดรีย ภายในโบสถ์ประดับด้วยประตูโค้งสถาปัตยกรรมแบบเรอแนซองส์ มีหอระฆังที่ตั้งอยู่บนทะเลสาบซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม GRANDHOTEL DINO ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

7

วันที่เจ็ดของการเดินทาง

สเตรซ่า โดโมดอสโซลา เส้นทาง THE SIMPLON PASS – หมู่บ้านเบตต์เมอแอลป์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทาง สู่ เมืองโดโมดอสโซลา (DOMODOSSOLA) (190 กิโลเมตร) เพื่อนำท่านเดินทาง

ผ่านอุโมงค์ เส้นทาง THE SIMPLON PASS สู่ เมืองบริก (BRIG)

เส้นทาง THE SIMPLON PASS   เป็นเส้นทางระหว่างเทือกเขา Pennine Alps และLepontine Alps ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เชื่อมต่อสู่ เมืองบริก (Brig)  ในรัฐวาเลกับเมืองโดโมดอสโซลา (Domodossola) ใน Piedmont (อิตาลี) ผ่านอุโมงค์ที่ถูกสร้างขึ้นใต้บริเวณทางผ่านในช่วงต้นศตวรรษที่ 20  เพื่อขนส่งทางรถไฟระหว่างสองประเทศ

 เดินทางถึง เมืองบริก (BRIG)  นำท่านแวะรับประทานอาหารกลางวัน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ สถานี Batten talstation (15 กิโลเมตร) เพื่อนำท่านนั่งรถไฟ และขึ้น

เคเบิล คาร์ต่อ สู่หมู่บ้านเบตต์เมอแอลป์ (BETTMERALP)  

หมู่บ้านเบตต์เมอแอลป์  (BETTMERALP) 

เป็นหมู่บ้านแสนสวยปลอดมลพิษ (ใช้รถไฟฟ้าทั้งเมือง) ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหมู่บ้านเล็กๆอันแสนน่ารักที่ซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขา Alp นอกจาะจะเป็น ski resort ที่มีชื่อเสียงในฤดูหนาวแล้วยังเป็นสถานที่ตากอากาศที่สวยงาม และเต็มไปด้วยดอกไม้สวยงามยามฤดูร้อน

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม WALDHAUS  หรือระดับเทียบเท่า

จากนั้นอิสระให้ท่าน เดินเล่นชมเมืองที่สามารถมองเห็นยอดเขาที่มีระดับความสูงกว่า 3,000 เมตร กว่า30 ยอด ของเทือกเขาแอล์ฟได้จากจุดชมวิวของตัวเมือง ในตัวเมืองจะมีร้านค้าต่างๆมากมายคอยบริการ

นักท่องเที่ยว จนได้เวลาอันสมควร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

8

หมู่บ้านเบตต์เมอแอลป์ – กิจกรรม ALPINE HIKING  – มองเทรอ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ทำกิจกรรม ALPINE HIKING  บริเวณเขต อเลทซ์อรีน่า (Aletsch Arena) 

กิจกรรม ALPINE HIKING  (BETTMERALP) 

จากนั้นนำท่านเดินเท้าสู่ จุดชมวิว ณ จุดชมวิวยอดเบตต์เมอร์ฮอร์น (Bettmerhorn)  เป็นระยะทาง 10.8 กิโลเมคร ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นความงามของธารน้ำแข็งอเลท์ซ กลาเซียร์ (Aletsch Glacier) ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยมีความยาวถึง 22 กิโลเมตร ยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย (หากอากาศเปิดท่านจะสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งได้อย่างชัดเจน)อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลิน และชื่นชมความงามของจุดชมวิวยอดเบททเมอร์ฮอร์น (Bettmerhorn)  และ อเลิท์ซ กลาเซียร์ (Aletsch Glacier) หลังจากชมวิวและเก็บภาพบรรยากาศอย่างเต็มที่แล้วจึงนำท่านลงจากเขา

*** หมายเหตุ *** ท่านที่เดินลงเส้นทางนี้ควรมีความฟิตของร่างกายระดับปานกลาง เครื่องกันหนาวตามฤดูกาล และที่สำคัญมาก คือ ร้องเท้าสำหรับเดินเขาที่กันลื่นได้ดี และช่วยลดแรงกระแทก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารระหว่างทาง GLETSCHERSTUBE

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ หมู่บ้านเบตต์เมอแอลป์ (BETTMERALP)  และนำท่านลงจากเขาโดยเคเบิ้ลคาร์สู่ สถานี Batten talstation เพื่อนำท่านเดินทางโดยต่อสู่ เมืองมองเทรอ (MONTREUX) (130 กิโลเมตร)

มองเทรอ (MONTREUX)

เป็นเมืองพักตากอากาศที่ได้รับสมญานามว่าเป็น ไข่มุกริเวียร่าแห่งสวิตเซอร์แลนด์ และที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางของการศึกษาวิชาการโรงแรมที่เลื่องชื่อจนได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของยุโรป  เดินทางถึง เมืองมองเทรอ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก EUROTEL RIVIERA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

<<< การันตีห้องพักเห็นวิวทะเลสาบทุกห้อง >>>

9

มองเทรอ – เนอชาแตล – ซุก -กิจกรรมเก็บผลไม้ตามฤกูกาล – บรุนเนน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเนอชาแตล (NEUCHATEL) (100 กิโลเมตร)

เนอชาแตล (NEUCHATEL)

เป็นเมืองริมทะเลสาบที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบ

เนอชาแตล (Lake Neuchatel) ทะเลสาบที่มีชื่อเดียวกับ เมือง และเป็นทะเลสาบใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ที่รองมาจากทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบ และปราสาทงาม อาคารบ้านเรือนในเขตเมืองเก่าจะออกในโทนสีเหลืองตามสไตล์ของสถาปัตยกรรมในยุคเรอเนสซองซ์ และนีโอคลาสสิค นำท่าน ผ่านชมปราสาทเนอชาแตล (Chateau de Neuchatel) เป็นปราสาทเก่าแก่ ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาเล็กๆในใจกลางเมืองเก่า จากปราสาทเราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองเนอชาแตลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบได้อย่างสวยงาม จนได้เวลาอันสมควร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (ZUG) (165 กิโลเมตร)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย จากนั้นให้ท่านสนุกสนานกับการทำกิจกกรม เก็บผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ สตรอเบอร์รี่ เชอร์รี่ ลูกพลัม เป็นต้น (FRUITE PICKING)  และเลือกซื้อผลไม้ที่สดจากในฟาร์มตามอัธยาศัย

** ใช้เวลาในการทำกิจกกรมทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง **

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองบรุนเนน (BRUNNEN) (30 กิโลเมตร) เป็นอีกหนึ่งในเมืองเล็กน่ารักที่

ขึ้นชื่อว่ามีทะเลสาบสวยที่สุดในสวิส

 ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  SEEHOTEL WALDSTATTERHOF  หรือเทียบเท่า

10

บรุนเนน – ซูริค – กรุงเทพ ฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินซูริค (ZURICH AIRPORT) (80 กิโลเมตร)

13.20 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินสวิส เที่ยวบินที่ LX 180

11

กรุงเทพ ฯ

05.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…..